จับเข่าคุย "สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์"
สำหรับ “สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์” กองกลางของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นอกจากลูกขยันขันแข็ง และความพยายามแล้ว ความรักที่มีต่อสโมสรที่เขาเล่นมาตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เขาก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลาง ภายใต้การคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างเต็มภาคภูมิ
ช่วงนี้ เราลองไปดูมุมมองของเขากันหน่อย ทั้งในแง่ของการเล่นฟุตบอล และการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกเลยว่า มันเป็นทัศนคติที่ยอดเยี่ยมมาก โดยไม่น่าแปลกใจเลยว่า แฟนบอลหลายคนอยากเห็นเขาก้าวมาเป็นกัปตันทีมคนต่อไปของพลพรรค "ปีศาจแดง"
คุณเข้าร่วมทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ คุณจำการฝึกซ้อมครั้งแรกได้หรือไม่ ?
“มันเป็นอะไรที่สนุกมาก แม้ว่ามันจะผ่านมานานกว่า 18 ปีแล้วก็ตาม เราเดินทางไปศูนย์พัฒนา พร้อมกับมีโค้ชที่คอยดูแลอย่างชาร์ลี แจ็คสัน กับมิค ดั๊กซ์บิวรี่ โดยคุณพ่อเป็นคนพาผมไปที่นั่น และเฝ้าชมผมลงฝึกซ้อมด้วย ถือเป็นอะไรที่สนุกเอามากๆ”
“ย้อนกลับไปวัยนั้น คุณต้องการแค่เพียงมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลของตัวเองให้มากที่สุด มากกว่าที่จะเน้นเรื่องทักษะ และลูกเล่นแปลกๆ นั่นคือสิ่งที่ช่วยเรื่องความมั่นคงในอนาคต เมื่อใดก็ตามที่เด็กๆ เดินเข้ามาถามผมเกี่ยวกับเรื่องของฟุตบอล ผมมักจะบอกพวกเขาเสมอว่า -จงสนุกกับฟุตบอลเข้าไว้- การเก็บสิ่งที่คุณรักเกี่ยวกับฟุตบอล ถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมาก”
คุณเป็นคนอ่อนไหวในเรื่องนั้นหรือเปล่า การเก็บความทรงจำในอดีตเอาไว้ ช่วยอะไรคุณบ้าง ?
“ใช่เลยล่ะ ไม่ใช่แค่การมองย้อนกลับไปนะ ผมสนุกกับการเล่นฟุตบอล ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม หากมีวันไหนที่คุณรู้สึกแย่ ทว่าลงไปเล่นฟุตบอลด้วยความรัก มันจะเปลี่ยนอารมณ์ของคุณไปอย่างสิ้นเชิง ผมว่าอารมณ์ของคุณเปลี่ยนแปลงไป เมื่อได้เล่นฟุตบอล”
“ตอนนี้ ผมสามารถไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนที่สวนหลังบ้าน เป็นเวลาหลายชั่วโมง มันยังคงเป็นเรื่องสนุกอยู่ ในช่วงซัมเมอร์นั้น ผมสามารถทำมันได้หลายชั่วโมงเลย นั่นเพราะผมมีความสุขกับฟุตบอลอยู่เสมอ โดยคุณพ่อสอนสอนผมตอนยังเป็นเด็กว่า -หากลูกไม่มีความสุขในการทำบางสิ่งบางอย่าง ก็อย่าลงมือทำมันเลย- ฟุตบอลพัฒนาจากงานอดิเรก กลายเป็นงานที่แท้จริงในขณะที่คุณต้องทำงานหนักเข้าไว้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องสนุกกับสิ่งที่ตัวเองทำ”
คุณยังจำรองเท้าสตั๊ดคู่แรกของตัวเองได้หรือไม่ ?
“ผมยังคงจำได้ มันเป็นอาดิดาส รุ่นพรีเดเตอร์ มันน่าตลกเหมือนกันนะ เพราะรูปร่างมันเป็นสีดำ, ขาว และแดง พร้อมกับมีลิ้นรองเท้าที่ใหญ่มหึมาสีแดง ผมยังคงมีรูปถ่ายที่ถ่ายร่วมกับมันอยู่ที่ไหนสักแห่ง ผมต้องไปค้นหามา มันเป็นรองเท้าที่น่าเหลือเชื่อ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ”
ย้อนเวลากลับไป เมื่อเรากำลังพูดถึงการเติบโต คุณต้องเห็นเพื่อนหลายคนต้องหลุดจากวงโคจรลูกหนังไป มันเป็นแรงผลักดัน ที่อยากให้คุณประสบความสำเร็จหรือเปล่า ?
“บางคนไม่ได้ห่างหายจากฟุตบอลนะ แค่พวกเขาไม่ได้รับความสนใจเหมือนที่ผมกำลังเป็น พวกเขาอาจจะเป็นนักเตะฝีเท้าดี แต่ว่ามีระดับความรักต่อฟุตบอลที่แตกต่างกัน ความจริงแล้ว ผมไม่อยากให้ใครหลุดจากวงการฟุตบอลหรอก คัลลัม วีแลน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน เราต่างเติบโตมาด้วยกันในระบบเยาวชน และช่วยผลักดันซึ่งกันและกัน (ซึ่งปัจจุบัน วีแลน เล่นกับโอลด์แฮม)”
3 ปีแล้ว นับตั้งแต่คุณเปิดตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ ดูเหมือนจะนานมาแล้วนะ มันบ้ามาก คุณช่วยอธิบายช่วงเวลาเหล่านั้นหน่อยซิ ?
“เวลาผ่านไปรวดเร็วอย่างน่าตกใจ !! เมื่อคุณลองมองย้อนกลับไป คุณอาจมีความคิดที่ว่า -บางที เราควรทำแบบนั้น หรือว่าควรทำแบบนี้- แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมันก็ไหลไปตามนั้นแหล่ะ โดยที่พ่อพูดกับผม ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า ทุกอย่างมันผ่านไปไวแค่ไหน และผมต้องเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร”
คุณรู้สึกว่าตัวเองโตเร็วกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทั้งในแง่ของการรับมือกับชื่อเสียง และฐานะทางการเงิน ?
“ผมยังคงคบกับเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก ผมสนิทกับเพื่อนมา 18 หรือ 19 ปี พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องของชื่อเสียง พวกเขาสนใจเพียงเพื่อนคนเดิมที่ชื่อว่าสก็อตต์ เพื่อนที่เติบโตด้วยกันมานานหลายปี เมื่อคุณเห็นผู้เล่นอายุน้อย รับเงินค่าเหนื่อยอย่างมหาศาล ในระยะเวลาที่รวดเร็ว นั่นคือสิ่งที่คุณต้องพึงระวังเอาไว้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม นั่นคือการดูแลครอบครัว”
เมื่อคุณก้าวข้ามแต่ละระดับกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณปรับตัวอย่างไรบ้าง ?
“ตั้งแต่ที่ผมเล่นให้กับทีม รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี จนถึงรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปี มันเป็นการเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ ส่วนมากเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ทั้งในแง่ของการแข่งขัน และการก้าวไปเล่นเกมระดับสูง”
“ผมอยากจะบอกเลยว่า ในแง่ของฟุตบอลแล้ว ไม่สำคัญว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เงินไม่ใช่ทางออกของความสุข พ่อแม่ของผมคอยเคียงข้าง และส่งผ่านคำแนะนำเหล่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรปล่อยเรื่องการเงินทิ้งไป คุณทำหน้าที่แค่เพียงเล่นฟุตบอลให้อย่างสุดความสามารถ ความจริงแล้ว ผู้เล่นอายุน้อยควรมุ่งเน้นไปที่เรื่องของฟุตบอล นี่คือความสำคัญ ในการก้าวผ่านช่วงแต่ละอายุ”
อะไรเกี่ยวกับการเป็นนักฟุตบอล ที่ทำให้คุณประหลาดใจ ?
“ไม่ใช่เรื่องง่าย กับการเล่นฟุตบอลอาชีพ มีเรื่องที่ยากลำบากมากมาย ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่คุณยังทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ พร้อมกับมีความกระหายที่จะพัฒนาตัวเอง ทั้งใน และนอกสนาม นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ย้อนเวลากลับไป สมัยที่ผมเล่นให้กับทีมยู-18 มีคนพูดถึงผมว่า -หมอนี่ตัวเล็กไป หมอนี่ไม่น่าจะเติบโตแล้ว หรือหมอนี่ดูไม่ใช่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเลย- แต่มันเป็นเพียงความคิดของคนภายนอกเท่านั้นแหล่ะ"
"เมื่อคุณก้าวขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่ ผลงานมันจะช่วยปิดปากผู้คนเหล่านั้นเอง นี่แหล่ะคือชีวิต คนเราไม่คิดในเชิงบวกตลอดเวลา และผมจะไม่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่รายล้อมด้วยพวกคิดลบด้วย ตราบใดที่ครอบครัวของผมมีความสุข ด้วยความสัตย์จริงเลย ผมก็จะมีความสุขเช่นเดียวกัน”