:::     :::

เดินหน้าต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
2,229
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลงานในช่วงนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้แฟนบอลหัวใจพองโต ทั้งฟอร์มการเล่น ทั้งบรรยากาศในทีมที่กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี

อาจจะยกเว้นการตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สร้างความผิดหวังให้เหล่าสาวกปิศาจแดง แต่ผลงานในลีกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และผลงานล่าสุดในศึกคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นั่นก็เพียงพอทำให้กองเชียร์ลืมเรื่องราวในศึก 'ยูซีแอล' ไปได้บ้าง

ยิ่งผลงานล่าสุดในการบุกชนะ เอฟเวอร์ตัน ถึง กูดิสัน พาร์ค เป็นการตอกย้ำและเพิ่มความสุขให้กับแฟนบอล ยูไนเต็ด เพราะนอกจากจะเอาชนะคู่แข่งได้สำเร็จ ฟอร์มการเล่นของบรรดานักเตะยังยอดยี่ยมอย่างมากเช่นกัน

ใครที่ได้ดูถ่ายทอดสดต่างพูดเสียงเดียวกันว่า ปิศาจแดง ชุดที่บุกชนะ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาเล่นได้มันสุดติ่งและดุดันอย่างมาก โดยเฉพาะ 45 นาทีแรกที่กดดันเจ้าบ้านแทบโงหัวไม่ขึ้น

เหลือเพียงจังหวะจบสกอร์ที่ทีมทำไม่ได้ ซึ่งดีว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถฉวยโอกาสหรือพลิกสถานการณ์หาจังหวะตอบโต้ ผีแดง ได้แบบจังเบอร์ ส่งผลให้ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แทบครองเกมตลอด 90 นาที

ว่ากันถึงการจัดทีมกันก่อนเพราะนัดที่ผ่านมา โซลชา ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง 9 ตำแหน่ง มีเพียง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เพิ่งทำสถิตินักเตะลงสนามมากที่สุดหากนับเป็นนาทีของปี 2020 และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางจอมแบกที่ลงเล่นต่อจากนัดถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด




ที่เหลือคือบรรดาตัวสำรองหรือนักเตะที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมเอาชนะ ยูงทอง ซึ่งพวกเขาได้โอกาสลงสนามเพื่อแสดงผลงาน และคนเหล่านั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

รูปเกมช่วงแรกที่ กูดิสัน พาร์ค แสดงให้เห็นว่าบรรยากาศและสปริตในทีมผีแดงตอนนี้กำลังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเตะแสดงให้เห็นความอยากเล่น ความมั่นใจในการสร้างผลงาน และไฟที่ลุกโชน แต่ละคนเดินหน้าบดบี้ฝ่ายตรงข้ามไม่ให้หายใจ โดยเฉพาะแนวรุกที่สลับสับเปลี่ยนเล่นงาน ทอฟฟี่สีน้ำเงิน แบบไม่ให้ตั้งตัว

ด้วยการเล่นระบบ 4-2-3-1 โดยมี เนมันย่า มาติช เป็นตัวยืนต่ำสุดในแผงมิดฟิลด์ ส่งผลให้นักเตะ 5 คนที่อยู่ข้างหน้ารวมไปถึงแบ็กสองฝั่งเดินหน้าเต็มเกมแบบไม่มีความเกรงใจเจ้าบ้าน

การยืนตำแหน่งของ มาติช เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าใจ เพราะเขาจะสลับสับเปลี่ยนในการทำหน้าที่กองกลางตัวตัดเกมซึ่งบางครั้งลงต่ำไปยืนเป็นปราการหลัง 3 คนร่วมกับ แม็กไกวร์ และ เอริค ไบยี่ แต่กองกลางชาวเซอร์เบียยังคงเดินหน้าทำเกมในบางจังหวะหรือโอกาสที่เห็นสมควร

คงไม่เกินไปหากจะเรียก มาติช ว่าคือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริงของเกมที่ผ่านมา การเคลื่อนที่ การยืนตำแหน่ง การตัดเกม การช่วยเชื่อมเกมระหว่างแนวรับที่ทำได้ยอดเยี่ยมทำให้ทีมแทบจะไม่เจอการคุกคามที่อันตรายเลย




สิ่งนั้นยิ่งทำให้ บรูโน่ กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค หรือแม้แต่ ปอล ป็อกบา สามารถเคลื่อนที่ทำเกมได้เต็ม และแน่นอนว่าทั้งสามรายก็ไม่ได้ลืมงานของตนเองในการช่วยไล่บอลสร้างความปั่นป่วนให้กับแผงมิดฟิลด์ เอฟเวอร์ตัน 

ต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่าชัดเจนแม้จะเปลี่ยนนักเตะไปถึง 9 ราย แต่นั่นก็ได้แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเชิงลึกของทีมดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ โซลชา สามารถวางใจสลับสับเปลี่ยนได้แบบที่ตนเองต้องการ

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ โซลชา มักพูดเสมอถึงคุณภาพเชิงลึกของทีม โดยเฉพาะในการแข่งขันปัจจุบันนี้ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียง 11 นักเตะชุดแรก แต่บรรดาตัวสำรองหรืออะไหล่ข้างสนามก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ทีมนั้นๆ ประสบความสำเร็จ และเกมที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาของ ปิศาจแดง ในยุค โซลชา แม้ว่าอาจจะมีช่วงที่กระท่อนกระแท่นสะดุดไปบ้างในบางครั้ง

ผลงานที่ กูดิสัน พาร์ค ได้ส่งสัญญาณที่ดีหลายๆ สิ่ง หนึ่ง คือบรรยากาศของทีมที่กำลังดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยม สีหน้านักเตะทุกคนต่างแสดงให้เห็นถึงความสุข ความปรารถนาในการสร้างผล และที่สำคัญคือความมุ่งมั่นที่แสดงออกมาพร้อมผลงาน




สอง คือคุณภาพเชิงลึก (อย่างที่เรียนไปข้างต้น) การสลับหมุนเวียนนักเตะถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกๆ ทีมในเวทีพรีเมียร์ลีกช่วงนี้ เพราะอย่าลืมว่าเมื่อเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส แต่ละทีมต้องลงสนามอย่างต่อเนื่องและติดๆ กันไปจนถึงต้นปีหน้า

การโรเตชั่นในนัดที่ผ่านมาจึงได้ผลทั้งในเรื่องของผลการแข่งขัน การได้พักนักเตะ และยังเพื่มความมั่นใจให้กับบรรดาตัวสำรองมากขึ้นกว่าเดิม 

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือการได้เห็นความยืดหยุ่นขอมทีมที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของแผนการเล่นที่เปลี่ยนแปลงมากหลากหลายรูปแบบในช่วงหลัง 

ยกตัวอย่างเกมที่ผ่านมา มีหลายๆ ครั้งที่นักเตะยืนตำแหน่งแตกต่างออกไป แต่นั่นไม่ได้ทำให้รูปเกมหรือรูปขบวนเสียไป แต่ยิ่งทำให้ทีมมีความหลากหลากหลายมากขึ้น

"เรารู้ว่าเมื่อเราป้องกันได้ดี เรามีนักเตะที่จะทำให้เราคว้าชัย สปิริตในทีมดีจริงๆ การเอาชนะมอบพลังงาน มอบแรงกระตุ้นให้กับเกมต่อไป

"เมื่อคุณชนะมันไม่สำคัญว่าคุณทำอย่างไรและคุณรู้ว่าคุณจะได้รับพลังงาน เราเอาชนะ เราเข้ารอบ ดังนั้นบางทีการเปลี่ยนทีมเหล่านั้นอาจจะไม่สำคัญ ผลการแข่งขันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเราเข้ารอบ 

"บรรดานักเตะรู้ว่าเราเชื่อใจพวกเขา เรามีทีมที่ใหญ่และในฤดูกาลนี้ทุกๆ คนต้องก้าวขึ้นมาในช่วงที่เวลาแตกต่างกัน มันเป็นเกมใหญ่สำหรับนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามมานาน ยกตัวอย่าง แอ๊กเซล ตวนเซเบ้ และ เอริค ไบญี่ พวกเขาไม่ได้เล่นมานาน พวกเขาได้ดีจริงๆ"




นั่นคือบทสัมภาษณ์บางส่วนของ โซลชา ในช่วงหลังจบเกมล่าสุด และต้องบอกว่าเห็นด้วยกับการที่เขากล่าวว่า 'เมื่อคุณชนะมันไม่สำคัญว่าคุณทำอย่างไร' เพราะบางครั้งแฟนบอลไม่สนหรอกว่าจะคว้าชัยมาด้วยวิธีไหน แต่ขอให้ทีมรักกลับออกมาในฐานะในฐานะผู้ชนะก็พอ

แต่สำหรับกุนซือและนักเตะ เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะมันคือเรื่องของแนวคิดและความเข้าใจในเกม นอกจากนั้นมันคือแนวทางของทีมที่จะทำให้นักตะทุกๆ คนเข้าใจร่วมกัน

สำหรับ ปิศาจแดง ผลงานที่ผ่านอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีว่านักเตะเริ่มเข้ากันได้ดีขึ้นและเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันกับที่กุนซือและโค้ชต้องการ ซึ่งหลักฐานสำคัญคงหนีไม่พ้นผลงานและผลการแข่งขันที่ออกมาในช่วงหลัง

มันคือการเริ่มต้นเส้นทางที่ยอดเยี่ยมของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการยืนระยะ เพราะอย่าลืมว่าทีมของ โซลชา บทจะเล่นดีก็ดีใจหาย แต่บทจะพลาดก็พลาดได้แบบที่ไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ เลย ... 




... ด่านต่อไปของ โซลชา และลูกทีมถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของพวกเขาเพราะต้องออกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ โดยมีอันดับ 2 ของตารางเป็นเดิมพัน 

สถิติ ปิศาจแดง เป็นต่อชัดเจนโดยเฉพาะในลีกที่ไม่แพ้ จิ้งจอกสีน้ำเงิน 11 เกมติดต่อกัน กระนั้นอย่างที่ทราบดีว่าไม่มีเกมไหนในฤดูกาลนี้ที่ง่ายสำหรับพวกเขา และแน่นอนว่านัดออกไปเยือน คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ก็จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับความยากลำบากและห้ามประมาทโดยเด็ดขาด

ผลงานที่ดีมาจากการทำงานอย่างหนัก แต่นั่นยังรวมไปถึงการทำหน้าที่อย่างไม่ประมาท ห้ามมองข้ามคู่แข่ง พร้อมกับการมีสมาธิกับเกมที่อยู่ตรงหน้า

เกมในวัน 'บ๊อกซิ่ง เดย์' จะเป็นนัดสำคัญในเดินหน้าการสานต่อผลงานของทีม และอย่างที่เคยกล่าวไปว่ามันคือบทพิสูจน์ของพวกเขาในการเล่นงานและเอาชนะทีมหัวตารางให้ได้

ความคาดหวังมีอยู่แน่นอน นั่นคือสิ่งที่นักเตะต้องลงไปแสดงให้เห็นในสนามว่าผลงานที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และทีมพร้อมเดินหน้ายกระดับตนเองให้ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ

เส้นทางในฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล แต่มันก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญในการฝังรากและสร้างผลงานที่ดีเพื่อต่อยอดในการเดินหน้าพุ่งชนความสำเร็จตามที่พวกเขาเคยกล่าวออกมาอยู่เสมอ



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด