:::     :::

ส่งท้ายไม่สวย

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
2,147
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"การเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การป้องกันแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า" ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดประโยคดังกล่าวนี้ไว้นะครับ แต่ตอนนี้แฟนลิเวอร์พูลน่าจะพอเข้าใจความหมายของประโยคนี้ได้อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียว




ปัญหามาไม่หยุด
    

          ก่อนหน้าที่ลิเวอร์พูลจะทำศึกกับนิวคาสเซิ่ลในค่ำคืนที่ผ่านมานี้นั้น พวกเขาเพิ่งได้รับข่าวร้ายมาหมาดๆ ครับ นั่นคือเซนเตอร์ฮาร์ฟตัวหลักจริงๆ ของพวกเขาอย่าง โชเอล มาติปนั้นต้องพักยาวไปอีกคนแล้ว ซึ่งนั่นเท่ากับว่าในฤดูกาลนี้กองหลังตัวกลางของพวกเขาที่มีทั้งหมดต้องเจ็บจนพักยาวไป”ทุกคน”แล้วครับ ต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้เซนเตอร์ฮาร์ฟจำเป็นอย่างฟาบินโญ่ จับคู่กับ 1 เซนเตอร์ฮาร์ฟดาวรุ่งของสโมสรต่อไปจนจบฤดูกาล ซึ่งนั่นคือวิกฤติอย่างหนักของลิเวอร์พูลทีเดียวครับ แต่จริงๆ แล้วนี่อาจจะเป็นเรื่องดีในอีกแง่มุมหนึ่งเหมือนกันนะครับ เพราะนั่นเท่ากับว่า เจอร์เก้น คล็อปป์คงจะต้องลงตลาดหน้าหนาวนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นการจะใช้เซนเตอร์ฮาร์ฟจำเป็นไปจนจบฤดูกาลแบบนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีแน่ๆ และอีกปัญหานึงคือ ตอนนี้ลิเวอร์พูลแทบไม่มีนักเตะกำลังสำรองที่พร้อมลงเล่นเลยครับ ทำให้เราได้เห็นกันใน Line Up ก่อนแข่งว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นทีมเดิมๆ แทบจะทั้งนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งลงสนามไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง จะมีก็เพียงแค่เปลี่ยนเอาเจมส์ มิลเนอร์มาแทนไวนัลดุ้มที่กรำศึกมาอย่างหนักเหลือเกินเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ส่งผลต่อสภาพความฟิตและสภาพจิตใจของนักเตะพอสมควรเหมือนกันครับ และแน่นอนครับ มันก็ส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขันในวันนี้เช่นกัน





ใครๆ ก็อยากล้มแชมป์ !   

          1 ในสาเหตุหลักๆ ที่การ”รักษาแชมป์” นั้นยาก  ก็เพราะว่าทีมคู่แข่งจะเล่นเต็มที่และเน้นเป็นพิเศษในการเจอกับแชมป์เก่านั่นแหละครับ นิวคาสเซิ่ลของสตีฟ บรู๊ซก็เป็น 1 ในนั้นเช่นกัน เขาวางแผนมารับมือกับลิเวอร์พูลได้อย่างดี ขึงแผงแนวรับไว้อย่างหนาแน่น ซึ่งดูๆ ไปแล้วแทบจะไม่ต่างอะไรกับทีมของบิ๊กแซมที่เพิ่งเจอกันไปเมื่อวันอาทิตย์นั่นแหละครับ และที่สำคัญคึือ ลูกทีมของเขาเองก็ตอบสนองต่อคำสั่งและแท็กติกที่บรู๊ซวางไว้ได้อย่างดีเยี่ยม 100% (หรืออาจจะ 120% เลยก็ได้ครับ) เลยจริงๆ ผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลทุกคนเข้าถึงบอลและเล่นเกมรับได้อย่างคึกคักและมีวินัยตลอดทั้งเกมจริงๆ ความทุ่มเทที่มีในเกมนี้เกินร้อยแทบทุกคน อาจจะมีเฉพาะบางคนอย่างฟาเบียน ชาร์ครับที่ดูทุ่มเทเกินจุดนั้นไปอีก เรียกได้ว่าเล่นแบบเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้วก็ได้ (ฮา) ทำให้เราเห็นว่าผู้เล่นแนวรับนิวคาสเซิ่ลทุกคนนั้นยกระดับมาตรฐานตัวเองขึ้นมาได้จนจัดการแนวรุกที่สุดอันตรายของลิเวอร์พูลได้อยู่หมัดจริงๆ แม้ว่าจะโดนนวดจนเจียนอยู่เจียนไปหลายรอบแต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังนิ่งพอและยังดึงสมาธิกลับมาเล่นเกมรับแบบที่วางแผนเอาไว้ได้ตลอด ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรครับ ธรรมชาติของทีมที่เจอกับทีมที่เก่งกว่าหรือเป็นแชมป์เก่าทุกๆ ทีมก็พร้อมที่จะทุ่มเทแบบนี้กันทั้งนั้น ลิเวอร์พูลต่างหากที่ต้องเรียนรู้ว่า “ต้องทุ่มเกินร้อย” ทุกนัดเช่นกัน ถ้าจะอยากจะเอาชนะทีมเหล่านี้ให้ได้





ไม่คม  ไม่ขึ้น

          จริงๆ จะว่าไปเกมนี้ลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นแย่อะไรครับ พวกเขายังพอจะสร้างสรรค์โอกาส และกดดันแนวรับคู่แข่งได้แทบจะตลอดทั้งเกมเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ถ้าใครได้ดูทั้งเกมก็น่าจะรู้สึกได้เหมือนกันครับว่า ความเฉียบคมของพวกเขาดูจะลดลงไปพอสมควร โม ซาล่าห์หรือมาเน่ที่เป็นดาราของทีม ที่ทั้งทีมฝากความหวังเรื่องยิงประตูหรือเปิดทางบุก ก็เจอซ้อน 2-3 คนตลอด และยังโดนปิดทางส่งไว้แทบจะทุกทิศทางจากปริมาณแผงหลังที่บรู๊ซได้วางแผนเอาไว้ เกมรุกจากแบ็กท้งสองฝั่งก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะครอสเข้าไปก็แทบไม่ได้ผลอะไร ส่วนหนึ่งก็เพราะมีแต่ผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลรอดักสกัดอยู่เต็มไปหมด แต่อีกส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ครับ ว่าลูกครอสจากแบ็กทั้งสองข้างของลิเวอร์พูลนั้นลดระดับความน่ากลัวและความแม่นยำลงไปพอสมควรเหมือนกัน โดยเฉพาะเทรนท์ อาโนลด์ที่ดูเหมือนว่ายังจูนหาเรดาห์ไม่เจอ ลูกเปิดของเขานั้นไม่แรงจนล้น ก็เปิดไม่ขึ้นอยู่หลายครั้งเลยทีเดียว นั่นก็ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดูอึดอัดไปมากทีเดียวครับ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังพอมีโอกาสทองที่จะยิงประตูให้ได้อยู่เหมือนกัน แต่เกมนี้ก็ดันทำได้ไม่ดีพอ ทั้งจากลูกของโม ซาล่าห์ที่โยกจนหลุดได้แล้ว แต่ก็ยิงออกไปเอง และจากจังหวะที่ฟิร์มิโน่ได้โหม่งโล่งๆ แต่ก็โหม่งไม่เข้ากรอบไปอย่างน่าผิดหวัง หรือทั้งจากความยอดเยี่ยมของนายทวารคาร์ล ดาร์โลว์ ที่เกมนี้เหนียวหนึบเหลือเกิน จากการที่เซฟลูกหลุดเดี่ยวของซาล่า และลูกโหม่งเหน่งๆ ของฟีร์มิโน่ได้อย่างเหลือเชื่อ และนอกจากนั้นลิเวอร์พูลเองก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีดวงชนะในเกมนี้เอาซะเลยจริงๆ  เมื่อจังหวะลูกขลุกขลิกๆ ทั้งหลายในเกมนี้ มันไม่ไปเข้าทางผู้เล่นลิเวอร์พูลเลยแม้แต่ลูกเดียว มันดูเหมือนว่าวันนี้ไม่ใช่วันของพวกเขาจริงๆ คล็อปป์นั้นก็พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วเหมือนกัน ดังที่เราเห็นว่าเขาเสี่ยงเอา ติอาโก้ ลงมาทั้งๆ ที่ดูแล้วก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าไร ซึ่งก็ทำให้เกมวูบวาบขึ้นมากพอสมควรจริงๆ ครับ แต่ก็ยังไม่พอที่ชนะแนวรับที่เปี่ยมไปด้วยวินัยของนิวคาสเซิ่ลในเกมนี้ได้จริงๆ





          สุดท้ายก็ต้องยอมรับกันไปกับผลเสมอนั่นแหละครับ ที่แย่กว่าคือไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สภาพร่างกายและสภาพจิตใจของนักเตะลิเวอร์พูลดูจะอ่อนล้าไปเสียจริงๆ  คล็อปป์อาจจะต้องหาอะไรมากระตุ้นลูกทีมให้กลับมาแข็งแกร่งเหมือนเก่า หรือยิ่งกว่าเก่าให้ได้ เพราะอย่างที่บอกล่ะครับ ว่าป้องกันแชมป์มันยากจริงๆ YNWA ครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด