อนาคตของ โรนัลด์ คูมัน เริ่มถูกตั้งคำถามแบบจริงจังมากขึ้นหลังเกมเสมอ เออิบาร์ 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเทรนเนอร์วัย 57 ปีจะอยู่ในตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า อีกนานแค่ไหน หลังทำผลงานแย่เก็บได้เพียง 25 คะแนนจากการลงเล่น 15 เกมแรกของซีซั่น
นั่นเป็นผลงานแย่สุดนับตั้งแต่ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด นำทีมอาซูลกราน่าเก็บได้เพียง 20 คะแนนจากการลงเล่น 15 เกมแรกของฤดูกาล 2003-2004 ก่อนจะเร่งเครื่องในช่วงครึ่งซีซั่นหลังจนเข้าป้ายตำแหน่งรองแชมป์จากการเก็บ 72 คะแนนเป็นรองเฉพาะ บาเลนเซีย เท่านั้น
คูมัน ยอมสละตำแหน่งกุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์สเพื่อย้ายมาทำงานตามความฝันนั่นคือเทรนเนอร์ของทัพอาซูลกราน่าด้วยการเซ็นสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2020 เพียง 2 วันหลังสโมสรสั่งปลด เอ็นรีเก้ เซเตียน ออกจากตำแหน่ง
จนกระทั่ง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี การ์เลส ตูสเก็ตส์ ทำหน้าที่ประธานสโมสรรักษาการพร้อมกำหนดวันเลือกตั้งประธานสโมสรคนต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2021
อนาคตของ คูมัน เริ่มมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นว่าเขาจะอยู่ทำงานไปจนครบสัญญา 2 ปีที่เซ็นไว้หรือไม่ เนื่องจากนโยบายของบรรดาแคนดิเดตต่างไม่เคยเอ่ยถึง คูมัน เพราะต่างมีเทรนเนอร์ตามแผนงานของพวกเขาแล้ว
คูมัน ถูกนักข่าวตั้งคำถามหลายครั้งเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แม้เทรนเนอร์ชาวดัตช์จะยอมรับว่าเขามีความกังวลใจเช่นเดียวกัน แต่มันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาจึงต้องทุ่มสมาธิไปที่การนำทีมทำผลงานที่ดีในสนาม ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต
ก่อนที่ ตูสเก็ตส์ รักษาการประธานสโมสรบาร์ซ่าจะออกมายืนยันความชัดเจนว่าเขายังหนุนหลังการทำงานของ คูมัน ต่อไป ทว่า ตูสเก็ตส์ อยู่ในฐานะนั้นเพียงวันที่ 24 มกราคม 2021 หรือจนกว่าจะมีประธานสโมสรคนใหม่เท่านั้น
ปัจจุบัน บาร์เซโลน่า อยู่อันดับ 6 ของลีกเมืองกระทิงมี 25 คะแนนจากการลงเล่น 15 นัด ตามหลังจ่าฝูง แอตเลติโก มาดริด ถึง 10 แต้มและยังลงเล่นมากกว่าทีมตราหมี 1 เกม ซึ่งทำให้ คูมัน เอ่ยปากหลังเกมเสมอ เออิบาร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าภารกิจการล่าแชมป์ ลา ลีกา กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น
คูมัน อาจอ้างว่าการทำผลงานย่ำแย่ของทีมอาซูลกราน่ามาจากการไม่ได้เสริมทัพด้วยนักเตะอย่างที่ต้องการโดยเฉพาะ เมมฟิส เดอปาย กองหน้าชาวดัตช์ของ ลียง กับ เอริก การ์เซีย กองหลังชาวสเปนของ แมนฯซิตี้ รวมถึงการบาดเจ็บของนักเตะหลายคน
แต่โค้ชชาวดัตช์ทราบดีตั้งแต่ตัดสินใจรับงานในช่วงกลางเดือนสิงหาคมว่าสโมสรกำลังมีปัญหาทางการเงินและไม่มีงบพอสำหรับการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ เว้นแต่ว่าจะปล่อยนักเตะออกจาก 'คัมป์ นู' เหมือนกรณีที่ขาย เนลซอน เซเมโด้ ให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนนำค่าตัวแบ็กขวาชาวโปรตุกีสแลกเปลี่ยนเป็น แซร์จินโญ่ เดสต์ แบ็กดาวรุ่งชาวมะกันจาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม
อย่างไรก็ตามการปล่อยทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ, อีวาน ราคิติช กับ อาร์ตูโร่ วีดาล แทบจะไม่ได้ค่าตอบแทนกลับคืนมาเนื่องจากสโมสรต้องการเพียงลดภาระค่าจ้างนักเตะเท่านั้น
การปล่อย หลุยส์ ซัวเรซ กลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงกันมาก หลัง คูมัน เห็นดีเห็นชอบกับ บาร์โตเมว จนกระทั่งร่วมกันแบบหัวหอกชาวอุรุกวัยตัดสินใจย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' สำเร็จ ก่อนที่ทีมอาซูลกราน่าจะมีปัญหาที่ตำแหน่งหน้าเป้าที่เทรนเนอร์ชาวดัตช์ยังแก้ไม่ตกจนถึงปัจจุบัน
มาร์ติน เบรธเวต เป็นคนล่าสุดที่ถูกส่งลงเล่นหน้าเป้า แต่แนวรุกชาวเดนส์ไม่ใช่หัวหอกที่สามารถฝากความหวังได้เหมือน หลุยส์ ซัวเรซ เขามีบทบาทเป็นเพียงอะไหล่ ไม่ใช่ขุมกำลังหลักในแนวรุกของทีมอย่าง บาร์เซโลน่า
ขณะเดียวกัน หลุยส์ ซัวเรซ ยังแสดงให้เห็นว่าเขายังมีพิษสงพร้อมเล่นงานแนวป้องกันคู่แข่งทุกเมื่อ เขาทำ 8 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมบนเวทีลีกามากกว่านักเตะทุกคนของ บาร์เซโลน่า
สาวกบาร์เซโลนิสต้าหงุดหงิดกับการตัดสินใจของฝ่ายบริหารและเทรนเนอร์สำหรับการปล่อย หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีม แถมยังเป็นการติดอาวุธให้คู่แข่งแย่งความสำเร็จโดยตรงอย่าง แอตเลติโก มาดริด ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดมากขึ้นจนอาจกล่าวได้ว่าไม่โง่ก็บ้าที่ตัดสินใจแบบนี้
คูมัน ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในแนวทางการทำทีมของตนเอง เทรนเนอร์ชาวดัตช์เลือกที่จะปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของทัพอาซูลกราน่าที่เล่นด้วยระบบ 4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1 รวมถึง 3-5-2 ในปัจจุบัน โดยอ้างว่าเป็นระบบที่ลงตัวกับขุมกำลังนักเตะชุดนี้มากสุด
ทว่าผลงานของ บาร์เซโลน่า ยุค คูมัน ยังไม่ไหลลื่นอย่างที่คาดหวัง ทั้งที่เทรนเนอร์ชาวดัตช์มองว่าระบบดังกล่าวจะทำให้เกมป้องกันมั่นคงมากขึ้น แต่ผ่านมาเกือบครึ่งทาง ทีมอาซูลกราน่ายังมีปัญหาทั้งสองส่วนไม่ว่าจะเป็นแนวรุกหรือเกมรับ ซึ่งรวมถึงความผิดพลาดส่วนตัวของนักเตะด้วย
อีกปัญหาสำคัญของ คูมัน คือการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักอย่าง เคราร์ด ปีเก้, อันซู ฟาตี หรือรายล่าสุด ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ แต่มันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกทีมและเทรนเนอร์มีหน้าที่แก้ไขโดยตรง
จากการเริ่มต้นซีซั่นด้วยผลงานที่น่าผิดหวังทำให้ คูมัน ทำงานภายใต้ความกดดันมากขึ้น แต่เทรนเนอร์ชาวดัตช์ยังโชคดีอยู่บ้างที่รัฐบาลสเปนยังไม่อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ'โควิด-19'
ถ้าหากเกิดขึ้นในสถานการณ์ปกติ คูมัน คงต้องเผชิญกับเสียงก่นด่าและโห่ไล่จากสาวกบาร์เซโลนิสต้าใน 'คัมป์ นู' แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามสื่อแคว้นกาตาลุนย่าเริ่มมองถึงผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์คนต่อไปของ บาร์เซโลน่า หากมีการปลด คูมัน ออกจากตำแหน่งในอนาคต
คนแรกที่ถูกกล่าวถึงไม่ใช่คนอื่นไกลนั่นคือ ชาบี เอร์นานเดซ อดีตมิดฟิลด์ระดับตำนานของ บาร์เซโลน่า ที่เคยค้าแข้งกับสโมสรในช่วงปี 1998-1995 ปัจจุบันทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ อัล ซาดด์ สโมสรดังของกาตาร์
บาร์เซโลน่า เคยทาบทาม ชาบี มารับตำแหน่งเทรนเนอร์ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่ บาร์เซโลน่า จะดึง เอ็นรีเก้ เซเตียน มาเสียบแทน เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เนื่องจากอดีตมิดฟิลด์วัย 40 ปีไม่ต้องการทำงานระหว่างฤดูกาล
แน่นอนว่าหากมีการสั่งปลด คูมัน ออกจากตำแหน่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการก้าวขึ้นมาของประธานสโมสรคนใหม่ ชื่อของ ชาบี จะถูกกล่าวถึงเป็นคนแรก เพียงแต่เขาจะกลับลำย้ายมารับงานในช่วงเดือนมกราคมหรือไม่
กรณีที่ไม่มีเทรนเนอร์คนใดยอมรับงานที่ 'คัมป์ นู' ระหว่างซีซั่น บาร์เซโลน่า ยังมีแผนรองรับนั่นคือการโปรโมต ฟรานซิสโก้ ฆาเบียร์ การ์เซีย ปีเมียนต้า ขึ้นมากุมบังเหียนชั่วคราวจนกระทั่งจบฤดูกาล
ปีเมียนต้า วัย 46 ปี ทำงานกับทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า มาตั้งแต่ปี 2006 ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นมาคุม บาร์เซโลน่า เบ ตั้งแต่ปี 2018 และเคยนำทีมเด็กบาร์ซ่าคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูธ ลีก ในซีซั่น 2017-2018
เขายังมีสัญญาจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2021 และรู้จักปรัชญาของทีมอาซูลกราน่าเป็นอย่างดี ดังนั้น ปีเมียนต้า จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมหากทีมยักษ์กาตาลุนย่าต้องการเทรนเนอร์ขัดตาทัพในกรณีที่ไม่ทนกับผลงานของ คูมัน
บาร์เซโลน่า มีโปรแกรมลงเตะอีก 5 เกมจนถึงวันเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2021 ไล่จาก อ้วยส์ก้า (เยือน), แอธเลติก บิลเบา (เยือน), กรานาด้า (เยือน) คั่นด้วยเกม ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า รอบรองชนะเลิศ กับ เรอัล โซเซียดาด ก่อนถึงเกมเยือน เอลเช่ บนเวทีลีกา
จากนั้นทีมอาซูลกราน่าจะเปิด 'คัมป์ นู' รับมือ แอธเลติก บิลเบา ในวันที่ 31 มกราคม 2021 ซึ่งน่าจะมีประธานสโมสรคนใหม่อย่างเป็นทางการ เพียงแต่ คูมัน จะมีโอกาสทำงานฐานะเทรนเนอร์บาร์ซ่าไปจนถึงวันนั้นหรือไม่เท่านั้น
