รามอส-มาดริด จบอย่างไร?
ข่าวจาก ‘El Chiringuito’ รายการลูกหนังดัง เผยรายละเอียดบทสนทนาระหว่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กับ ‘เอล กาปิตัน’ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา เล่าเหตุการณ์ว่า เปเรซ เดินเข้าไปในห้องพักของ รามอส ที่โรงแรมในเมืองเอลเช่ ช่วง 2 ชั่วโมงครึ่งก่อนเกม เอลเช่-เรอัล มาดริด เพื่อเจราจา
ภายในห้อง ไม่มีคนกลาง ไม่มีการเล่นลิ้น ด้วยความสัมพันธ์กว่า 15 ปีระหว่าง เปเรซ กับ รามอส พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเรื่องพรรค์นั้น ทุกคำพูดของทั้งคู่ล้วนตรงไปตรงมา
ท่านประธานเรอัล มาดริด บอกข้อเสนอของเขา ‘สัญญาเพิ่ม 1 ปี ค่าเหนื่อยเท่าเดิม 12 ล้านยูโร’ พร้อมเงื่อนไขในอนาคตที่ รามอส จะต้องยอมลดค่าเหนื่อยลง 10% ตามนโยบายรัดเข็มขัดของสโมสรที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในอีกไม่นานนี้
‘SR4’ ตอบปฏิเสธ บอกกับ เปเรซ ว่าข้อเสนอที่ยื่นให้มานั้น เขาไม่สามารถยอมรับได้ และจากนี้ไป เขาจะเปิดรับฟังข้อเสนอจากที่อื่นๆ
ฝั่ง เปเรซ ว่าสโมสรไม่สามารถยื่นค่าเหนื่อยให้ได้มากกว่านี้แล้ว เหตุเพราะข้อจำกัดทางการเงินในปัจจุบัน และเข้าใจดีหาก รามอส จะรับฟังข้อเสนอใหม่ๆ
เพิ่มเติมจากตรงนี้ โจเซป เปโดรโรล พิธีกร ‘El Chiringuito’ อ้างว่า รามอส ได้รับการบอกกล่าวจาก คนของ เปแอสเช ว่าพวกเขากำลังสร้าง ‘ซูเปอร์ทีม’ ขึ้นมา โดยมีเขาและนักเตะบาร์เซโลน่าที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ อยู่ในแผน
ข่าวเกี่ยวกับ เปแอสเช ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่โดยหลักการก็เป็นไปได้อยู่แล้วที่พวกเขาจะสนใจดึงนักเตะอย่าง รามอส ไปเล่นด้วย ทว่าข่าวเพิ่มเติมที่อ้างว่ายักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอมพร้อมยื่นให้ปีละ 20 ล้านยูโร ก็คงจะต้องชั่งน้ำหนักสักหน่อย
จริงอยู่ นับจากนี้อีกราว 6 เดือน รามอส จะอยู่ในสถานะฟรีเอเจนต์ ทีมที่ดึงตัวเขาไปไม่ต้องจ่ายอะไรให้กับ เรอัล มาดริด แต่ค่าเหนื่อยระดับ 20 ล้านยูโร ก็ดูจะแพงไม่น้อยในยุคโควิดบุกโลก ยิ่งคิดถึงระยะเวลาของสัญญาที่ตัว รามอส คงไม่ยอมรับต่ำกว่า 1 ปีแน่
ส่วนการลากเอาชื่อของ เมสซี่ เข้าไปพัวพันด้วย ตรงนี้ยากจะเชื่อได้ แม้ เปแอสเช จะเคยทำให้โลกลูกหนังตาค้างมาแล้วจากกรณีของ เนย์มาร์
กระนั้น ก่อนที่จะคิดไปไกล ขอวกกลับไปที่ประเด็นของ รามอส กับ เรอัล มาดริด ก่อน ว่ามีแนวโน้มที่จะตกลงกันได้หรือไม่ ? ตรงนี้แหละคือจิ๊กซอว์ตัวแรกสำหรับภาพในอนาคตที่เหลือ
“มาดริด กับ รามอส มีโอกาสตกลงกันได้หรือไม่ ?”
คำตอบคือ “ยังมีครับ” เพียงแต่มุมมองส่วนตัวของผมคิดว่าโอกาสที่สองฝ่ายจะ “ตกลงกันไม่ได้” มีมากกว่านิดหน่อย จริงอยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ รามอส มีประเด็นเรื่องต่อสัญญากับ เรอัล มาดริด
หลายคนคงจำได้กับเหตุการณ์เมื่อปี 2015 ที่มีข่าว รามอส ขู่ว่าจะย้ายไป แมนฯยูไนเต็ด แต่แล้วท้ายที่สุดก็จบลงแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง
หรือในปี 2018 ที่ รามอส ขอให้ต้นสังกัดปล่อยตัวเขาแบบฟรีๆให้กับทีมในไชนีสซูเปอร์ลีก แล้วก็ลงท้ายแบบเดิมคือ รามอส อยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อ
สำหรับเหตุการณ์ในปี 2015 ผมคิดว่า รามอส ไม่ได้จริงจังกับ แมนฯยูไนเต็ด เท่าไหร่นัก เหมือนเอา ‘ปีศาจแดง’ มาเป็นเครื่องต่อรองเรียกร้องค่าเหนื่อยเพิ่มเสียมากกว่า
ส่วนในปี 2018 นั้น มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้วที่จู่ๆ เปเรซ จะปลดล็อคยกเลิกสัญญาให้ รามอส โบยบินไปโกยเงินหยวนฟรีๆ
ในปี 2015 ที่ เปเรซ ยอมทำตามข้อเรียกร้องของ รามอส ผมเชื่อว่ามีเหตุผลหลักๆอยู่ 2 ข้อด้วยกัน
หนึ่ง...ฟอร์มการเล่นที่ยังยอดเยี่ยมและอายุการใช้งานที่ยังเหลืออีกพอสมควรของ รามอส
สอง...เวลานั้น เปเรซ เพิ่งจะมีประเด็นดราม่าบีบ อีเกร์ กาซียาส ออกจากทีมแบบจบกันไม่สวย เขาจึงไม่ต้องการเพิ่มความโกรธเกรี้ยวให้กับแฟนๆด้วยการปล่อยกัปตันอีกคนออกไปในเวลาเดียวกัน
แต่มาครั้งนี้ รามอส ไม่ได้อายุ 29 อีกแล้ว ตอนนี้เขา 34 อายุการใช้งานในสนามเหลืออีกเต็มที่ก็แค่ 2 ปีเท่านั้น หรืออาจจะแค่อีกปีเดียวก็เป็นได้
เช่นนี้แล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากที่ เปเรซ จะยอมถอยให้ รามอส เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน อีกประการ ผมเชื่อว่า เปเรซ เป็นประธานสโมสรคนละแบบกับ โจเซป บาร์โตเมว ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเก็บ เมสซี่ เอาไว้กับ บาร์เซโลน่า...เหตุผลที่สนับสนุนความคิดนี้ของผมก็คือเหตุการณ์ในซัมเมอร์ปี 2018
หนนั้น เปเรซ ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ยอมลงให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกต่อไป เขาไม่ชอบโดนบีบอยู่ฝ่ายเดียว และด้วยวัยของ CR7 ตอนนั้นที่ย่าง 33 บวกด้วยข้อเสนอระดับ 100 ล้านยูโรจาก ยูเวนตุส จึงทำให้ดีลที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น
ในเคสของ รามอส ผมยังเชื่อว่า เปเรซ ก็จะพยายามเดินตาม policy ของสโมสรนั่นคืออายุมากกว่า 30 ต่อให้แค่ 1 ปี หรือบวกอ๊อปชั่นต่อเพิ่มอีก 1 ปีแบบมีเงื่อนไข (1+1)
ข้อเสนอต่อสัญญา 1 ปีพร้อมค่าเหนื่อยเท่าเดิมในยุคที่รายได้ของสโมสรฝืดเคือง ทั้งยังคาดเดาไม่ได้เลยว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อไหร่ ผมว่า เปเรซ ก็แฟร์กับ รามอส พอสมควรแล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ไม่ได้บีบคั้นจนเกินไป สัมผัสได้ถึงความเป็นเหตุเป็นผล
ส่วนในเรื่องของความรู้สึก ความรัก ความผูกพัน การตอบแทนคุณงามความดีนั้น ผมคิดว่าแต่ละคนมีมาตรวัดไม่เท่ากัน ถกกันไปก็คงจบยาก ว่า รามอส ควรได้อะไร-เท่าไหร่จากสิ่งที่เขาทำให้กับสโมสรตลอด 15 ปี
ในทางกลับกัน ถามว่า รามอส ผิดหรือไม่ที่ไม่ยอมรับข้อเสนอจาก เปเรซ ?
ผมก็มองว่าไม่ผิด แต่ละคนมีวิธีคิดไม่เหมือนกัน ผู้บริหารกับลูกจ้างจะให้มองมุมเดียวกันทุกเรื่องก็คงเป็นไปไม่ได้
รามอส มีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งเขารู้ดีว่าสัญญาครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นฉบับสุดท้ายในชีวิตค้าแข้ง ดังนั้นเขาจึงต้องการความมั่นคง ให้ทุกอย่างเดินไปตามแผนที่วางไว้ให้กับตัวเองในช่วงบั้นปลาย ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นการได้ลงเล่นในระดับสูงสุดอย่างน้อยอีก 2 ปีโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร
ในสนามก็คือในสนาม ที่ใช้แพสชั่นความหลงใหลเป็นตัวนำ ส่วนในออฟฟิศก็ต้องเจราจากันในเชิงธุรกิจ ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไร รามอส ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ในทางกลับกัน เปเรซ ในฐานะประธาน ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ เรอัล มาดริด เช่นกัน
กระนั้น ก็หวังอย่างยิ่งครับว่าทั้งสองฝ่ายจะกลับมาตกลงกันได้ในที่สุด
เจมส์ ลา ลีกา