:::     :::

ไม่ดี แต่ดีพอ

วันเสาร์ที่ 09 มกราคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,323
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่น่าจะเป็นความโชคดีไม่กี่ครั้งในฤดูกาลนี้ที่เกิดขึ้นกับลิเวอร์พูลครับ ที่พวกเขาพบเจอกับทีมที่มีปัญหามากกว่าพวกเขา และมันมาได้อย่างถูกจังหวะดีเหลือเกิน ในช่วงที่ทีมกำลังควานหาจุดเปลี่ยนหรือหาชัยชนะเพื่อที่จะเรียกความมั่นใจของทีมให้กลับคืนมา อะไรมันจะเหมาะไปกับเกม "ตบเด็ก" แบบนี้ล่ะครับ




สลับสับขั้ว

          ถ้าทุกคนยังพอจำกันได้เมื่อฤดูกาลก่อน ที่ลิเวอร์พูลมีคิวต้องไปเตะถ้วยชิงแชมป์สโมสรโลก และต้องมีคิวชนกับฟุตบอลถ้วยในประเทศ อย่างคาราบาว คัพ ลิเวอร์พูลเองก็ไม่มีตัวลงเล่นจนต้องส่งทีมเยาวชนลงทั้งชุดเพื่อชนกับแอสตันวิลล่า จนทำให้ผลสกอร์ออกมาแพ้ไป 5-0 แบบขาดลอยไปเลย แต่มาวันนี้สถานการณ์ดูเหมือนจะเล่นตลกครับ เมื่อทั้งสองทีมสลับขั้วกันอย่างตลกร้าย เพราะผู้เล่นชุดใหญ่ของแอสตันวิลล่า มีข่าวว่าติดเชื้อโควิท - 19 กันกว่าครึ่งค่อนทีม ทำให้แอสตัน วิลล่าต้องส่งทีมชุดเยาวชนลงมาทั้งทีมแบบเดียวกับลิเวอร์พูลเด๊ะๆ แม้แต่โค้ชที่คุมทีมยังเป็นมาร์ค เดลานี่ย์ที่เป็นโค้ชทีมชุดเยาวชนของแอสตันวิลล่าเลยครับ  แต่ถึงแม้วิลล่าจะส่งชุดเยาวชนลงมาเล่นในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ก็ไม่ได้สนใจครับ ยังใช้ชุดผสมเป็นผู้เล่นชุดสองและผู้เล่นชุดใหญ่ลงมาในเกมนี้เหมือนเดิม ก็อย่างว่าล่ะครับ ถ้าจะหาเกมที่เรียกความมั่นใจให้ลูกทีมของเขากลับมาเล่นด้วยความเชื่อมั่นได้เหมือนเดิม จะมีนัดไหนเหมาะไปกว่านัดนี้กันเล่า !!!?? เราจึงได้เห็นทั้ง มาเน่  ซาล่าห์  เฮนโด้ ฟาบินโญ่  ไวจ์นัลดุม ลงมากันหน้าสลอนครับ จะมีเด็กบางคนที่ได้รับโอกาสก็เช่น  ควีวิน เคลเลเฮอร์ , เนโก้ วิลเลี่ยมส์ , รีห์ส วิลเลียมส์  ลงมาเล่นเกมนี้ ซึ่งพอเป็นแบบนี้แล้ว ผลการแข่งขันก็ไม่น่าจะเป็นนัยยะสำคัญแล้วล่ะครับ เพราะว่ายังไงเสียลิเวอร์พูลเองก็น่าจะเอาชนะไปได้ไม่ยาก รูปเกมและวิธีการเล่นในสนามต่างหากครับที่ต้องจับตาดูว่าพลพรรคหงส์แดงจะเล่นในเกมนี้เป็นอย่างไร





ยังไม่ฟื้น

    
          ลิเวอร์พูลนั้นขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วครับ เมื่อเคอร์ติส โจนส์ครอสบอลไปให้ซาดิโอ มาเน่โขกเข้าไปอย่างสวยงามตั้งแต่นาทีที่ 3 ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เกมนี้ดูง่ายเข้าไปใหญ่ครับ และนั่นทำให้ผู้เล่นลิเวอร์พูลนั้นดูจะ “เฉื่อย” ไปอย่างเห็นได้ชัดเลย อาจจะเป็นเพราะคิดว่าพวกเขานั้นเหนือกว่าคู่่ต่อสู้อย่างวิลล่ามากก็ได้ครับ ทำให้เกมของพวกเขานั้นไม่เร่งรีบ และไม่เน้นอะไรเลย โอกาสที่จะทำประตูหนีไปหลายต่อหลายครั้ง ก็กลับทิ้งขว้างไปอย่างน่าเขกกะโหลกจริงๆ คนที่นานๆ ทีจะได้รับโอกาส อย่างมินามิโนะเอง ก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มเด่นอะไร ซาล่าห์เองช่วงนี้ก็ดูเหมือนว่าฟอร์มของเขาจะดร๊อปลงไปจริงๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ เจ้าหนูรีห์ส วิลเลียมส์ นี่แหละครับ เพราะจากการที่ลิเวอร์พูลเองทำประตูหนีคู่แข่งไปไม่ได้ซักที ก็เกิดเหตุการ “ช๊อค” กันทั้งบางครับ เมื่อแอสตันวิลล่าตีเสมอลิเวอร์พูลได้อย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่วิลลาตัดบอลได้ก่อนสวนกลับ เปิดยาวให้้ลู แบร์รี่ ที่เบียดเอาชนะรีห์ส วิลเลียมสได้และใช้ความเร็วควบแซงหลุดเดี่ยวไปยิงโค้งหนีมือเคลเลเฮอร์เข้าไปอย่างสวยงาม จังหวะนี้มันไม่ใช่แค่การเสียประตูครับ  แต่มันคือการ “โชว์แผล” ของลิเวอร์พูลให้คู่แข่งเห็นอย่างชัดเจนจริงๆ  เจ้าหนูรีห์ส วิลเลียมส์ นี่ใครๆ ก็เห็นแล้วครับว่าความเร็วคือจุดอ่อนของเขา และในเกมนี้เขาเองก็กลับทำให้จุดอ่อนอันนี้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก ....  ตรงนี้น่าเป็นห่วงครับ เพราะถ้าคล็อปป์เลือกหยิบจับเขามาใช้งาน เขาน่าจะโดนคู่แข่งใช้จุดอ่อนนี้เข้าเล่นงานอีกอย่างแน่นอน  พอโดนลูบคมแบบนี้เหมือนนักเตะลิเวอร์พูลเองก็ช๊อตไปดื้อๆ เหมือนกันครับ พวกเขาพยายามเร่งเกมตัวเองแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ จบครึ่งแรกไปแบบผลสกอร์สุดช็อค 1-1





ดีพอแต่ไม่ดีมาก


          คาดว่าช่วงพักครึ่งคล็อปป์เองคงจะเฉ่งนักเตะของตัวเองชุดใหญ่เลยล่ะครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะในครึ่งแรกนี้พวกเขาทำได้แย่จริงๆ ครับ ไม่มีความมุ่งมั่นทุ่มเท ไม่มีความแม่นยำ ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีการประสานงานอะไรกันเลย และเขาก็เลือกที่จะเสริมเกมบุกให้มากขึ้นครับโดยการส่งติอาโก้ลงมาแทนกัปตันเฮนโด้ ที่เกมนี้ก็ดูจะเนือยๆ ไปเหมือนกัน ซึ่งเกมของลิเวอร์พูลก็ดูดีขึ้นครับ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะได้ประตูนำเสียที จนสุดท้ายคล็อปป์เองก็ทนไม่ไหวครับส่ง บ็อบบี้ ฟีร์มิโน่กับแชค ชาคิรี่ลงมา และพอทั้งคู่ลงสนามมาได้ไม่นาน ลิเวอร์พูลก็ได้ประตู 2-3 ลูกติดๆ กันเฉยๆ ซะอย่างนั้น จากจังหวะที่จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ยิงไกลบริเวณกรอบเขตโทษเข้าเสียบเสาเข้าประตูไปนาทีที่ 61 และ ได้จากลูกโหม่งของมาเน่ ในนาทีที่ 63 และจากลูกยิงของซาล่าห์ในนาทีที่ 65 เรียกได้ว่าบทจะได้ก็ได้มาง่ายๆ เสียเฉยๆ ซะอย่างนั้น และจนสุดท้ายก็ประคองตัวด้วยสกอร์นี้ไปจนจบการแข่งขั้นนั่นแหละครับ ซึ่งก็ถือว่าลิเวอร์พูลนั้นก็ยัง “ดีพอ” ที่จะเอาชนะในนัดนี้ไปได้ล่ะครับ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โชว์ฟอร์มน่าประทับใจอะไรเท่าไรก็ตาม ....


สิ่งที่ได้จากเกมนี้

    
          แน่นอนครับ ทีมที่กำลังเป๋และต้องการจุดเปลี่ยนอะไรซักเกมอย่างลิเวอร์พูลในตอนนี้ ชัยชนะสวยๆ ซักนัดก็ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่จะเสริมกำลังใจให้พวกเขาได้เป็นอย่างดีล่ะครับ  จริงๆ เกมนี้ถ้านับจากผลสกอร์นั้นลิเวอร์พูลเองก็ชนะได้ท่วมท้นตามคาดนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่ารูปเกมและทัศนคติของพวกเขาในเกมนี้นั้นมันยังดูไม่ค่อยน่าพอใจซักเท่าไร การสร้างสรรค์เกม การประสานงานของพวกเขาก็ยังติดๆ ขัดๆ อยู่นั่นแหละครับ แต่อย่างน้อยจำนวนประตูแลชัยชนะในนัดนี้ก็น่าจะช่วยเสริมความมั่นใจให้พวกเขาก่อนศึกสำคัญที่จะพบกับแมนฯ ยูฯ ในสุดสัปดาห์นี้ได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ อีกจุดนึงก็คือคล็อปป์เองต้องพิจารณาและเลือกให้ดีสำหรับตำแหน่งเซนเตอร์ฮาร์ฟแล้วล่ะครับ เมื่อตัวเลือกที่เขาชอบหยิบมาใช้อย่างรีห์ส วิลเลียมส์ ยิ่งเล่นยิ่งดูเหมือนว่ายิ่งเปิดเผยให้คู่แข่งเห็นจุดอ่อนมากขึ้นเรื่อย แต่ครั้นจะเอาเฮนโด้ลงไปรับหน้าที่นี้ ก็ทำให้พลังขับเคลื่อนในแดนกลางก็ลดลงมาอย่างเห็นได้ชัด ก็ถือว่ายังเป็นข้อดีล่ะครับ ที่รีห์ส วิลเลียมส์ มาพลาดให้เห็นในเกมที่ไม่ยากแบบนี้ เพราะถ้าพลาดในเกมใหญ่ก็น่าจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้หลายเท่า และดีไม่ดีเจ้าหนูรีห์ส วิลเลียมส์ อาจจะเสียผู้เสียคนไปเลยเสียด้วยซ้ำ

          ทั้งหมดทั้งมวลในนัดนี้นั้นถือเป็นข้อมูลชั้นดีครับ ในการเตรียมพร้อมสำหรับศึก “แดงเดือด” ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้อีกครั้ง และนัดนั้นอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผลลัพพ์ต่างๆ ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้เลยก็ได้ครับ ว่าพวกเขาจะเป็นยังไงต่อไปและจะเลือกเดินเส้นทางแบบไหน  YNWA ครับทุกคน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด