ทั้งคู่เกรดบอลต่างกันมาก เพราะ มารีน อยู่ในดิวิชั่น 8 ของ อังกฤษ ซึ่งถ้าเอาตารางอันดั้บมาเรียงต่อกันทุกดิวิชั่น สเปอร์สจะอันดับดีกว่า มารีน ถึง 160 อันดับกันเลยทีเดียว โดยเกมนี้มีสิ่งที่น่าประทับใจขึ้นหลายอย่างนะครับ
แฟนๆกว่า 3 หมื่นคนยอมจ่ายเงินเป็นค่าเปเปอร์วิวเพื่อชมเกมนี้โดยรายได้ยกให้กับ มารีน ไป หลังเกมคู่นี้นักเตะของ สเปอร์ส มอบเสื้อ ไก่เดือยทอง ตัวใหม่ให้บรรดานักเตะ มารีน อีกด้วย หลังจากเอฟเอออกกฏห้ามแลกเสื้อกันในสนามเพราะเกรงว่าจะติดโควิด-19 กันได้
โชเซ่ มูรินโญ่ จัด 11 ตัวจริงของ สเปอร์ส ดังนี้ในระบบ 4-2-3-1 : โจ ฮาร์ท -แมตต์ โดเฮอร์ตี้, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, โจ โรด้อน, เบน เดวิส -มูสซ่า ซิสโซโก้, ฮาร์วี่ย์ ไวท-เจดสัน แฟร์นันเดส, เดเล่ อัลลี่, ลูคัส มูร่า-คาร์ลอส วินิซิอุส เรียกว่าตัวสำรองเต็มอัตราศึกกันเลยทีเดียวเพราะไก่มีเกมพรีเมียร์ลีกกับ แอสตัน วิลล่า ที่ วิลล่า ปาร์ค รออยู่ในวันพุธ
ช่วงแรกๆก็อึดอัดทีเดียวครับ เพราะสนามของ มารีน เล็กมาก และติดกับบ้านคนเลย ชาวบ้านแถวนั้นบ้างบ้านเปิดหน้าต่างดูบอลได้ เห็นสตาร์ใหญ่อย่าง แกเรธ เบล ซึ่งเป็นตัวสำรองถูกเปลี่ยนลงไปวิ่งโลดแล่นอยู่ในสนามก็เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่าทีมจาก พรีเมียร์ลีก กับ นอกลีก เจอกันก็เสร็จทีม พรีเมียร์ลีก อยู่แล้ว 48 เกมก่อนหน้านี้ใน เอฟเอ คัพ มีทีมจากพรีเมียร์ลีก 46 ทีมที่เข้าวิน ยกเว้น นอริช ที่แพ้ ลูตัน ปี 2013 และ เบิร์นลี่ย์ ที่แพ้ ลินคอล์น ปี 2017 เท่านั้นที่ทำงามไส้
รูปเกมตอนแรกๆ มารีน ทำได้โอเคเลยมียิงชนคานทีหนึ่งด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! แต่เมื่อ สเปอร์ส ตั้งลำได้ก็หวานเจี๊ยบ คาร์ลอส วินิซิอุส ใช้เวลาแค่ 13 นาทีทำแฮตทริกได้ ก่อนที่ ลูคัส มูร่า จะยิงฟรีคิกและปิดท้ายลูก 5-0 จาก อัลฟี่ เดอไวน์
เดอไวน์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้ สเปอร์ส ชุดใหญ่ได้ด้วยวัยเพียงว 16 ปีกับอีก 163 วันอนาคตนับว่าน่าจับตามองครับ
ส่วน วินิซิอุส แสดงให้เห็นมาตลอดว่า โชเซ่ มูรินโญ่ คิดถูกที่ไปยืมมาจาก เบนฟิก้า เพราะเขายิงประตูได้เรื่อยๆทั้งใน ยูโรปา ลีก และบอลถ้วยในประเทศ เอาเป็นว่าดีกว่า โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และ วินเซนต์ แยนส์เซ่น แบบข่มมิดเลยล่ะ
สเปอร์ส ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ทุกรายการนะครับ พรีเมียร์ลีก ตามหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อยู่ 4 แต้มอยู่อันดับ 4 แถมยังแข่งน้อยกว่าแชมป์เก่า 1 นัดด้วย, ในคาราบาว คัพ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศโดยจะเจอกับ แมนฯซิตี้ ในวันที่ 25 เมษายนที่ เวมบลีย์, ใน ยูโรปา ลีก พวกเขาเป็นเต็ง 1 รอเล่นรอบ 32 ทีมกับ โวล์ฟสแบร์เกอร์ จาก ออสเตรีย ในเดือนหน้า ส่วนใน เอฟเอ คัพ รอลุ้นการจับสลากครับ
รอบ 4 และ 5 จะจับรวดเดียวไปเลย นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บอลถ้วยเอฟเอ คัพ ที่จับสลากทีเดียว 2 รอบเลย ในยุคโควิด-19 เท่านั้นล่ะครับที่เราจะได้เห็นอะไรแปลกๆอย่างนี้
จากนี้ไป สเปอร์ส จะมุ่งหน้าสู่ พรีเมียร์ลีก แบบเต็มตัวโดย 5 นัดที่รอพวกเขาอยู่ในเดือนมกราคมต่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ก็คือ แอสตัน วิลล่า (เยือน), เชฟฯยูฯ (เยือน), ลิเวอร์พูล (เหย้า), ไบรท์ัน (เยือน) และ เชลซี (เหย้า) มีเจอกับ หงส์แดง และ สิงโตน้ำเงินคราม ด้วยยังดีหน่อยที่เล่นในบ้านตัวเอง
วันพุธนี้แฟนไก่ลุ้นเกม แอสตัน วิลล่า vs สเปอร์ส ที่ วิลล่า ปาร์ค ครับ ลุ้น 2 อย่างเลย อย่างแรกจะเตะหรือไม่เพราะ วิลล่า ติดโควิด-19 กันเยอะเลย และอย่างที่สอง ไก่ จะได้แต้มหรือไม่ เนื่องจาก วิลล่า ไม่ใช่หมูครับ
"แมวเพชร"
