ยู บยอง-ซู : ดาวยิงที่อยุธยาได้มาแบบไม่ตั้งใจ
หากไม่มีไวรัสโคโรนา 2019 !!!
ดาวยิงพลังโสมวัย 32 ย้ายมาร่วมทัพ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร เมื่อต้นปี 2020 แบบเงียบ ๆ มีโอกาสลงเล่นให้ทัพสิงห์นายด่าน 4 นัด ซัดไป 2 ตุง ก่อนชีวิตการค้าแข้งครั้งแรกในไทยของเขาจะหยุดลงดื้อ ๆ จากการถูก โควิด-19 สกัด
ไทม์ไลน์เดียวกัน ศุลกากร มีการเปลี่ยนผ่านทีมงานใหม่ ทำให้เขาเองไม่ได้ไปต่อ สุดท้ายต้องระเห็จหาบ้านลูกหนังหลังใหม่
ตัดภาพมาที่ อยุธยา ยูไนเต็ด หลังเจอกับพิษ โควิด-19 สันติ ไชยเผือก กุนซือทีม ตัดสินใจล้างบางผู้เล่นต่างชาติในทีมเกลี้ยง เหลือไว้เพียง บาโบ แลนดรี กองหน้าตัวความหวังชาว ไอวอรี โคสต์
แต่ดาวยิง “ตัวความหวัง” ของทีมต้องมาเจอปัญหา หลังจากออกประเทศไปทำเรื่องต่อวีซ่าที่เซเนกัล และไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาไทยได้ทันเวลา ในขณะที่ไทยลีก 2 กำลังจะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง
อยุธยา จำเป็นต้องหา “ตัวเลือกสำรอง” มาทดแทน บาโบ แลนดรี กองหน้าที่ทีมหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เป็นดาวยิงหมายเลข 1 โดยมีข้อจำกัดว่ายังอยู่ในเมืองไทยเวลานั้น
หวยจึงมาออกกับ ยู บยอง-ซู
การมาของ บยอง-ซู ไม่ได้สร้างความหวือหวาอะไรมากนัก แม้เขาจะมีโปรไฟล์เคยติดทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่มาก็ตาม กลับกันเป็นผู้เล่นไทยที่เรียกเสียงฮือฮาได้กว่า
เพราะภาพจำแฟนบอล นักเตะเกาหลีใต้ ที่มาค้าแข้งในไทยส่วนใหญ่แล้วโชว์ฟอร์มฉายแสงกระแทกเบ้าตา ต่างเป็นผู้เล่นเกมรับ หรือตำแหน่งมิดฟิลด์เท่านั้น นักเตะประเภทสร้างความต่างในแนวรุกแทบไม่มีหลุดมาให้เห็น
หากจะพอนึกออกคงมีเพียง อู กึน-จอง กองหน้า เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ยิงรวมไปแล้ว 87 ประตู จากการมาค้าแข้งในแดนปลาแดก 8-9 ปี
ทำให้การมาของ บยอง-ซู เป็นสไตล์ที่แฟนบอลมองว่า “ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง”
แต่เมื่อไทยลีก 2 กลับมาโม่แข้งอีกครั้ง ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม
อยุธยา ฟอร์มดีขึ้นจากเดิมผิดหูผิดตา และ บยอง-ซู กลายเป็นดาวยิงตัวหลักของทีม ทำประตูใส่คู่แข่งเป็นว่าเล่น
แม้ประตูเกือบครึ่งของ บยอง-ซู จะมาจากจุดโทษ แต่จังหวะเคลื่อนที่ยามไม่มีบอล การหาช่องรับบอลจากเพื่อน ความสามารถเฉพาะในการสร้างความแตกต่างพื้นที่สุดท้าย หรือช็อตจบสกอร์ที่สไตร์เกอร์ต้องมี ดาวยิงวัย 32 โชว์ให้เห็นหมด
ผ่านไป 18 นัด ก่อนที่โควิดระลอกใหม่เข้ามาทักทาย บยอง-ซู ซัดไป 14 ประตู รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวของลีกปัจจุบันขณะ พาสโมสรถีบตัวเองขึ้นมาอันดับ 7 และอยู่ในพื้นที่ลุ้นแย่งตั๋วขึ้นไทยลีก
นั่นหมายความว่าฟอร์มสุดโหดตั้งแต่ค้าแข้งกับ อินชอน ยูไนเต็ด ก่อนบินออกมาหาความท้าทายในตะวันออกกลางกับ อัล ฮิลาล รวมถึงไปคว้าแชมป์ลีกรัสเซียกับ รอสตอฟ จนมาถึงไทย “เขี้ยวเล็บ” บยอง-ซู ยังคงกริบอันตรายอยู่เช่นเดิม
บางทีฟุตบอลก็เป็นแบบนี้…
การพบกันระหว่าง บยอง-ซู กับ อยุธยา ยูไนเต็ด จะเรียกว่าพรหมลิขิตก็คงดูน้ำเน่าไป ใช้คำว่า “คนที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะ” คงโอเคกว่า
และไม่ว่าสาวก “นักรบอโยธยา” จะพอใจผลงาน บยอง-ซู หรือไม่ รวมถึงฟอร์มของเขาสามารถทดแทนการขาดหายไปของ บาโบ แลนดรี ได้ไหม
แต่วันนี้ บยอง-ซู ในวัยที่เริ่มห่างไกลจากการเป็นเคป๊อบใส ๆ ก็เสกรอยยิ้มให้ชาวอยุธยา ได้พอประมาณแล้ว
เป็นโสมรสเข้มข้น แต่กลมกล่อม
เรื่อง : ดากานดา
ภาพ : FB Ayutthaya United