โควิด..พลิกผลเลือกตั้งประธานบาร์ซ่า ?
กล่าวคือในการเลือกตั้งประธานสโมสรซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 มกราคมนี้ ลาปอร์ต้า จะเข้าวินแบบสบายหายห่วง เพราะด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนจากโซซิโอในรอบแรกที่ ฟอนท์ ได้มา 4,710 เสียงนั้น บ่งบอกถึงแนวโน้มว่าวันเลือกตั้งจริงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ฟอนท์ ยอมรับว่าคะแนนเสียงที่ได้รับมาในรอบตัดตัวนั้นน้อยกว่าที่เขาและทีมงานคาดการณ์เอาไว้มาก แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมองโลกในแง่ดีว่า นี่เป็นเพียงรอบแรกที่ยังขาดโซซิโออีกจำนวนมากมาลงคะแนนโหวต
คำถามสำคัญ : ฟอนท์ จะพลิกล็อค สวมบทแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ได้จริงหรือ ?
…………………………
ปัจจุบัน สโมสรบาร์เซโลน่ามีโซซิโอทั้งสิ้น 163,000 คน (มากที่สุดเป็นลำดับ 2 ของโลกรองจาก เบนฟิฟ้า) แต่ที่ผ่านเกณฑ์มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจริงๆมีอยู่ 109,367 คน
เทียบวัดจากโซซิโอที่ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในรอบตัดตัวซึ่งมากันทั้งสิ้น 47,270 คน นั่นเท่ากับว่ายังเหลือโซซิโออยู่อีกถึง 62,097 คนที่ยังไม่ได้ออกมาแสดงพลัง
ตรงส่วนนี้นี่เองที่ ฟอนท์ หวังว่าจะช่วยเขาพลิกสถานการณ์จากตกเป็นรองให้กลับมาโค่น ลาปอร์ต้า ได้หากสามารถโน้มน้าวใจพลังเงียบเหล่านี้ให้หันมาเทคะแนนให้กับเขาได้
ว่ากันตามทฤษฏีแล้ว มันเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะพลังเงียบกว่า 6 หมื่นเสียงนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าพวกเขานิยมในตัวผู้สมัครรายใด หากแต่ในภาคปฏิบัตินั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 10 วันเท่านั้นก็จะถึงการเลือกตั้งแล้ว
เทียบจากระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาที่ ฟอนท์ กับทีมทุ่มเทแรงกายแรงใจหาเสียงมาตลอด แล้วได้คะแนนเสียงสนับสนุนกลับมาไม่ถึง 5,000 แล้วอีกแค่ 10 วัน เขาจะปลุกคน 6 หมื่นกว่าให้ออกมาใช้สิทธิเลือกเขายังงั้นหรือ ? มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
สถิติตัวเลขต่างๆ ณ เวลานี้ ชี้ชวนว่า ลาปอร์ต้า จะได้เป็นประธานสโมสรคนต่อไปแทบทั้งสิ้น เริ่มที่คะแนนเสียงโหวตในรอบแรกที่เจ้าตัวได้มา 10,257 เสียง ตรงนี้นับว่าสูงที่สุดเป็นลำดับ 4 นับแต่มีการเลือกตั้งในรอบตัดตัวมาเลย
ที่ผ่านมา 3 อันดับแรก โจเซป ยุยส์ นูนเญซ ทำสถิติสูงสุดเอาไว้ที่ 26,619 เสียงในปี 1989, อันดับ 2 โจน กาสปาร์ต ที่ 13,547 เสียงในการเลือกตั้งปี 1997 และ อันดับ 3 ซานโดร โรเซลล์ ในปี 2010 ที่ 12,635 เสียง
ที่เอ่ยมาข้างต้นทั้ง 3 คนนี้ ไม่มีใครพลาดตำแหน่งประธานสโมสรเลยแม้แต่รายเดียว หรือจะเทียบกับสถิติของตัว ลาปอร์ต้า เอง ก็พอจะบ่งบอกได้เช่นกัน
ในปี 2003 ที่ ลาปอร์ต้า ลงชิงตำแหน่ง ในรอบตัดตัว เขาได้ไป 5,725 เสียง ก่อนที่จะลงเอยด้วยการชนะการเลือกตั้งแบบไม่ยากเย็น (ทิ้ง ยุยส์ บาสเเซต อันดับ 2 ร่วม 1 หมื่นคะแนน)
แล้วมาหนนี้ได้มากกว่าสมัยชนะเลือกตั้งปี 2003 ตั้ง 4,532 เสียง แล้วชัยชนะมันจะหลุดมือเขาไปได้อย่างไร ?!
นี่ยังไม่รวมถึงตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งใน 3 ครั้งหลังที่ผ่านมาที่เฉลี่ยแล้วมีแค่ 49.34 % หรือไม่ถึงครึ่งจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด คะแนนเสียงที่ ฟอนท์ หวังจะปลุกให้เข้าร่วมกับเขาก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีก
เท่านั้นไม่พอ ในการเลือกตั้งปีนี้ ยังมีปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยที่น่าจะทำให้มีโซซิโอออกจากบ้านมาใช้สิทธิน้อยลงกว่าครั้งก่อน นั่นก็คือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คาดการณ์กันว่าปีนี้น่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยกว่า 3 ครั้งหลังสุดเสียด้วยซ้ำเพราะความวิตกว่าจะติดเชื้อไวรัสมหาภัยตัวนี้
เช่นนี้แล้วคาดว่า ลาปอร์ต้า น่าจะขอคะแนนเสียงประมาณ 26,000 ก็จะลอยลำทันที ซึ่งเมื่อคิดจากยอดที่ได้มาจากรอบตัดตัว 10,257 เท่ากับว่าเขาต้องการเพิ่มอีกแค่ 16,000 จากจำนวนโซซิโอที่คาดว่าจะออกมาใช้สิทธิราว 45,000 คน
ดูแล้ว ไม่มีช่องทางใดเลยที่ ฟอนท์ จะพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะ
“การต่อสู้จบลงแล้วยังงั้นหรือ ?”
ก็ไม่เชิงเสียทีเดียว เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดนี่แหละ ที่อาจช่วยยื้อเวลาให้ ฟอนท์ หาทางกลับมาก็เป็นได้
สิ่งที่ ฟอนท์ ต้องการเป็นอย่างแรกในเวทีต่อสู้นี้ก็คือ ‘เวลา’ ที่ว่ากันว่ามันอาจจะพลิกจาก 10 วัน เป็น 1 เดือนหรือมากกว่าได้ หากว่ามีการเลื่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มกราคมนี้ออกไป
เวลานี้เริ่มมีนักวิชาการและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเมืองบาร์เซโลน่าเริ่มออกมาแสดงความวิตกกังวลกับการที่โซซิโอของสโมสรบาร์เซโลน่าจะออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียเลือกตั้งประธานสโมสรในวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคมนี้ เนื่องจากในเมืองบาร์เซโลน่า และเมืองอื่นนในแคว้นกาตาลุนญ่าซึ่งเป็นที่พำนักของโซซิโอส่วนใหญ่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในปริมาณที่สูง
นับจากวันที่ 29 ธันวาคม 2020 จนถึงวันที่ 11 มกราคม 2021ที่ผ่านมามียอดผู้ติดเชื้อในแคว้นกาตาลุนญ่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 53,909 ราย ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกอย่างมาก
หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อโซซิโอที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งก็เป็นได้ เพราะการออกจากบ้านของผู้คน 50,000 คนในวันเดียว ถือเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะแต่ละคนหากได้รับเชื้อแล้ว ก็สามารถกลับไปแพร่ต่อสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในบ้านได้อีก
เรื่องนี้ทางนักวิชาการแสดงความคิดเห็นว่าจะจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่นั้น คงต้องรอดูสถานการณ์ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในแคว้นใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ว่าเป็นอย่างไร กราฟจะเชิดขึ้นหรือลดลง แต่ถึงกระนั้นตามความคิดเห็นของพวกเขาแล้ว หากเอาความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของโซซิโอเป็นที่ตั้ง ก็เห็นสมควรว่าควรเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไปก่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์
กับเรื่องนี้ ลาปอร์ต้า แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย เขาพูดว่า ถ้าประเทศยังมีข้อยกเว้นให้ประชาชนออกจากบ้านไปทำงานได้ ก็ต้องมีข้อยกเว้นให้กับการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย
แน่นอนว่า ลาปอร์ต้า ไม่ต้องการให้เลื่อนออกไป ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน เวลานี้คะแนนความนิยมในตัวเขากำลังมา และอีกเพียง 10 วันข้างหน้าก็คงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ เขามีโอกาสสูงมากที่จะก้าวขึ้นเป็นประธานบาร์เซโลน่าอีกสมัย
กระนั้นในทางกลับกัน ฟอนท์ เองก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดเรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง พร้อมชี้ว่าหากยังไม่มีการรับรองหรือมาตราการทางสาธารณสุขที่รับรองความปลอดภัยได้ ก็สมควรที่จะเลื่อนไปก่อน
เลื่อนไม่เลื่อน ตรงนี้มีผลพอสมควร หากเลื่อนอย่างน้อย ฟอนท์ ยังมีเวลาวิ่งเต้น ล็อบบี้ หาเสียงเพิ่มเติมเพื่อขยับความนิยมของตัวเองขึ้นมา รวมถึงการไปจับขั้วกับผู้สมัครคนอื่นที่ไม่ผ่านการตัดตัวดึงเข้ามาเป็นพวกเพื่อหวังเอามาเป็นฐานเสียงของตัวเอง
หากมีเวลาพอ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า ฟอนท์ อาจจะทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องรอการตัดสินใจของสโมสรบาร์เซโลน่า รวมถึงรัฐบาลกาตาลุนญ่าอีกทีว่าจะมีคำสั่งเด็ดขาดออกมาอย่างไร ซึ่งคาดกันว่าไม่น่าจะเกิดวันเสาร์นี้ เราก็คงจะทราบกันแล้ว
เจมส์ ลา ลีกา