นับเป็นทศวรรษที่น่าเหลือเชื่อสำหรับ แอตเลติโก มาดริด และ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ หลังเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์คว้าตำแหน่งกุนซือดีที่สุดของวงการฟุตบอลในช่วงเวลานั้น เหนือกว่าทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือ โชเซ่ มูรินโญ่
แอตเลติโก มาดริด ของ ซิเมโอเน่ ทำผลงานน่าทึ่งในฤดูกาลนี้ ทีมตราหมีออกสตาร์ทด้วยผลงาน ชนะ 13 เสมอ 2 แพ้ 1 จากการลงเล่น 16 เกม นำเป็นจ่าฝูงลีกเมืองกระทิง ทิ้งอันดับ 2 เรอัล มาดริด 4 คะแนนและยังลงเล่นน้อยกว่า 2 เกมด้วย เพียงแต่มีจุดด่างพร้อยบนเวที โกปา เดล เรย์ ซึ่งกระเด็นตกรอบ 2 หลังพลิกล็อกพ่ายสโมสรระดับ เซกุนด้า เบ อย่าง กอร์เนย่า 0-1
ก่อนที่สหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลนานาชาติ (IFFHS) จะเลือก ซิเมโอเน่ เป็นโค้ชดีที่สุดของวงการลูกหนังในรอบทศวรรษ โดยพิจารณาจากผลงานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ได้ 152 คะแนน เหนือกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯซิตี้ อดีตนายใหญ่ของ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้ 144 คะแนน ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ บอส ลิเวอร์พูล และอดีตกุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 105 คะแนน
ซิเมโอเน่ สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากการนำ แอตเลติโก มาดริด โค่นบัลลังก์ของสองยักษ์อย่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด เถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกเมืองกระทิงเมื่อซีซั่น 2013-2014 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ ลา ลีกา ครั้งแรกของทีมตราหมีนับตั้งแต่ปี 1996
เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังนำทัพ 'โลส โรฆีบลังโกส' ทะยานเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้งในปี 2014 และ 2016 'เอล โชโล่' ยังนำทีมตราหมีฟาดแชมป์ ยูโรปาลีก 2 ครั้ง ในปี 2012 กับ 2018
ซิเมโอเน่ เคยทำงานฐานะเทรนเนอร์กับ 4 สโมสรอาร์เจนติน่าไล่จาก ราซิ่ง คลับ, เอสตูเดียนเตส ลา ปลาต้า, ซาน โลเรนโซ่ และ ริเวอร์ เพลท ก่อนย้ายมาทำงานกับ คาตาเนีย ของอิตาลีราว 6 เดือนในปี 2011 จากนั้นจึงกลับมาทำงานกับ ราซิ่ง คลับ อีก 6 เดือนจนกระทั่งมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ แอตเลติโก มาดริด ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2011
นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้เทรนเนอร์ทีมตราหมี ซิเมโอเน่ คุมทีมลงสนาม 503 นัด ชนะ 303 เสมอ 118 แพ้ 82 มีเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 60.24 เปอร์เซ็นต์
ซิเมโอเน่ กุมบังเหียนทีมตราหมีมานานกว่าทศวรรษ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์สร้างทีมหลายต่อหลายรุ่นตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนแฟนๆจะโหวตให้ทีมชุดปัจจุบันเป็นขุมกำลังแข็งแกร่งสุดในยุคของเทรนเนอร์วัย 50 ปี
จากการสำรวจของ 'มาร์ก้า' สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของสเปนที่มีแฟนร่วมแสดงความเห็นมากกว่า 22,000 คน โดยมีเสียงโหวตถึง 48 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่าขุมกำลังชุดปัจจุบันแข็งแกร่งสุดเท่าที่เคยมีมาภายใต้การกุมบังเหียนของ ซิเมโอเน่
ขณะที่ทีมตราหมีชุดแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่น 2013-2014 ตามมาเป็นอันดับ 4 จากเสียงโหวต 44 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทีมชุดแชมป์ ยูโรปาลีก ฤดูกาล 2011-2012 มีเสียงโหวต 5 เปอร์เซ็นต์ ตบท้ายด้วยชุดแชมป์ยูโรปาลีกซีซั่น 2017-2018 มีเสียงโหวต 3 เปอร์เซ็นต์
ขุมกำลังชุดปัจจุบันของ แอตเลติโก มาดริด ที่สาวกโกลโชเนโรสมองว่ามีความแข็งแกร่งเหนือกว่าทุกรุ่นของ ซิเมโอเน่ อาจมาจากผู้เล่นแนวรุกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, ชูเอา เฟลิกซ์ และ อังเคล กอร์เรอา รวมถึงสมาชิกใหม่อย่าง มุสซ่า เดมเบเล่ ที่เพิ่งย้ายจาก ลียง ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือนมูลค่า 1.5 ล้านยูโร พ่วงอ็อปชั่นเซ็นถาวร 33.5 ล้านยูโร บวกโบนัส 5 ล้านยูโรและส่วนแบ่งค่าตัว 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับการย้ายทีมครั้งต่อไป
แดนกลางของทีมตราหมีชุดนี้ยังมีทั้ง ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้, มาร์กอส ยอเรนเต้, ซาอูล ญีเกซ, เอคตอร์ เอร์เรร่า, เจฟเฟร่ กงด็อกเบีย, ยานนิค การ์ราสโก้, โตม่าส์ เลอมาร์ และ ลูกัส ตอร์เรยร่า
ส่วนแนวรับมีทั้ง สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ, มารีโอ เอร์โมโซ่, เฟลีเป้ มอนเตยโร่, คีแรน ทริปเปียร์ กับ เรนาน โลดี้ แม้อาจไม่แกร่งเท่าชุดก่อนๆหน้านี้ แต่พวกเขาพิสูจน์ด้วยผลงานในสนามหลังเสียเพียง 6 ประตูจากการลงเล่นลีกา 16 เกมที่ผ่านมา โดยมี ยาน โอบลัค นายทวารชาวสโลวีเนียนเป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง
สำหรับแนวรุกชุดแชมป์ลีกาซีซั่น 2013-2014 มี ดีเอโก้ คอสต้า, ดาบิด บีย่า, อาร์ดา ตูราน กับ อาเดรียน โลเปซ เป็นขุมกำลังหลัก แดนกลางมี กาเบรียล เฟร์นานเดซ กาบี, โกเก้, ติอาโก้ เมนเดส, มารีโอ ซูอาเรซ, ราอูล การ์เซีย เอสกูเดโร่, คริสเตียน โรดรีเกซ กับ ดีเอโก้ รีบาส
แอตเลติโก มาดริด ชุดแชมป์ลีกเมืองกระทิงครั้งล่าสุดเป็นแนวรับเป็นจุดแข็งด้วยขุมกำลังอย่าง ดีเอโก้ โกดิน, โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ, ชูเอา มีรานด้า, ฆวนฟราน, โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์ กับ ฟีลีเป้ ลุยส์ โดยมี ติโบต์ กูร์กตัวส์ เป็นปราการด่านสุดท้าย
ส่วนขุมกำลังชุดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกซีซั่น 2011-2012 ส่วนใหญ่ต่อยอดมาถึงการคว้าแชมป์ลีกาในอีก 2 ปีถัดมา แตกต่างกันเฉพาะบางตำแหน่งโดยเฉพาะแนวรุกที่มี ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกโคลอมเบียนเป็นตัวชูโรง แดนกลางมี เปาโล อาสซุนเซา กับ เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ เป็นกำลังเสริม ส่วนแนวรับมี หลุยส์ เปเรอา, อัลบาโร่ โดมิงเกซ และ ซิลวิโอ ที่ต่างจากทีมชุดแชมป์ลีกเมืองกระทิง
20 อันดับแรกของโค้ชดีที่สุดในรอบทศวรรษ
20.โลร็องต์ บล็องก์ (ฝรั่งเศส) 21 คะแนน
19.เจสซี่ มาร์ช (สหรัฐอเมริกา) 22 คะแนน
17.เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม (โปรตุเกส) 25 คะแนน
17.อาร์แซน เวนเกอร์ (ฝรั่งเศส) 25 คะแนน
16.เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ (สเปน) 26 คะแนน
15.จุ๊ปป์ ไฮยน์เกส (เยอรมัน) 34 คะแนน
13.หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ (สเปน) 35 คะแนน
13.เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (สกอตแลนด์) 35 คะแนน
12.เคลาดิโอ รานิเอรี่ (อิตาลี) 36 คะแนน
11.อันโตนิโอ คอนเต้ (อิตาลี) 53 คะแนน
9.มาร์เซโล่ กายาร์โด้ (อาร์เจนตินา) 56 คะแนน
9.เมาริซิโอ โปเช็ตตีโน่ (อาร์เจนตินา) 56 คะแนน
8.คาร์โล อันเชล็อตติ (อิตาลี) 57 คะแนน
7.ซีเนดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส) 59 คะแนน
6.อูไน เอเมรี่ (สเปน) 70 คะแนน
5.มักซ์ อัลเลกรี้ (อิตาลี) 77 คะแนน
4.โชเซ่ มูรินโญ่ (โปรตุเกส) 91 คะแนน
3.เจอร์เก้น คล็อปป์ (เยอรมัน) 105 คะแนน
2.เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (สเปน) 144 คะแนน
1.ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ (อาร์เจนตินา) 152 คะแนน
