แม้จะเป็นจิ้งจอกพิการเพราะเหลือ 10 คนแถมสกอร์ตามหลัง ปิศาจแดง 1-2 แต่ก็อย่างว่า ผีแดงดันตีจิ้งจอกไม่ตายปล่อยให้มันมีลมหายใจและกลับมาแว้งกัดในวินาทีสุดท้าย

เจ็บช้ำ ... หงุดหงิด ... เสียอารมณ์ เชื่อว่าแฟนผีแดงทุกรายคงหงุดหงิดไม่แพ้กัน เพราะเกมล่าสุดยังไงก็ต้องเป็น 3 คะแนน

จากปัจจัยทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเกมมันฟ้องอย่างชัดเจนว่า ลูกทีมของ มูรินโญ่ สมควรเป็นผู้ชนะ แต่ทำไปทำมากลับปิดเกมไม่ลง และจังหวะสุดท้ายก็ทำเป็นเล่นไปหมด เหมือนกับว่าย่ามใจและไม่ตีฝ่ายตรงข้ามให้ตายคามือ

เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของนักเตะชุดนี้ที่ต้องกลับไปนั่งคิดและพินิจพิจารณาถึงความผิดพลาดที่พวกเขาได้ทำ ส่วนหนึ่งก็ต้องชม เดอะ ฟ๊อกซ์ ที่สู้เต็มที่แม้ว่าจะเหลือ 10 คน พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นมากกว่านักเตะ ผีแดง โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม

สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาไม่ต้องไปโทษใคร นักเตะทุกคนควรกลับไปส่องกระจกมองตัวเองและคิดย้อนถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

จาก 11 กลายเป็น 13 จากที่หมดหวังอยู่แล้วก็กลายเป็นหมดแล้วซึ่งเส้นทางกลับไปทวงความยิ่งใหญ่ในประเทศ

เอาล่ะ ... วันแย่ๆก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากหรือยิ้มแบบร่าเริงได้ก็ตาม

เรื่องที่ว่าก็คือท่าฉลองประตูที่สองของ ฆวน มาต้า ที่ทำได้ในนัดล่าสุดที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียม

กองกลางชาวสเปนรับหน้าที่ปั่นฟรีคิกในนาทีที่ 60 ก่อนจะใช้เท้าซ้ายข้างถนัดส่งบอลลอยข้ามกำแพงเสียบใต้คานเข้าไปแบบสวยสดงดงาม

มาต้า วิ่งที่มุมธงก่อนจะแสดงท่าดีใจด้วยการ 'พนมมือภาวนา' เพื่อส่งสารไปยังคนกลุ่มหนึ่ง

หลายคนตีข้อความไปต่างๆนานา และคิดว่าทำไม มาต้า ถึงทำท่านั้นหลังจากทำประตูได้

ความจริงปรากฏหลังจาก กองกลางชาวสเปนได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมผ่านช่องสถานีโทรทัศน์ของสโมสร หรือเรียกสั้นๆว่า 'MUTV'

"ตอนที่เด็กๆจากมูลนิธิ OSCAR ที่เราทำงานร่วมกันผ่านโครงการ Common Goal เดินทางมาที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาถามว่าผมสามารถฉลองการทำประตูด้วยท่านั้นให้กับพวกเขาได้หรือไม่"

เด็กกลุ่มนั้นคือ เด็ก 14 คนจาก นครมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับ ฆวนมาต้า

ทั้งสองฝ่ายมาพบและรู้กันผ่านเกมที่ชื่อว่า 'ฟุตบอล' ย้อนกลับไปช่วงหน้าที่ที่ผ่านมา มาต้า มีโอกาสเดินทางไปที่ อินเดีย เพื่อช่วยเหลืองานใหม่ของเขาอย่าง Common Goal ซึ่งมีเป้าหมายให้นักเตะบริจาคเงินค่าเหนื่อย 1 เปอร์เซ็นต์ ให้กับโครงการการกุศล Football For Good ที่คล้ายกับมูลนิธิ OSCAR

ที่นั่นเขามีโอกาสเจอกับ อโศก ราธ็อด ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิ OSCAR  รวมไปถึงเด็กๆในนครมุมไบ

การพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเกิดขึ้น และจากนั้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มเด็กหนุ่ม 14 คน จาก มูลนิธิ OSCAR ได้เดินทางมาจากมุมไบ พร้อมกับโค้ช มารูติ เชาฮาน และ อโศก ราธ็อด เพื่อมาชมสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยมี มาต้า เป็นไกด์นำทัวร์

นั่นเองที่สัญญาเกิดขึ้น และล่าสุด มาต้า ก็สามารถเติมเต็มคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับเด็กๆ (แม้ว่าผลการแข่งขันจะไม่น่าพอใจก็ตาม)

ถือเป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้น แม้จะมาจากต่างซีกโลก และเป็นคำขอของเด็กที่เพิ่งเคยเจอหน้าและรู้จักกัน แต่ มาต้า กลับให้ความสำคัญและระลึกเสมอว่าเขามีสัญญาที่ต้องทำ

"สำหรับประตูแรกที่ผมไม่ได้ทำนั้นเพราะว่าเราต้องการอีกหนึ่งประตู แต่หลังจากทำประตูที่สองผมคิดถึงพวกเขาและประตูนี้อุทิศให้กับเด็กๆเหล่านั้นที่มุมไบ"

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ในวันที่ผลการแข่งขันไม่เป็นใจ ... มาต้า