:::     :::

กายประสานจิต ร่างUltra Instinctที่ดีสุดในชีวิตLuke Shaw

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
6,298
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือลุค ชอว์ที่อยู่ในร่างสมบูรณ์ที่ฟอร์มดีที่สุดในชีวิต สถิติทั้งรุกและรับอันไร้เทียมทาน เกิดมาจากการที่ "กาย" ประสานกับ "จิต" จนเกิดร่างสุดยอดดังที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้

โอเล่ กุนนาร์ โซลชานั้นเชื่อว่า มันคือคำตอบที่ง่ายมากๆว่าทำไม Luke Shaw ถึงทำผลงานได้ดีเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้ในยามลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

แบ็คซ้ายชาวอังกฤษได้รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ครั้งแรกในซีซั่นนี้ จากผลงานป่าเถื่อนนรกแตกในเกมแดงเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่่ผ่านมา แต่จริงๆชอว์เรียกฟอร์มยอดเยี่ยมกลับมาได้สักพักใหญ่ๆแล้วหากใครจะติดตามอยู่ตลอด มันไม่ใช่จะเพิ่งมาเมื่อตอนวันแดงเดือดแต่อย่างใด

การระเบิดฟอร์มที่แอนฟิลด์ของเขานั้น หลายๆคนเชื่อว่าเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นศรัทธาของผู้จัดการทีม และในภาคการแข่งขันแย่งตำแหน่งที่เข้ามาโดย Alex Telles แต่ผู้จัดการทีมของเรากลับรู้สึกว่ามันมีสาเหตุที่ลึกซึ้งมากยิ่งไปกว่าแค่เรื่องของการบริหารทรัพยากรบุคคล หรือการโดนชาวบราซิลเลียนผู้นั้นรอเสียบตำแหน่งอยู่

สำหรับโอเล่แล้วเชื่อว่า ความดีความชอบต่างๆนั้นเกิดขึ้นมาจากตัวเขา และจิตใจที่แข็งแกร่งของเจ้าตัวเอง อันได้รับแรงขับจากการเปลี่ยนแปลงอันเริ่มต้นมาจากที่บ้าน

"ลุคมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม เทคนิคเขาดีมาก คุณภาพก็เยี่ยม คุณจะเห็นได้เลยตอนเจอลิเวอร์พูลเขาพาบอลบุกตะลุยขึ้นหน้าให้เห็น ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่ผมพยายามผลักดันให้เขาทำบ่อยๆขึ้น ก็เพราะพวกเรารู้นี่แหละว่าเขาทำได้"

"มันมีสิ่งนี้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วภายในตัวของเขา สภาพจิตใจเขาเยี่ยมมากในช่วงนี้ เขาได้กลายเป็นพ่อคน ด้านกายภาพดีเยี่ยม ระดับความฟิตก็ยิ่งดีขึ้นและเขาพยายามทำลายสถิติต่างๆในภาคการเล่น รวมถึงระยะทางรวมในการวิ่งของตัวเอง เขามีความสม่ำเสมอในระดับที่ฟูลแบ็คสมควรจะมี"

"และเวลาที่คุณมีนักเตะพรสวรรค์แบบลุค และเมื่อสภาพร่างกายและจิตใจเรียงร้อยเข้าด้วยกันเมื่อไหร่ มันก็จะเกิดการเล่นที่ทรงอานุภาพเสมอ"

เมื่อถูกถามว่าถ้าหากว่าความมั่นใจของของชอว์เพิ่มขึ้นในยามที่โอเล่หวนกลับมาคุมทีมที่สโมสรรึเปล่านั้น ผู้จัดการทีมของเราก็บอกว่าเขาได้คุยกับกองหลังรายนี้อยู่บ่อยๆเป็นประจำ แต่มันก็เหมือนๆกับเคสที่ปฏิบัติทั่วไปกับนักเตะทุกๆคน

"มันเป็นเพียงแค่เรื่องของการมองบุคคลในระดับปัจเจก และก็ทำเหมือนอย่างทั่วๆไป ผมได้ใช้เวลาคุยเป็นการส่วนตัวในรายบุคคล และรวมถึงลุคด้วย เขาเป็นเด็กหนุ่มคนนึงที่ผมชอบพูดคุยด้วย และสนุกที่จะได้ช่วยเหลือเขาในการที่เขาอยากจะเล่นได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้"

"มันก็เป็นแค่เรื่องที่ว่าต้องทำให้เขารู้สึกสนุกเวลาลงเล่น พวกเรารู้ถึงพรสวรรค์ของเขา เชื่อใจในความฟิตของเขาที่รับมือได้ดีต่ออาการบาดเจ็บ เรามีนักเตะที่คอยช่วยซัพพอร์ตให้เขาอยู่ ดังนั้นเขารู้ดีแล้วในตอนนี้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องลงเล่นไปซะทุกๆเกม เขาจึงมีความฟิตมากขึ้น ผมคิดว่า ทั้งระหว่างแบรนดอน กับ อเล็กซ์ที่ย้ายเข้ามานั้น ทำให้เกิดแรงขับเล็กๆให้เขาส่งสัญญาณมาบอกให้ผมรู้ว่า ผมยังมีตัวเลือกดีๆอยู่นะ"


หลังจากจบเกมแดงเดือด ชอว์ก็หวังว่ายูไนเต็ดจะเก็บแต้มต่อเนื่องได้จากฟูแล่มเพื่อรักษาผลงานในการต่อสู้ระยะยาวของพรีเมียร์ลีกในปีนี้

"มันก็ดีนะที่ได้ทำสถิติต่างๆพวกนั้น(ชนะนอกบ้าน) แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องทำสถิติเหล่านั้นที่บ้านให้ได้ด้วย เราต้องเล่นในบ้านให้ดีกว่านี้ ดูฟอร์มเกมเยือนเรายอดเยี่ยมมาก แต่เมื่อมาดูตอนเล่นในบ้านมันยังจำเป็นต้องปรับปรุงอีกเยอะ เราต้องเดินหน้าต่อไปอย่าหยุด และหวังว่าเราก็จะชนะอีกครั้งในวันพุธนี้เพื่อเป็นสามแต้มของฟูแล่มให้ได้"

"เราต้องพยายามไม่ไปใส่ใจกับตารางคะแนนมากในตอนนี้ อย่าไปสนใจผลคู่อื่นๆแล้วก็มีสมาธิอยู่กับทีมตัวเองเท่านั้น จากนั้นก็แค่ชนะให้ได้ในทุกๆเกมเท่าที่จะทำได้ ฟูแล่มเป็นเกมที่สำคัญมากๆและไม่ง่ายเลยนะที่จะชนะ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกันอีกครั้ง"

ใช่แล้ว ทัศนคติของลุค ชอว์ถูกต้อง เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาเล่นและโชว์ฟอร์มได้อย่างโคตรยอดเยี่ยมจนยูไนเต็ดเอานะฟูแล่มไปได้ 1-2 จากลูกชาร์จของคาวานี่ และประตูไฟจากร่างGod ของ Paul Pogba เมื่อคืนนี้ ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่คะแนนสูงมากของทีมเราก็คือ ลุค ชอว์อีกเช่นกัน แม้จะมีโดนลอดดากส์ไป2-3ที(ฮา)แต่โดยรวมยังทำผลงานได้ดีมาก ทั้งในเกมรับและเกมรุก

ในสถิติต่างๆเหล่านี้ จากบทสัมภาษณ์และattitudeของชอว์นั้น พูดกันตรงๆคือเขาไม่ได้สนใจตัวเลขพวกนี้หรอก ก็แค่ทำผลงานให้มันดีและดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆในทุกๆนัดเท่านั้น บางทีเลขสถิติมันไม่ได้ตอบอะไรได้ทั้งหมด แต่มันก็สะท้อนให้ได้เห็นคร่าวๆว่า เขาคือหนึ่งในนักเตะที่มีผลงานเกมรับดีสม่ำเสมออีกคนนึงในหลายๆสถิติในภาพรวมซีซั่นนี้ อันได้แก่

Most aerial duels won

การดวลลูกกลางอากาศชนะ  ชอว์อยู่ในอันดับที่5ของทีม ทำได้19ครั้ง

3อันดับแรก สถิติสูงสุดเป็นของแฮรี่ แมกไกวร์โดดๆเลย(76), ป็อกบา(32) ลินเดอเลิฟ(31) และ วานบิสซาก้า(25)  ถ้าเทียบกับแบ็คโฟร์คนอื่นก็น้อยกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ได้ห่างอะไรขนาดนั้น

Most touches

สัมผัสบอลมากที่สุด ชอว์มาเป็นอันดับ4ของทีมที่ 1023

3อันดับแรก Bruno Fernandes (1,380), Harry Maguire (1,326) Aaron Wan-Bissaka (1,180)

Most tackles

ชอว์แทคเกิลมากที่สุดเป็นอันดับ4ของทีม ที่35ครั้ง

3อันดับแรกคือ Aaron Wan-Bissaka (60), Fred (38) Bruno Fernandes (37)

Most dribbles completed

ชอว์เลี้ยงบอลผ่านสำเร็จอยู่อันดับ5ของทีม ทำไป19ครั้ง

3อันดับแรกคือ Marcus Rashford (42), Anthony Martial (27) Paul Pogba (22)

Most passes completed

ชอว์จ่ายบอลสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ5ของทีม อยู่ที่ 716ครั้ง

3อันดับแรกคือ Harry Maguire (985), Bruno Fernandes (834) Aaron Wan-Bissaka (801)

และเมื่อเปิดสถิติสองเกมล่าสุดที่ลุค ชอว์พีคจัดๆ เริ่มตั้งแต่เกมแดงเดือดเจอลิเวอร์พูลจนได้แมนออฟเดอะแมตช์นั้น เขาทำอะไรไปบ้างในวันนั้น สถิติมีดังนี้

ความแม่นยำในการวางบอลยาว 100%

เปอร์เซ็นต์แทคเกิลชนะ 100%

ความแม่นยำในการจ่ายบอล 81%

จ่ายสำเร็จไปทั้งหมด 33 ครั้ง

สัมผัสบอล 68 ครั้ง

นำบอลกลับมาครอบครอง 8 ครั้ง

เรียกฟาล์วได้ 4 ครั้ง

เคลียร์บอล 4 ครั้ง

สร้างโอกาส 2 ครั้ง

สร้างโอกาสสำคัญของเกม 1 ครั้ง

1 คลีนชีท 

สถิติโคตรไร้เทียมทาน(บ้าไปแล้ว) หยุดลิเวอร์พูลได้หมดทุกกระบวนท่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมซาลาห์ที่ถูกเก็บเข้ากระเป๋าต่อเนื่องทุกครั้งที่เผชิญหน้ากันจนบังโมหายไปจากเกมและสร้างความอันตรายไม่ได้เลย

และล่าสุด สถิติในเกมเจอฟูแล่มมีดังนี้

เลี้ยงผ่านสำเร็จ 100%

แทคเกิลชนะ 100% (เถื่อนสัสๆ)

ความแม่นยำในการจ่าย 83%

จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 26ครั้ง

ความพยายามครอสบอล 13 ครั้ง

กู้บอลกลับมาครอบครอง 4 ครั้ง

ครอสบอลเข้าเป้า 3 ครั้ง

สร้างโอกาสยิง 2 ครั้ง

เราคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากอีกแล้ว เมื่อฟอร์มการเล่นทุกอย่างมันบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของลุค ชอว์ในช่วงนี้ที่ต้องบอกว่า เปิดอัลติร่างโหดอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ และเมื่อใดก็ตามที่ชอว์ฟอร์มโหด หากเราจำได้ ช่วงโปรแกรมรีสตาร์ทที่กลับมาเล่นชอว์ก็เป็นแบบนี้แหละ จนกระทั่งมาเจ็บไปช่วงนัดท้ายๆ ฟอร์มของทีมเลยดร็อปทันที

ขาดชอว์เหมือนขาดใจ ทุกคนคงจำกันได้

และถ้าจะไม่ลืมคำนี้ แน่นอนว่าทุกคนจะต้องระลึกได้ว่า ลุค ชอว์ในยามที่ฟอร์มเทพ มันส่งผลกับฟอร์มทีมของแมนยูไนเต็ดขนาดไหน (รวมถึงฟอร์มคู่หูฝั่งซ้ายอย่างแรชฟอร์ดด้วยที่ดรอปตามกันไปในยามที่ขาดชอว์) ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่าเข้าลูปเดิมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ยามที่ชอว์เข้าร่างโหดเมื่อไหร่ มักจะโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บมาเล่นงานในขณะที่กำลังโหดๆอยู่"ทุกครั้ง" (อืม กูไม่น่าเขียนบรรทัดนี้เลย นึกขึ้นมาได้ทำไมวะเนี่ย T___T)

จากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ของโอเล่ มันช่วยทำให้เราได้เห็นภาพของสาเหตุเป็นอย่างดีว่า เพราะอะไร Luke Shaw ถึงได้กลับมาเรียกฟอร์มเก่งได้สำเร็จในช่วงระยะหลังนี้ อันเนื่องจากว่า สภาพร่างกายที่กลับมาฟิตสมบูรณ์เข้าที่เข้าทางดี และนอกจากด้านกายภาพ(Physical)แล้ว ทางด้านจิตใจ(Mentality) ชอว์ก็ดูจะอยู่ในความรู้สึกที่ดี ซึ่งในด้านของความมั่นใจ สภาพจิตใจ ผมมองว่ามีสามประการที่ "ส่งผลกับด้านจิตใจ" ชอว์แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ นั่นก็คือ

1. แรงsupport และความเชื่อใจของผู้จัดการทีม

อันนี้ต้องยกผลงานให้โอเล่จริงๆที่ แม้อเล็กซ์ เตลีส จะเข้าทีมมา แต่โอเล่ยังเชื่อใจชอว์เป็นหลักและให้โอกาสลงต่อเนื่อง ชอว์มันก็ทำได้ซะด้วย น่าจะเป็นความมั่นใจที่ได้รับจากการที่ ผจก เชื่อใจส่งลงสนามต่อเนื่องนั่นเอง

2. การได้เป็นพ่อคน

อันนี้น่าจะเติมเต็มความสุขในหัวใจ อันเป็นความอบอุ่นจากพื้นฐานครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนนึงของชีวิตมนุษย์ และชอว์ได้รับการเติมเต็มจากตรงนี้มา(คล้ายๆกับบรูโน่) ผลที่ออกมาจึงเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนาม เพราะเขามีแรงหนุนจากครอบครัวเป็นอีกพลังงานดีๆด้วยนั่นเอง

3. แรงกระตุ้นจากการแข่งขันแย่งตำแหน่ง

นี่คือคำตอบในการเข้ามาของ Alex Telles ที่ส่งผลทั้งในทาง ++ กับลุค ชอว์ ที่เข้ามาเป็นคนsupportตำแหน่งแบ็คซ้ายให้ชอว์สบายใจว่า เขาไม่จำเป็นต้องลงสนามทุกนัดก็ได้ มีคนช่วยแล้ว มันจึงเป็นความสบายใจในภาคการเล่นที่ไม่ต้องพะวงอะไรทั้งนั้น

แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันไปในตัวด้วยเช่นกันกับการมีอเล็กซ์ เตลีส ที่ทั้งสองเหมือนคนช่วยเล่นตำแหน่งเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน แต่ก็ต้องแย่งชิงตำแหน่งเซ็มบัตสึทางฝั่งซ้ายกันเองอีกด้วย

เหมือนเคสการแข่งกันเองระหว่างเพื่อนในBNK48นี่แหละ

ประเด็นซัพตำแหน่งของข้อ3.นี้ยิ่งส่งผลโดยตรงกับเรื่องทาง"กายภาพ" ด้วยซ้ำที่ทำให้ชอว์มีเวลาพักลงสนาม ทำให้เขาไม่กรอบ และรักษาความฟิตได้ดีกว่าเดิม ตอนลงสนามจึงได้วิ่งห้อเป็นม้าได้ขนาดนั้น ซึ่งเคสเดียวกันเราจะเห็นได้จาก เนมันย่า มาติช เช่นกัน ที่ทุกวันนี้มีแม็คเฟร็ดลงไปวิ่งแทนให้ เขาไม่จำเป็นต้องลงทุกนัด ร่างกายมันเลยสดฟิต และมาติชลงมาทีไร เทพทุกที

ปัญหานี้ที่มีในทีม จึงเหลืออยู่เคสเดียวแล้วที่ไม่มีคนเปลี่ยน และนับวันยิ่งกรอบลงกรอบลง .. ใช่แล้ว พี่หนวดผู้น่าสงสารคนนั้นนั่นเองในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ศูนย์กลางเกมรุกของทีม ที่ยังคงต้องตะบี้ตะบันลงสนามต่อไปแบบไม่สามารถหาคนมาเล่นแทนได้ในขณะนี้

จัดแจ็ค กรีลิช มากดดันบรูโน่ให้หน่อยสิเอ็ด นะ นะ เดี๋ยวผลก็จะออกมาเหมือนชอว์นี่แหละ

ดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลแล้ว เราสามารถพูดได้ว่านี่น่าจะเป็น "ฟอร์มที่ดีที่สุด" ของ Luke Shaw เท่าที่มีแล้ว ในความสามารถที่ทำได้ทั้งเกมรับที่แข็งแกร่ง ดุดัน และมีสปีดที่สามารถตามตัวรุกสุดจี๊ดของคู่ต่อสู้ได้ ในขณะที่ช่วยเติมเกมรุกให้ทีมเราตลอด จนทำให้ฝั่งกราบซ้ายนั้นไม่พิการ และพาบอลขึ้นไปบุกจากข้างนี้ได้ตลอดเวลา นี่จึงเป็นแบ็คซ้ายที่สามารถพูดได้ว่าเป็น "สายบาลานซ์" ระหว่างทั้งสองมิติ รุกก็ดีรับก็เยี่ยมนั่นเอง  ชอว์คือแบ็คสายสมดุลดังกล่าว เพราะเขาไม่ใช่แบ็คจอมบุกอย่างเดียว แต่เกมรับก็ยังดีเยี่ยมอีกด้วย

จากการที่ได้รับแรงสนับสนุนทางด้านจิตใจ และส่งผลมาถึงทางด้านร่างกายที่ฟิตเปรี๊ยะ จากการได้ลงสนามต่อเนื่อง และมีคนมาช่วยเล่นในตำแหน่งของเขาแล้วนั้น มันทำให้เกิดสมดุลระหว่าง "กาย" กับ "จิต" ที่ดีเยี่ยมเต็ม100%เหมือนกันทั้งคู่

หากใครได้ดูDragonballภาคล่าสุดก็คงจะรู้จักร่างล่าสุดหัวสีเทาของโกคูเป็นอย่างดีที่มีชื่อเป็นทางการว่า "ร่างนำใจกายนำจิต" หรือที่ใช้ภาษาอังกฤษว่า Ultra Instinct ซึ่งเป็นการปล่อยธรรมชาติให้ร่างกายเคลื่อนที่ไปตามที่มันเป็น ไม่ต้องใช้จิตสั่งคิด ทำให้มันปลดปล่อยทุกสิ่งออกมาได้อย่างทรงพลัง

Luke Shaw ในตอนนี้อาจจะเป็นร่างUltra Instinct นี่แหละซึ่งก็เป็นสิ่งที่คล้ายๆกับร่างนำใจกายนำจิต แต่ของชอว์แตกต่างกันตรงที่ "กายกับจิต" ของเขานั้นมันไปด้วยกันอย่างพอดิบพอดี ไม่ได้สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่งที่ใช้แต่พลังทางกายอย่างเดียว หรือใช้จิตในการสู้บนสนามเพียงเท่านั้น แต่มันไปได้ดีบนความสมดุล จากสิ่งที่เขาเป็น

หลายคนอาจจะคิดว่านี่เป็นลุค ชอว์ร่างที่เก่งเหมือนสมัยยุคลุงหลุยส์ ช่วงก่อนขาหัก บางคนอาจจะคิดว่า นี่คือเรื่องราวเดียวกันของ "มิสึอิ ฮิซาชิ" ชายผู้กลับมาเล่นบาสอีกครั้งหลังจากได้MVPตอนมอต้น และเจ้าตัวก็คิดว่าเขาไม่ได้เก่งเหมือนตอนมอต้นนั้นอีกแล้ว

หลายคนอาจจะมองในมุมดังกล่าว แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ตัวของชอว์ในตอนนี้ เหนือกว่าตัวเขาในสมัยอดีตที่เป็น "ร่างก่อนขาหัก" ยุคหลุยส์ฟานกัลในตอนนั้นมากเกินพอแล้วล่ะ

ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นที่มุทะลุ เล่นด้วยสัญชาตญาณและร่างกายเป็นหลัก แต่ตอนนี้ มันคือยามที่ "จิตใจ"ของชอว์ ซึ่งเป็นวิธีคิดและประสบการณ์ทั้งหมด มันประสานกับ "ร่างกาย" ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์และแข็งแกร่งสัสๆอีกครั้ง ดังนั้นแฟนผีทุกท่านจงตื่นเต้นและมีความสุขกับแบ็คซ้ายของเรารายนี้

เรายินดีอย่างยิ่งที่จะบอกกับทุกท่านว่า นี่คือร่างที่พีคที่สุดในชีวิตของ Luke Shaw

ขอเชิญชมฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาต่อไปเรื่อยๆให้นานที่สุดครับ

-ศาลาผี-

Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/ole-reveals-secret-behind-luke-shaw-success-and-recent-form

https://twitter.com/StatmanDave/status/1350872764643622913

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด