นับตั้งแต่ตลาดนักเตะเดือนมกราคมเปิดอย่างเป็นทางการ อาร์เตต้า ปล่อยนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนออกไปแล้วหลายคน เริ่มตั้งแต่ วิลเลี่ยม ซาลีบา กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสที่กลับไปเริ่มต้นใหม่ในฝรั่งเศสอีกรอบกับ นีซ ด้วยสัญญายืมตัวจนถึงจบฤดูกาล

เซอัด โคลาซินัช แบ็กซ้ายบอสเนียฯ กลับไปเล่นให้ทีมเก่า ชาลเก้ ด้วยสัญญายืมตัวเช่นกัน แถมกลับไปรับบทกัปตันทีมช่วยทีมเก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลได้แล้ว

โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส กองหลังชาวกรีซ ถูกยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่ 6 เดือน เพื่อให้ได้ย้ายอย่างอิสระในเดือนนี้ 

ขณะที่ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์วัย 32 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนร่วมกับ ซาลีบา และ โซคราตีส ที่ไม่ได้ลงเล่นให้ทีมเลยในฤดูกาลนี้ ก็เตรียมเปิดตัวกับ เฟเนร์บาห์เช่ ทีมดังในตุรกี หลังเดินทางไปถึงแล้วหลายวันและอยู่ระหว่างขั้นตอนการกักตัวตามมาตรการควบคุมโรคระบาดไวรัสโควิด-19

โอซิล ย้ายออกไปแบบไม่มีค่าตัวเช่นเดียวกับ โซคราตีส หลังยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายในการยกเลิกสัญญา 

ในระหว่างนี้ก่อนถึงปิดตลาด ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่สัญญามีถึงจบฤดูกาลเช่นกัน ก็อาจเป็นอีกคนที่ต้องเก็บข้าวของย้ายออกไปเพราะตัวเลือกในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟมีเพียงพออยู่แล้วทั้ง กาเบรียล มากัลเญส, ร็อบ โฮลดิ้ง, ดาวิด ลุยซ์, ปาโบล มารี และ คาลั่ม แชมเบอร์ส 

ที่ต้องจับตามองคือ แข้งใหม่ที่จะย้ายสวนทางเข้ามาร่วมทีมจะเป็นใคร

อาร์เตต้า พูดถึงแผนงานในโค้งสุดท้ายของตลาดหน้าหนาวว่า "เราอยู่ในขั้นตอนนั้นแล้วเวลานี้ เราจัดการส่วนแรก (ลดขนาดทีม) เสร็จไปพอสมควร และตอนนี้จะได้โฟกัสกับเฟสสอง" 

"แน่นอนว่าตลาดรอบนี้และบริบทของมันทำให้การเสริมทัพเป็นเรื่องยากมากๆ แต่เราจะมองหาตัวเลือกต่างๆ และมาดูกันว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง" 

"เรากำลังมองหาหลายๆ ตำแหน่งเพราะว่านักเตะที่เราปล่อยออกไปในตลาดรอบนี้ ทำให้ตัวเลือกในบางตำแหน่งน้อยลง หากเราสามารถเสริมทัพเราก็จะทำ แต่หากไม่สามารถทำได้ เราก็เพียงจัดการกับสิ่งที่เรามีอยู่"

รายแรกที่มาเซอร์ไพรส์สุดๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มกราคม คือ แมต ไรอัน ผู้รักษาประตูจาก ไบรท์ตัน ที่เข้าย้ายมาร่วมทีมด้วสัญญายืมตัวจนถึงจบฤดูกาล 

ดีลแรกไม่มีข่าวใดๆ ออกมาก่อน รู้กันทีแรกคือประกาศอย่างเป็นทางการ นายทวารชาวออสเตรเลีย จะเข้ามาเป็นมือสองคนใหม่ของทีม คอยแบ็กอัป แบรนด์ เลโน่ แทนตำแหน่งของ อเล็กซ์ รูนาร์สสัน ที่ผลงานยังไม่เข้าตา 

  ส่วนคนต่อไปที่มีโอกาสมากสุด ณ เวลานี้คือ "มาร์ติน โอเดการ์ด" กองกลางนอร์วีเจี้ยนของ เรอัล มาดริด

โอเดการ์ด ได้ลงสนามให้ เรอัล มาดริด น้อยมากในฤดูกาลนี้ หลังกลับมาจากถูกปล่อยให้ เรอัล โซเซียดาด ยืมใช้งานในฤดูกาลที่แล้วซึ่งได้เล่นอย่างเต็มที่และทำผลงานได้ดีมากๆ

ไม่ได้ลงเล่นให้ เรอัล มาดริด มากนักในฤดูกาลนี้

มาดริด พร้อมปล่อย โอเดการ์ด ให้ย้ายทีมแบบยืมตัวในเดือนนี้เพื่อได้ลงเล่นมากขึ้น หากอยู่กับทีมต่อไป สถานการณ์คงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม 

ซีเนดีน ซีดาน มีตัวเลือกเพียบอยู่แล้วในตำแหน่งที่ โอเดการ์ด เล่นได้ ไม่ว่าจะเป็นแดนกลางที่ก็มี 3 พี่ใหญ่ ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส และ กาเซมีโร่ เป็นเซตตัวจริงชุดแรก ขณะที่ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กับ อีสโก้ ก็ได้โอกาสมากกว่า

ขยับขึ้นไปเบียดกับตัวรุกคนอื่นก็ยังมี เอแด็น อาซาร์, มาร์โก อาเซนซิโอ, ลูคัส บาซเกซ, วินิซิอุส, โรดรีโก้ ฯลฯ อยู่แล้ว 

นั่นทำให้ฤดูกาลนี้ โอเดการ์ด ลงสนามรวมกันเพียงเพียง 367 นาทีเท่านั้น แถมมีช่วงบาดเจ็บไป 2 ครั้งซึ่งกระทบต่อการเรียกความฟิตและเรียกฟอร์มการเล่นอย่างมาก

เรอัล มาดริด ตกรอบ โกปา เดล เรย์ ไปแล้วหลังพลิกล็อกโดนทีมจากดิวิชั่น 3 เขี่ยตกรอบ เวทีสำหรับกลุ่มดาวรุ่งและสำรองที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับ โอเดการ์ด ก็หมดลงไปด้วย 

เป้าหมายของทัพราชันจึงเหลือเพียง 2 รายการสำคัญอย่าง ลา ลีกา กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ซีดาน ต้องเอาจริงและทุ่มสุดตัว ไม่มีเวลามา "เอื้ออาทร" หรือเห็นใจใคร โอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอของ โอเดการ์ด จึงแทบปิดตาย 

ในวัย 22 ปี กำลังอยู่ในช่วงที่ควรได้ลงเล่นต่อเนื่องเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ไม่ใช่นั่งรอโอกาสที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ การย้ายทีมออกไปชั่วคราวอีกรอบจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมทั้งตัว โอเดการ์ด เองและ เรอัล มาดริด 

ทีมดังแห่งกรุงมาดริด ยังไม่อยากขายขาด โอเดการ์ด ออกจากทีมเพราะยังเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแข้งอนาคตที่มีทั้งฝีเท้าและอายุใช้งานอีกนานหลายปี 

ส่วนในมุม อาร์เซน่อล การดึงกองกลางดาวรุ่งรายนี้มาร่วมทีมเป็นดีลที่โอเคอย่างมากเช่นกันโดยเฉพาะกับการ "ยืมตัว" 

ปัจจุบัน อาร์เซน่อล มีนักเตะที่ยืมมาจากทัพชุดขาวอยู่แล้วคือ ดานี่ เซบายอส ที่ย้ายมาเล่นกับทีมเป็นฤดูกาลที่สอง และก็ได้ลงเล่นพอสมควรรวมกันมากกว่าหกสิบนัดตลอดหนึ่งฤดูกาลครึ่งที่ผ่านมา แถมช่วยทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ มาครองอีกด้วย

ในสถานการณ์ที่ทุกทีมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนทำให้ขาดรายได้อย่างมาก การ "ยืมตัว" จึงเหมาะกับหลายทีมที่ไม่ได้มีเงินให้ถลุงเล่น 

ในช่วงที่ผ่านมา อาร์เซน่อล จึงตกเป็นข่าวกับนักเตะที่ในตำแหน่งตัวทำเกมหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะเป็น ฮุสเซม อาอูอาร์ เป้าหมายที่สนใจอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ก่อน, โดมินิค โซบอสไล ที่สุดท้ายเลือกย้ายไป แอร์เบ ไลป์ซิก, เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กของ นอริช ซิตี้, ยูเลี่ยน บรันท์ด ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และล่าสุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมากับรายของ มาร์ติน โอเดการ์ด 

ความต่างที่ทำให้ตัวเลือกอย่าง โอเดการ์ด มีโอกาสย้ายมากกว่าคนอื่นคือ การย้ายยืมตัวซึ่งคุยกันได้ง่ายกว่า ต่างจากในรายของ บูเอนเดีย และ บรันท์ด ที่ต้นสังกัดไม่ปล่อยยืมแน่นอนเพราะยังเป็นแกนหลัก หาก อาร์เซน่อล อยากได้จริงก็ต้องทุ่มเงินอย่างเดียวซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรทำมากนักในเดือนนี้

ทุกสื่อที่น่าเชื่อถือทั้งในสเปนและอังกฤษ รวมถึงกูรูแถวหน้าอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ และ เดวิด ออร์นสตีน ต่างรายงานตรงกันว่า มาร์ติน โอเดการ์ด ตัดสินใจเลือกซบ อาร์เซน่อล แม้ก่อนหน้านี้เหมือนจะเตรียมตัวย้ายกลับ เรอัล โซเซียดาด อีกรอบก็ตาม  

ว่ากันถึงตำแหน่งการเล่น โอเดการ์ด ตอบโจทย์คุณสมบัติที่ มิเกล อาร์เตต้า กำลังมองหาในตลาดรอบนี้

อาร์เตต้า ยอมรับในหลายครั้งว่าทีมมีปัญหาในการสร้างสรรค์เกมรุกตรงกลางหลังเลือกตัดหาง โอซิล ออกจากทีม และก่อนจะกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงหลัง ผลงานของทีมก็ดิ่งเหวอยู่พักใหญ่จนอันดับหล่นไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวโซนตกชั้น 

ฟอร์มการเล่นของ อาร์เซน่อล เริ่มดีขึ้นนับตั้งแต่กล้าตัดสินใจส่งก๊วนดาวรุ่งอย่าง เอมิล สมิธ โรว์, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงสนามพร้อมกันในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ที่ไล่อัด เชลซี 3-1 และจากนั้นเป็นต้นมาก็เก็บชัยชนะได้ 4 นัด เสมอ 1 นัด และไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว

โอเดการ์ด เล่นในตำแหน่งเดียวกับ สมิธ โรว์ ในตอนนี้คือ เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุก

พร้อมแบ่งเบาภาระของ เอมิล สมิธ โรว์

แฟนบอลปืนใหญ่ไม่ต้องกังวลว่า โอเดการ์ด จะเข้ามาแย่งโอกาสลงสนามของ สมิธ โรว์ เพราะการมาของดาวเตะนอร์วีเจี้ยนจะทำให้ สมิธ โรว์ ไม่ต้องแบกความกดดันและความหวังทั้งหมดเอาไว้บนบ่าจนเกินไป ให้มีคนมาช่วยสลับลงเล่นและได้พักบ้างในบางเกม 

แม้ช่วงหนึ่งเดือนหลังสุด สมิธ โรว์ จะทำผลงานได้ดี แต่ต้องไม่ลืมว่ายังเป็นเพียงดาวรุ่งที่ต้องเป็นค่อยไป เหมือนต้นไม้ที่แม้กำลังอยู่ในช่วงเติบโตก็ควรใส่น้ำและปุ๋ยอย่างพอเหมาะ ไม่ใช่มากจนเกินพอดี 

นอกจากนี้ โอเดการ์ด ยังเล่นในบทบาท "หมายเลข 8" ที่ขยับลงต่ำเล็กน้อย สามารถเพิ่มทางเลือกให้ อาร์เตต้า ส่งลงเล่นร่วมกับ สมิธ โรว์ ได้ เหมือนในยุคที่ เมซุต โอซิล เล่นร่วมกับ อารอน แรมซีย์ 

ที่สำคัญอีกสำหรับตัวของ มาร์ติน โอเดการ์ด เองคือการได้เรียนรู้ฟุตบอลอังกฤษที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่มีค่าแน่นอนไม่ว่าช่วงเวลากับ อาร์เซน่อล ออกมาประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ก่อนกลับไปเป็นแกนหลักของ เรอัล มาดริด ในอนาคต

เรียกได้ว่าดีลระหว่าง อาร์เซน่อล กับ มาร์ติน โอเดการ์ด ครั้งนี้คือการย้ายทีมที่ลงตัวทุกอย่าง และอาจกลายเป็นอีกดีลสำคัญที่ทำให้ อาร์เซน่อล ได้กลับมาอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้