:::     :::

ชนะแต่ไม่ประทับใจเท่าไร

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,050
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่มีอะไรพลิกล็อคสำหรับ เชลซี กับการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในศึกเอฟเอ คัพ หลังเอาชนะทีมรองบ่อนอย่าง ลูตัน มาได้แบบ 3-1

ความพ่ายแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อกลางสัปดาห์รบกวนจิตใจ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รวมถึงนักเตะของ "สิงห์บลูส์" ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทีมโดนวิจารณ์อย่างหนักทั้งในส่วนของผู้จัดการทีมและตัวผู้เล่น

ดังนั้นไม่แปลกที่จะได้เห็น เชลซี ใช้ผู้เล่นตัวหลักเกินค่อนทีมเพื่อที่จะไม่ให้มีอะไรผิดพลาดในเกมนี้ เพราะหากทะเล่อทะล่าตกรอบไป ชะตา แฟร้งค์ แลมพาร์ด คงขาดลงอย่างแน่นอน

เกปา อาร์รีซาบาลาก้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เอแมร์ซอน และ บิลลี่ กิลมอร์ คือนักเตะที่เป็นสำรองซะส่วนใหญ่ในซีซั่นนี้ ส่วนที่เหลือทั้ง คูร์ท ซูม่า, รีซ เจมส์, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ค, ทิโม แวร์เนอร์ และ แทมมี่ อบราอัม ล้วนเป็นขาประจำทั้งสิ้น

        

สามประตูจาก แทมมี่ อบราฮัม ต้องได้รับการปรบมือชื่นชม เช่นเดียวกันนักเตะหลายๆคนที่ลงเล่นและทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง

คนที่ควรจะได้รับเสียงชื่นชมไม่แพ้กันก็คือ เมสัน เมาท์ ที่แทบจะกลายเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้ไปซะแล้ว ในช่วงเวลาแห่งความย่ำแย่ของทีมก็มีแข้งลูกหม้อรายนี้นี่แหละที่ยังคงรักษาผลงานยอดเยี่ยมพยุงทีมเอาไว้ไม่ให้เป๋ไปมากกว่านี้

แถมยังได้รับเกียรติให้สวมปลอกแขนกัปตันในเกมนี้ด้วย ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวรับหน้าที่นี้กับสโมสรอันเป็นที่รักเลย

        

เมาท์ กลายเป็นคนที่ขับเคลื่อนเกมของทีมให้ไปข้างหน้า แม้ในเกมนี้จะเจอกับคู่แข่งที่เป็นรองเยอะอย่าง ลูตัน แต่ยังไงก็ควรได้รับเสียงปรบมืออยู่ดี

เช่นเดียวกันกับ บิลลี่ กิลมอร์ ที่กลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมนี้ เจ้าหนูวัย 19 ปีได้รับคำชมอยู่เสมอยามที่ลงเล่น เช่นเดียวกันเกมนี้ที่ลงยืนอยู่หน้าแผงกองหลัง แม้จะอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่ถือว่าเล่นได้นิ่งเกินวัยทีเดียว

จริงอยู่ในทีมชุดใหญ่มีทั้ง มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่ รวมถึง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ยืนขวางทางอยู่ แต่หากวัดจากผลงานยามลงสนามแล้ว เจ้าหนูรายนี้ถือว่าไม่เป็นรองเลย


แน่นอนว่าหลังจบเกมทาง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่พลาดที่จะออกมาชมเจ้าหนู กิลมอร์ ว่าครบเครื่องทุกด้าน พร้อมยืนยันว่าจะเก็บไว้ใช้งานเอง ไม่มีทางปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวอย่างแน่นอน 

อีกคนที่พลาดไม่ได้ก็คือ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ลงมาพร้อมกับสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน จากเกมที่เริ่มดูจะอึดอัดไปบ้าง ทำให้ทีมดูวูบวาบและอันตรายมากขึ้นชัดเจน

ด้วยความเร็วและศักยภาพของฝีเท้าไม่แปลกเลยที่ทำไม บาเยิร์น มิวนิค ถึงอยากได้ตัวไปร่วมทีม โดยเฉพาะจังหวะทำชิ่งไปเปิดบอลให้ แทมมี่ อบราฮัม ยิงประตูที่สามปิดท้ายถือเป็นจุดแข็งของเจ้าตัวเลย

        

ฮัดสัน-โอดอย ถือเป็นคนที่ยามอยู่ในสนามพร้อมนสร้างความประทับใจเสมอ แต่กับสถานการณ์ทมี่ทีมมีแนวรุกริมเส้นเต็มที่แบบนี้ เป็นที่เข้าใจได้ว่าต้องมีการสลับกันลงสนาม 

แต่ในคำชื่นชมก็มีความผิดหวังเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น ทิโม แวร์เนอร์ ที่ยังคงตกเป็นเป้าวิจารณ์กับผลงานที่น่าผิดหวัง

จังหวะแอสซิสต์ประตูแรกถ้าจะบอกว่าไม่นับก็คงจะไม่เกินไปนัก เพราะหากดูจากภาพช้ามันก็จวนตัวแล้วไม่มีที่ให้ทำอะไรได้ แม้ตลอดทั้งเกมจะมีส่วนร่วมกับเกมรุกอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีสกอร์มาฝากอยู่ดี

โดยเฉพาะจังหวะจุดโทษที่วัดใจยิงไปตรงกลางประตูก็โดน ไซม่อน สลูก้า เซฟได้อย่างง่ายๆดาย ดูจากสีหน้าหลังพลาดต้องบอกว่าผิดหวังอย่างแรง


ถ้าจะบอกว่าเวลานี้ แวร์เนอร์ คือนักเตะที่ไร้โชคอย่างแท้จริงก็คงไม่แปลก จากความพยายามที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเป็นบ้านเราคงพาไปทำบุญ 9 วัดไปแล้ว

แน่นอนว่าอีกคนต้องเป็น เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่ได้โอกาสเฝ้าเสา และเป็นอีกครั้งที่ปล่อยบอลผ่านสู่ก้นตาข่ายแบบที่ควรจะป้องกันได้ แม้ว่าจะมีส่วนช่วยเซฟให้ทีมไม่โดนตีเสมอในครึ่งหลังก็ตามที

ดูเหมือนว่าตอนนี้ความมั่นใจคงจะหดหายไปเยอะ แถมยิ่งเป็นตัวสำรองด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ยังไงก็ควรจะหาโอกาสย้ายทีมเพื่อลงสนาม ไม่อย่างนั้นในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปกลางปีนี้คงสำรองของ ดาบิด เด เคอา ยาวหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีช่วงที่แทรกขึ้นมายึดมือหนึ่งได้

        อีกจุดที่น่าสนใจคือเรื่องของระบบการเล่นที่ในเกมนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปรับยืน 4-2-3 1 จากที่ส่วนใหญ่ในซีซั่นนี้จะเล่นระบบ 4-3-3 โดย ทิโม แวร์เนอร์ ที่ปกติยืนอยู่ทางซ้าย เกมนี้เมื่อมีทั้ง คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซิเย็ค ก็เลยโดนขยับมาตรงกลางแทน

        

ไม่รู้ว่าจะเป็นการทดลองของ แลมพาร์ด รึเปล่าว่าอาจจะเปลี่ยนมาเล่น 4-2-3-1 อีกครั้ง จากที่ช่วงหลัง 4-3-3 ดูจะไม่เวิร์คเท่าไร

ถึงกระนั้นในภาพรวมเกมนี้คงไม่อาจจะพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าทีมทำผลงานได้ดี เพราะคู่แข่งอ่อนชั้นกว่าเยอะ ซึ่งหากเป็นทีมระดับเดียวกันผลการแข่งขันจะไม่ออกมาแบบนี้

ตอนนี้ไม่ว่าจะเจอกับทีมไหนก็ล้วนอันตราย แม้ว่าชื่อชั้นจะเป็นรองแค่ไหน ซึ่งทีมต้องเรียกความมั่นใจกลับมาโดยด่วน 

หวังว่าเกมนี้คงจะพอช่วยกันได้บ้างละกัน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด