ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์หนุ่มอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาตั้งเป้าคว้าแชมป์กับ แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อสานต่อความก้าวหน้าอย่างรวดเร็สแบบไม่น่าเชื่อตามแนวทางการทำงานฐานะโค้ชของเขา ด้วยแนวคิดเกี่ยวกับเกมสวยงามที่กำลังยกระดับฟุตบอลเยอรมันไปอีกระดับ

นาเกลส์มันน์ เคยเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ เอาก์สบวร์ก และ 1860 มิวนิค เคยก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม 1860 มิวนิค ชุดยู-17 ปี และเป็นส่วนหนึ่งชองทีมสำรองในซีซั่น 2006-2007 แต่ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียวเนื่องจากบาดเจ็บในฤดูกาลดังกล่าว 

เขากลับมา เอาก์สบวร์ก ในซีซั่น 2007-2008 แต่การบาดเจ็บเข่าครั้งที่สองทำให้กระดูกอ่อนเสียหาย ด้วยเหตุนี้ นาเกลส์มันน์ จึงตัดสินใจยุติอาชีพด้วยวัยเพียง 20 ปี และผันตัวมาเป็นผู้ช่วยโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล ฐานะแมวมองในช่วงครึ่งแรกของปี 2008 

นาเกลส์มันน์ เข้าเรียนบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัย 4 ภาคเรียนและย้ายไปเรียนด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จากนั้นเขามุ่งหน้าสู่งานโค้ชโดยเริ่มต้นกับสโมสรเก่า 1860 มิวนิค ฐานะผู้ช่วยของ อเล็กซานเดอร์ ชมิดท์ ในทีมชุดยู-17 ช่วงปี 2008-2010

เขาเริ่มต้นคุมทีมเยาวชนของ ฮอฟเฟนไฮม์ ในปี 2011 ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ซีซั่น 2016-2017 ด้วยวัยเพียง 28 ปี กลายเป็นเทรนเนอร์อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา หลังรับงานต่อจาก ฮูบ สตีเฟ่นส์ ที่ลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2016

นาเกลส์มันน์ คุม ฮอฟเฟนไฮม์ ลงสนาม 136 เกม ชนะ 55 เสมอ 43 แพ้ 38 ก่อน แอร์เบ ไลป์ซิก ดึงมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ต่อจาก ราล์ฟ รังนิก ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019

ตอนคุณเป็นโค้ชทีมเยาวชนที่ ฮอฟเฟนไฮม์ เมื่อปี 2011 คุณเคยฝันว่าความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับการจับสลากยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกจะมีความสำคัญต่อผู้คนหรือไม่?

'คุณไม่สามารถมองเห็นอะไรแบบนั้นได้เลย แน่นอน คุณพยายามจะบรรลุเป้าหมายเสมอและคุณมีความหวังในสิ่งที่คุณจะทำ ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ในช่วงเริ่มต้นอาชีพโค้ชเยาวชนของผม เมื่อผมประสบความสำเร็จบางอย่าง มันชัดเจนว่าถ้าผมได้เป็นโค้ชบุนเดสลีกาในบางช่วงที่ผมยังหนุ่ม เราไม่ทราบแน่ชัดว่ามันจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นความก้าวหน้าในอาชีพผมในเกมอาชีพผ่านไปเร็วมากเพราะผมประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง'

'ผมดูแลสถานการณ์ที่ยากลำบากใน ฮอฟเฟนไฮม์ และสามารถพลิกสถานการณ์นั้นได้ เรายังสามารถคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปในช่วง 2 ปีแรก ปีที่สามไม่ค่อยประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลหลายประการ ปีแรกใน ไลป์ซิก เป็นไปด้วยดี ผมคิดว่าจนถึงปีที่สองถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับทีมเช่นกัน ผมไม่คิดว่าคุณจะเขียนเรื่องราวให้ตัวเองได้มากไปกว่านี้ แต่คาดหวังว่ามันจะเป็นโค้ชหนุ่มที่ใส่ใจและมองโลกแง่ดี แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุณใฝ่ฝันก็ตาม'

การเป็นโค้ชเยาวชนมีความสำคัญเพียงใดที่ต้องไม่เข้าใจเพียงนักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่อยู่ข้างหน้าผู้เล่นคนนั้นด้วย?

'ในช่วงอายุที่คุณกำลังเดินทางไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ นั่นอาจสำคัญยิ่งกว่าเพราะเกมระดับอาชีพเป็นเกมที่น่าเบื่อและคุณต้องพิสูจน์ตัวเองในขณะที่ผู้เล่นเติบโตเป็นมืออาชีพฐานะบุคคลที่พวกเขามีความสำคัญ เพราะพวกเขากลายคนที่ไม่มีอาชีพอย่างที่หวังไว้ พวกเขาต้องเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นและตะหนักว่าอะไรที่สำคัญในชีวิตของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาควรโฟกัสไปที่สิ่งนั้น แน่นอนว่าสายสัมพันธ์กับพ่อแม่ของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าเกมอาชีพ ดังนั้นคุณต้องสนทนากับผู้ปกครองด้วยและทำหน้าที่เป็นครู ผู้เล่นใช้เวลากับคุณทั้งในและนอกสนาม ซึ่งงานด้านนั้นจะมีความสำคัญอย่างมาก'

'การจัดการกับปัจจัยต่างๆเช่น การเรียน, ชีวิตส่วนตัว, บุคลิกภาพของนักเตะช่วยผมในอาชีพของผม มันช่วยให้ผมสามารถพูดคุยในสิ่งที่จำเป็นกับผู้คนมากมาย บทสนทนาบางส่วนที่เป็นไปในเชิงบวก บางอย่างเป็นด้านลบ แต่สุดท้ายแล้วมันช่วยให้ผมเติบโตในฐานะโค้ช การโฟกัสด้านการเป็นมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอนในวงการฟุตบอลระดับเยาวชน'

การมีคุณสมบัติเป็นโค้ชฟุตบอลนั้นยากแค่ไหน?

'โดยพื้นฐานแล้วมันไม่ยากเกินไป แต่คุณต้องลงทุนกับมันมากนัก การขับรถไป-กลับมากมาย แม้ว่าการเดินทางระหว่าง ฮอฟเฟนไฮม์ และ เฮนเนฟ จะไม่เลวร้ายนักและบางคนก็แย่กว่าผมมาก คุณต้องจากครอบครัวของคุณในช่วงบ่ายวันอาทิตย์และคุณกลับมาในช่วงเย็นวันพุธ ดังนั้นอาจเป็นเรื่องยากและคุณต้องขับรถมาก ผมค่อนข้างอยู่ใกล้โรงเรียนในช่วงเวลาของผม แต่มีอีกหลายคนที่ไม่ได้รับการศึกษามา 20 ปีและต้องนั่งเงียบๆในห้องและเรียนรู้เป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อวัน นั่นต้องการปรับตัวสำหรับพวกเขา เนื้อหาไม่ใช่เรื่องยาก นั่นไม่ใช่ประเด็นของมัน ความตั้งใจคือการสร้างโครงสร้างและช่วยให้คุณจำทุกอย่างที่คุณต้องการได้ ไม่ใช่แค่เรื่องยุทธวิธีในภาพรวม แต่ยังรวมถึงข้อปลีกย่อยที่สำคัญในวงการฟุตบอลอีกด้วย เรื่องเนื้อหาไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันเป็นช่วงเวลาเรียกร้องในชีวิตของผม'

ในระบบของคุณ มีนักเตะจำนวนมากทำงานอยู่ตรงกลางสนาม คำพูดเก่าๆเกี่ยวกับ 'คุณต้องยึดสนาม' มันล้าสมัยหรือยัง?

'ผมไม่ใช่แฟนตัวยงเพราะผมต้องการรูปแบบการเล่นที่กระตือรือร้นแลถ้าคุณต้องการทำเช่นนั้น คุณต้องการรักษาความใกล้ชิดกับฟุตบอล นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมัน ในทางกลับกันมีบางช่วงในการแข่งขันเมื่อผมสั่งให้นักเตะริมเส้นเล่นให้กว้างมากขึ้น โดยพื้นฐานแล้วมันเกี่ยวกับการอยู่ในตำแหน่งแนวรุกที่คุณสามารถส่งผ่านไปได้หากลูกบอลเคลื่อนที่ไปรอบๆ แต่คุณอยู่ใกล้ฝ่ายตรงข้ามมากพอที่จะเริ่มใช้ 'เกเก้นเพรส' ถ้าเราเสียการครองบอล ถ้าหากคุณทำตามแนวคิดของโรงเรียนฟุตบอลดัตช์ โดยมีผู้เล่นแนวรุกด้านกว้างหลายคนที่คุณมักจะประสบปัญหาในการไม่เปิดให้ผ่านบอลหรือช่วงเวลาที่บอลมาถึงคุณและให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามในการจัดระเบียบใหม่ นอกจากนี้คุณยังเสี่ยงที่จะอยู่ไกลจากลูกบอลถ้าคุณเสียการครองบอลและคุณจะไม่สามารถเพรสคู่แข่งได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากเห็นว่าเราลดขนาดสนามและสร้างโอกาสใกล้เป้าหมาย กฎของฟุตบอลกำหนดว่ามันอยู่ตรงกลางสนาม ดังนั้นผมจึงอยากเห็นเรามีสถานะที่แข็งแกร่งในพื้นที่เหล่านั้น'

เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ ราล์ฟ รังนิก มีส่วนช่วยปฏิวัติวงการฟุตบอลเยอรมันมากน้อยเพียงใด?

'พวกเขานำเสนอสไตล์ที่แตกต่างออกไปอย่างแน่นอนในเยอรมัน ซึ่งบางทีอาจเคยฝึกซ้อมมาก่อนในอิตาลีโดย (เมาริซิโอ) ซาร์รี่ และคนอื่นๆ โดยรวมแล้วเป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในฟุตบอล ราล์ฟ เริ่มต้นด้วยการเพรสซิ่งแบบสุดโต่งของเขาและการเปลี่ยนอย่างรวดเร็วของเขาจากระดับดิวิชั่น 5  โอเบอร์ลีกา ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำแบบเดียวกันในบุนเดสลีกากับ ไมนซ์ และ ดอร์ทมุนด์ เขาอธิบายว่า 'เกเก้นเพรส' ของเขาและทีมของเขาคือเพลย์เมกเกอร์ พวกเขาทั้งคู่เป็นคนที่มีจิตใจในการทำฟุตบอลให้มีสไตล์โดดเด่นและยังคงทำเช่นนั้นต่อไป'

'หลังจากนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังเป็นโค้ชในเยอรมันและเล่นฟุตบอลในรูปแบบที่แตกต่างจากพวกเขา แม้จะใช้หลักการเดียวกันหลายอย่าง เขาเพิ่มระยะการครองบอลและวิธีการเล่นกับบอลที่ไม่ธรรมดา ซึ่งยกระดับฟุตบอลไปอีกขั้น การแข่งขันฟุตบอลถูกกำหนดโดยการมีส่วนร่วมของช่วงการเล่นที่หลากหลายเสมอเพราะผมไม่คิดว่าผมไม่เคยเห็นเกมที่ทีมสามารถเล่นเฉพาะช่วงการเปลี่ยนผ่าน, กดดันต่อเนื่อง หรือโดยเฉพาะการครองบอล'

'ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจะต้องแก้ปัญหาในแต่ละช่วงของการเล่น 4 ขั้นตอนและการเล่นลูกตั้งเตะ ขึ้นอยู่กับรสนิยมในการฝึกสอนจะมีความชอบและเน้นในบางช่วงเสมอและ ราล์ฟ รังนิก และ คล็อปป์ ให้น้ำหนักกับการครองบอลและการเปลี่ยนผ่านมากกว่าที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำ ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่สามารถสอนผู้เล่นของเขาได้ทุกช่วงคือโค้ชดีที่สุด'

คุณคิดว่าเกมฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบมีอยู่จริงหรือไม่?

'ไม่, นั่นไม่มีอยู่จริง เกมที่สมบูรณ์แบบในความคิดของผมอาจมีอยู่จริงหรืออย่างน้อยก็มีบางอย่างที่ใกล้เคียงกับมัน แต่ไม่มีการทำประตูมากมาย ฟุตบอลเป็นเกมที่ประตูมาจากความผิดพลาดเกือบตลอดเวลาและเแทบจะไม่ได้มาจากคนๆเดียวที่ทำทุกอย่างถูกต้องและฝ่ายตรงข้ามทำได้ดีน้อยกว่าเล็กน้อย การทำประตูส่วนใหญ่มาจากความผิดพลาด นั่นคือสาเหตุที่ทำประตูได้และทำไมแฟนๆจะกลับไปที่สนามอีกครั้งเมื่อพวกเขาได้รับอนุญาต นั่นคือเหตุผลที่ฟุตบอลดึงดูดจินตนาการของเรา ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องเห็นเกมที่สมบูรณ์แบบจริงๆ'

เหตุใดจึงมีโค้ชชาวเยอรมันจำนวนมากในระดับสูงของเกมยุโรป?

'ผมคิดว่าเราสนุกกับการศึกษาฟุตบอลที่ดีในเยอรมัน คุณต้องดูด้วยว่าทีมใดที่โค้ชดูแลอยู่ หนึ่งในนั้นคือโค้ชของ บาเยิร์น, หนึ่งในนั้นคือโค้ช ลิเวอร์พูล ดังนั้นโอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จในแชมเปี้ยนส์ลีกจึงมีสูงและเป็นเรื่องปกติ ผมกำลังฝึกสอน ไลป์ซิก ซึ่งไม่ได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกสม่ำเสมอ แต่เราสร้างชื่อให้กับตัวเองได้ด้วยการเล่นที่ดี ผมคิดว่าถ้าเราเป็นโค้ชทีมเล็กๆ โอกาสที่เราจะไปได้ไกลในแชมเปี้ยนส์ลีกจะน้อยลงมาก ในแง่หนึ่งคือการสุ่มและความบังเอิญมีส่วนทำให้โค้ชชาวเยอรมันจำนวนมากอยู่ในช่วงท้ายของการแข่งขันเมื่อเร็วๆนี้และในทางกลับกัน คุณต้องดูว่าโค้ชเหล่านั้นอยู่กับสโมสรใด'

คุณทำอย่างไรเพื่อเลิกคิดถึงฟุตบอล?

'นั่นเป็นเรื่องยากมากและผมคิดว่ามันเป็นศิลปะของการฝึกสอนอย่างแท้จริงเพราะในช่วงซัมเมอร์และหน้าหนาวเมื่อคุณมีเวลาว่าง มันเป็นช่วงเวลาของการย้ายทีมและต้องมีการตัดสินใจสำคัญ การตัดสินใจเหล่านั้นส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและการเปลี่ยนแปลงของเงินจำนวนมหาศาล ดังนั้นคุณจึงไม่มีเวลาว่างจริงๆ คุณฝันถึงเกมจำนวนมากเช่นกันหรืออย่างน้อยผมก็ทำได้ และการคว้าชัยชนะอาจเป็นความรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ปล่อยให้คุณปิดสวิตซ์ได้ราวครึ่งวัน เมื่อคุณประสบความสำเร็จ คุณจะได้รับช่วงว่างเพื่อหยุดพักและไม่คิดถึงมันตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์'

'สิ่งสำคัญคือต้องสนุกกับเรื่องอื่นในชีวิตเช่นกัน นอกเหนือจากฟุตบอล ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ แต่ผมคิดว่ามันสำคัญ ในส่วนที่เหลือของโลกมีความสำคัญเช่นกัน คุณต้องหลงใหลในสิ่งที่คุณทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นคุณจะทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่คุณต้องการสิ่งอื่นๆในชีวิตที่เติมพลังให้คุณเช่นกันเพื่อที่คุณจะอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคุณต้องจดจ่อกับฟุตบอล ถ้าคุณโฟกัสไปที่ฟุตบอลเพียงอย่างเดียวและไม่มีสิ่งอื่นใดในชีวิตที่จะเติมพลังให้คุณ จากนั้นการแสดงผลงานของคุณไม่ว่าจะฐานะโค้ชหรือนักเตะจะพบกับความยากลำบาก'

คุณคิดว่าคุณใกล้จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการแรกมากแค่ไหน?

'ณ ตอนนี้มันดูดี เรายังคงอยู่ในการแข่งขันทุกรายการ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการคว้าโทรฟี่ต่างๆ โฟกัสจะต้องมีความสม่ำเสมอ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด มันยากที่จะคาดเดาสิ่งต่างๆ แต่เรามีความสม่ำเสมอในทุกการแข่งขันตอนนี้ เราต้องรักษาความคงเส้นคงวาในลีกและจากนั้นเราจะก้าวไปสู่จุดสูงสุด สิ่งนั้นจะเพียงพอสำหรับการคว้าแชมป์หรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่รู้และจริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในระดับหนึ่งและพวกเขาจะรักษาความสม่ำเสมออย่างไรในปีนี้'

'ปีนี้เป็นความท้าทายที่ไม่ธรรมดาและการไม่มีช่วงพักหน้าหนาวที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ มันเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยในบุนเดสลีกาและเราไม่รู้ว่านักเตะจะรับมือกับสิ่งนั้นอย่างไร'

'มันเปลี่ยนจังหวะทางชีวภาพทั้งหมดของนักเตะบางคนและไม่มีใครรู้ว่ามันจะส่งผลต่อเราอย่างไร เราต้องรักษาความคงเส้นคงวาและรับโชคในช่วงเวลาสำคัญเพื่อชนะเกมที่บางทีเราอาจไม่ควรชนะหรือเกมที่เราอาจพ่ายแพ้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เราจะอยู่ในการแข่งขันไปอีกนาน ผมคิดว่านักเตะทุกคนที่นี่ต่างต้องการคว้าแชมป์และเรามีความกระหายที่จะทำมัน โดยไม่ยึดติดกับจุดใดจุดหนึ่ง'