:::     :::

ผิดที่ไว้ใจ คนที่ฆ่าฉัน ไหนว่าจะไม่หลอกกัน รักด้วยน้ำตา

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,985
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความไว้ใจที่กลายเป็นบ่วงบาศก์แห่งการฆ่าตัวตาย การส่งลูกรักอย่างอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงสนามยึดตัวจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของทีมอย่างเห็นได้ชัด แฟนบอลรู้ ทุกคนรู้ แต่โซลชา "ไม่รู้"

คงจะเป็นอีกครั้งที่ทำให้แฟนๆปีศาจแดงต้องผิดหวัง จากการที่ทีมพลาดท่าแพ้คาบ้านต่อทีมอันดับ "บ๊วย" ของตารางอย่างเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ที่แทบจะตกชั้นไปแล้วในทางปฏิบัติ เพราะมีเพียงแค่5คะแนนเท่านั้นจาก19นัด และยิงได้เพียงแค่10ลูกตลอดครึ่งซีซั่นแรก แมนยูที่กำลังมีลุ้นแชมป์กับเค้าบ้างในรอบหลายปี ก็ดันมาแพ้ทีมแบบนี้

ด้วยความกากของฟอร์มการเล่น ความผิดพลาดทั้งในส่วนของแทคติก การเล่นของนักเตะ และการเลือกตัวของผู้จัดการทีม ทุกอย่างโถมประดังกันหมดในวันที่เกมรุกย่ำแย่ และเกมรับที่ผิดพลาดหนักๆจากจุดอ่อนที่เกิดขึ้นของแนวรับหลายๆคนที่ต้องรับผิดร่วมกัน จึงส่งผลทำให้เราแพ้ทีมที่ไม่น่าแพ้เช่นนี้

แต่ดูเหมือนจะลักลั่นย้อนแย้งกันเอง เรากลับรู้สึกว่า ทำตัวเองแบบนี้จริงๆก็สมควรแพ้แล้วล่ะ

ประเด็นที่เชื่อว่ามันทำให้แฟนผีหงุดหงิดและเซ็งมากที่สุด มันคือปัญหาเรื้อรังในเรื่องของการ "เลือกตัวนักเตะ" ด้วยมุมมองเลือกที่รักมักที่ชังในการส่งนักเตะฟอร์มแย่บางคนลงสนามเป็นตัวจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆที่ฟอร์มการเล่นมันตำตาแฟนบอลอยู่ว่าห่วยแตกระดับสามสิบแปดริคเตอร์ปานใด พี่แกก็จะยังคงส่งลงสนามอยู่แบบนั้น จนส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมในภาพรวม

ผมกำลังพูดถึงการที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เลือกที่จะให้โอกาส"ลูกรัก"อย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่เป็นประจำ ทั้งๆที่ฟอร์มห่วยแตกแบบไร้ก้นบึ้งแบบสุดลิ่มทิ่มประตู

หนึ่งคือโอเล่นั้น "ผิดที่ไว้ใจ" มาร์กซิยาลมากจนเกินไป ว่านักเตะจะสามารถผลิตการเล่นที่ตัวเองต้องการได้

ข้อแรกนี่คือประเด็นในเรื่องของมุมมองล้วนๆ ที่หลายๆคนสงสัยว่า โซลชานั้นทำไมถึง "มองไม่เห็นความห่วยของมาร์กซิยาล" ว่ามันขี้เกียจ ใจไม่สู้ ไร้ความทุ่มเท และขาดความactiveอย่างถึงที่สุดต่อการเล่นในสนาม ซึ่งขัดกับปรัชญาของสปิริตนักสู้แบบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างแรง

โซลชารู้วัฒนธรรมองค์กรในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำไมถึงมองไม่เห็นหมากในประเด็นนี้?

คำตอบที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดคือ โซลชาน่าจะ"มองคนละมุม" กับแฟนบอล เพราะโอเล่อาจจะไปโฟกัสในมิติที่เขาต้องการ และดันเห็นว่า มาร์กซิยาลมีสิ่งนั้นอยู่ในตัว และต้องการที่จะใช้งานมันให้ได้

แฟนบอลมองเห็นว่านักเตะไม่ทุ่มเท ไม่วิ่ง และไม่เคยต่อสู้อย่างหนักเพื่อทีมเลย แต่โอเล่อาจจะมองเขาแต่ในแง่ที่ว่า

"มาร์กซิยาลมีสปีดความเร็วในการเล่น และจบสกอร์ให้ทีมได้"

เนื่องจากเป็นกองหน้ากึ่งปีกสายInside Forwardที่มีความเร็ว และบอลของโอเล่ก็จะใช้จังหวะtransition play เป็นอาวุธหลักในการเล่นเร็ว ใช้ความเร็วของเด็กหนุ่มตีนไวที่มีในการเล่นเกมวิ่งสวนกลับโจมตีคู่ต่อสู้

ซึ่งตำแหน่งและรูปแบบของมาร์กซิยาล มันตรงกับปรัชญาการบุกของโอเล่พอดี เขาจึงได้ใช้มาร์กซิยาลเป็นตัวหลักของทีมที่มักจะถูกส่งลงสนามก่อนอยู่เสมอ

โอเล่มองแบบนั้นอาจจะถูกแค่1ใน3เท่านั้น แต่ที่เหลือต้องมองย้อนกลับไปถามเขาว่า "แล้วหมากมันได้ใช้ความเร็วนั้นให้เป็นประโยชน์หรือไม่"

ซึ่งมันไม่ใช่

เพราะนักเตะคนนี้มีความเร็วก็จริง แต่ไม่ค่อยจะใช้เพราะเนื่องจากขาดความทุ่มเทในสนาม และเมื่อถึงเวลาที่จะงัดมาใช้ หมากก็ใช้มันไม่ได้ผลอีกเนื่องจากทัศนคติในการเล่นที่มักจะชอบเล่นบอลชายเดี่ยว soloด้วยความสามารถเฉพาะตัว และฝืนเลี้ยงไปคนเดียว สุดท้ายก็ทำบอลของทีมเสียที่เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เหมือนกับลินการ์ดเมื่อปีก่อนเป๊ะ สภาพเดียวกันเลย

จาก"14" สู่ "9" และการสืบทอดตะขาบอย่างเป็นทางการ

ทั้งที่ตัวเองสกิลความสามารถ ทักษะ เทคนิค ร่างกาย ทุกอย่างดีกว่าลินการ์ดเยอะ แต่สุดท้ายแล้ววิชั่นและการตัดสินใจก็ไม่ได้ต่างอะไรกับลินการ์ด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นอยู่ มันจึงไม่ได้ต่างอะไรกับการส่งเจสซี่ลงสนามเลยแม้แต่น้อย ที่ลงมาก็เหมือนหายใจทิ้ง ต่อให้คู่ต่อสู้ตัวนึง และทำบอลเสียอยู่เป็นประจำ

แถมในด้านการจบสกอร์เราก็เห็นแล้วว่า จังหวะการยิงทำประตูของหมากมันขาดความคมอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากขาดความนิ่งขณะทำประตู(composure) และขาดความแม่นยำในการยิงอย่างมาก ดังนั้นแง่มุมที่โซลชามองเรื่องการพังประตูของหมาก มันก็ห่างจากความเป็นจริงเช่นกัน

แล้วไหนล่ะ ประโยชน์ในด้านความเร็วและพลังทำลายที่โอเล่มองเห็นในตัวอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล .. ไม่มีเลย

นี่แหละคือสิ่งที่โอเล่ทำผิด

ผิดตรงที่ไว้ใจ และมองมาร์กซิยาลผิดไป

ข้อที่สองเรื่องที่โอเล่ชอบส่งเขาลงไป ไม่สร้างอะไรดีๆให้ทีมแล้วยังอาจเป็นการฆ่าตัวตายด้วยน้ำมือตัวเองด้วย เพราะกลับกลายเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุดอย่างมาร์กซิยาล ที่อาจเป็นตัวการทำให้โอเล่ไปไม่ถึงฝั่งฝันของการเป็นแชมป์ไม่ว่าจะรายการใดๆ

มาร์กซิยาลเป็นเหมือน "คนที่ฆ่าฉัน" ที่ย้อนกลับมาเป็นใบมีดทิ่มแทงโอเล่ให้ตายลงไปอย่างช้าๆ

นี่คือสิ่งที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา "ทำตัวเอง" ชัดเจนอย่างที่โทษใครไม่ได้ โทษหมากยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่มันฟอร์มเป็นเช่นนี้ เพราะปัญหามันอยู่ที่ "คนเลือกเขาลงสนาม" ซะมากกว่าที่ต้องรับผิดชอบ

และเมื่อทีมฟอร์มแย่อันส่งผลมาจากนักเตะดังกล่าว จึงว่าใครไม่ได้ ก็ในเมื่อคุณเลือกจะใช้ใบมีดที่หันคมใส่ตัวเองแบบนี้มันก็ต้อง"เจ็บเอง"อยู่แล้วล่ะ

มันคือการฆ่าตัวตายที่มาในรูปของการส่งตัวกากลงสนามแล้วไม่ยอมเปลี่ยนออกนั่นเอง

ขณะนี้แผนการสร้างทีมระยะยาวก็ดูเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าปีแรกที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด จากการที่ยูไนเต็ดบินสูงอยู่ในลีกถึงขนาดที่เป็นผู้ท้าชิงโดยตรงกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้ จากที่ปีก่อนๆเรายังอยู่เพียงแค่อันดับ5-6 รอลุ้นท็อปโฟร์ไปวันๆเท่านั้น

การขึ้นมาถึงขนาดนี้ได้ถือว่าเป็นกำไรแล้วของซีซั่นนี้

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจก็คือ โอเล่เคยให้สัมภาษณ์ถึง DNA ของสโมสรที่ตัวเขารู้ดี และจะพยายามนำสิ่งนั้นกลับมายังโรงละครแห่งความฝันให้ได้ เหมือนอย่างที่บอกและสัญญากับแฟนบอลไว้ตั้งแต่แรกๆตอนเข้ามาคุมทีมชั่วคราว

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขากลับเลือกที่จะมองไม่เห็นความเฉื่อยแชะไร้สปิริตความทุ่มเทของนักเตะอย่างมาร์กซิยาลไปซะงั้น และยังคงส่งมันลงสนามเป็นตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และกองหน้าWorld-Classตัวจริงอย่าง Edinson Cavani กลับต้องรอโอกาสต่อจากมาร์กซิยาล

ข้อนี้อย่าปกป้องกันว่า เพราะคาวานี่อายุเยอะแล้ว ต้องสลับๆกันลง อันนี้อ้างไม่ขึ้น เพราะหลายๆครั้ง คาวานี่ฟิตเต็มถัง100% แต่ก็ยังต้องเป็นตัวสำรองอยู่ดี

ไหนว่าจะยึดมั่นเรื่องDNAแมนยูไนเต็ด

ไหนว่าจะให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณของสโมสร

ไหนว่าเขาจะทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเก่า แต่กลับส่งนักเตะที่ไร้สปิริตนักสู้ลงเป็นตัวจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบไม่เข็ดหลาบ

"ไหนว่าจะไม่หลอกกัน"..โซลชา

ความรักที่มีต่อลูกทีมในทางที่ผิดเช่นนี้ มันก็เหมือนพ่อแม่รังแกฉัน ดื้อสปอยล์ส่งลงสนามเอาใจด้วยการการันตีตำแหน่งตัวจริงให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องกลัวมันจะงอแงอะไรนักหนาขนาดนั้นถึงกับกั๊กตำแหน่งเผื่อไว้ แต่กลับไม่แคร์นักเตะตัวอื่นที่ทำงานหนักและควรจะได้รับโอกาสบ้าง

อย่าง แดเนียล เจมส์ ที่ดูจะขยันและใจสู้สมกับDNAแมนยูมากกว่า, ฮวน มาต้าที่ยังรอโอกาสลงสนามอยู่ และจะทำให้ด้านขวามีคนลงเล่น เพื่อให้แรชฟอร์ดได้ยืนตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา

ถ้าโซลชาอยากจะปั้นมาร์กซิยาลให้เป็นสุดยอดนักเตะ หรือมีฟอร์มการเล่นที่ดีจริงๆ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการปรับทัศนคติในการเล่นของนักเตะให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องความทุ่มเทประเภทที่ว่า ทำบอลเสียแล้วยืนทำหน้าเซ็ง แต่ไม่เล่นต่อ หรือความขี้เกียจที่มักจะยืนเฉยๆรอบอล หลายๆครั้งก็แค่จ็อกๆเท่านั้น เดี๋ยวนี้คุณทำแบบนั้นไม่ได้แล้วเพราะว่าตัวเปรียบเทียบมันมีให้เห็นเด่นชัดเกินไป เมื่อคนอย่าง "คาวานี่" ในยามที่ลงสนาม ไม่ว่าจะลงพร้อมกันหรือไม่ก็ตาม แต่คาวานี่ทุ่มเทในการเล่น วิ่งขยับหาตำแหน่งซ้ายทีขวาทีตลอด เพื่อที่จะอยู่ในจุดที่เขาสร้างประโยชน์ให้ทีมได้

แต่มาร์กซิยาลห่างไกลจากคาวานี่เป็นล้านปีแสงในเรื่องความขยัน ส่วนด้านฝีเท้าในฐานะกองหน้า ความคมในการจบสกอร์ของหมากตอนนี้ก็ลงไปกากพอๆกับแดเนียล เจมส์แล้ว เพราะจบสกอร์ห่วยแตกมากๆ

ถ้าแม้แต่ยิงประตูยังทำไม่ได้ ผมเลือกแดนเจมส์ก่อนดีกว่า เพราะขยันกว่าเยอะในการเล่นกับทีมเวิร์คเพื่อนๆคนอื่น

ความรักที่ผิดที่ผิดทางแบบนี้ สักพักมันจะกลายเป็นการ "รักด้วยน้ำตา" ที่มีแต่ความเจ็บช้ำ ซึ่งหากถึงเวลาที่อยากจะไปให้พ้นถ้าเบื่อจะทนหรือผะอืดผะอมจนถึงขีดสุดแล้ว ตอนนั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้

การคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาในภาพรวมนั้น ถือว่า "มาถูกทาง100%" ในการค่อยๆทำทีมระยะยาวจากธรรมเนียมหลักที่เป็นประเพณีของสโมสรในการพัฒนานักเตะท้องถิ่นขึ้นมาเล่นให้สโมสรอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่สมัยอดีตแล้ว

มีข้อดีหลายอย่างมากมายที่พวกเราจำเป็นต้องสนับสนุนเขาโซลชาอย่างเต็มที่ ในการมาวางรากฐานด้วยนักเตะอายุน้อย ผสมกับซีเนียร์ตัวเก๋าชั้นยอดที่มีอยู่ในทีมซึ่งอิมพอร์ตเข้ามาเพิ่ม จนเป็นการพัฒนาทีมในระยะยาว

ข้อดีในเชิงแทคติกการเล่น โซลชาเองก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร อย่างที่โดนค่อนขอดดูถูกจากแฟนบอลกลุ่มที่ไม่เชื่อมือเขา และพร้อมที่จะด่าทันทีที่พลาด แต่ถึงตอนนี้หลายคนน่าจะรู้แล้วว่า เขาคือผู้จัดการทีมสายแทคติกมือฉมังอีกคนนึงที่มีแผนการเล่นหลากหลาย ยืดหยุ่น และน่าสนใจทีเดียว

รวมถึงความสามารถในการสร้างทีมให้เป็นปึกแผ่น รวมใจนักเตะเข้าด้วยกันทั้งเก่าและใหม่ ที่สำคัญคือดึงเอาทีมสปิริตให้เกิดขึ้นได้ในห้องแต่งตัว เหมือนอย่างที่เราเห็นความสัมพันธ์ของเด็กๆในทีมที่ดูดีและทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก

ทั้งหมดนี้คือข้อดีอันยอดเยี่ยมมากพอที่เราจะต้องสนับสนุนโซลชาต่อไปยาวๆ ในยามที่เข้าปีที่2ของการทำทีม ก็เริ่มกลับมาได้ลุ้นแชมป์บ้างแล้ว ทั้งๆที่ปีก่อนยังห่างไกลทีมระดับท็อปอย่างซิตี้และลิเวอร์พูลด้วยgapระยะห่างที่ค่อนข้างกว้างมาก

ยังยืนยันว่า เราสนับสนุนโซลชาอย่างเต็มที่สุดชีวิตเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

แต่..

ในบรรดาข้อดีทั้งหมดที่ทำให้เราสนับสนุนนั้น มันก็มี"ข้อเสีย"ที่เป็นจุดอ่อนร้ายแรงระดับคอขาดบาดตายของโซลชาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือการเลือกจัดตัวนักเตะลูกรักลงสนามก่อน และความไม่เชื่อใจนักเตะตัวสำรองหลายๆราย ที่ทำให้โซลชายังไม่สามารถพาทีมในขณะนี้ ไปให้ถึงขีดสุดของศักยภาพได้

แม้รากฐานสโมสรจะดี แต่หน้างานถ้าโซลชายังคงจัดตัวผิดลงเล่นในสนาม ก็อาจจะเกิดความล้มเหลวแบบเกมเจอบ๊วยอย่างเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดนี้ได้อีก กรณีพลิกล็อคพลาดตกรอบUCLที่ผ่านมา แบบที่ก้าวเท้าเข้าไปครึ่งลำแล้วแต่ก็ยังจะตกรอบได้อีก มันไม่ต่างกันเลย

ทุกอย่างเป็นปัญหาที่การเลือกตัวลงสนามของโอเล่ล้วนๆ

เพราะการเลือกนักเตะลูกรักบางคนลงสนาม มันไปเบียดบังและตำแหน่งของนักเตะที่ "คู่ควรจะได้ลงสนาม" อย่างที่เราเห็นเกิดขึ้นในการที่แรชฟอร์ดต้องถ่างออกไปเล่นขวา เพื่อหลีกทางให้กับมาร์กซิยาลได้เล่นปีกซ้ายดังที่เห็นกัน ซึ่งแรชฟอร์ดก็เล่นไม่ออกไปด้วยเวลาที่ไปอยู่ตำแหน่งที่ไม่ถนัด เพราะต้องเสียจุดเล่นที่ถนัดให้กับนักเตะที่ฟอร์มย่ำแย่กว่าตัวเขาเอง

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทีมเป็นลูกโซ่ อันจะเห็นได้จากเมื่อเทียบนัดก่อนหน้าแดงเดือดที่ปีกทั้งสองข้างเป็นง่อยตอนเจอฟูแล่ม แต่พอกลับมาเจอลิเวอร์พูล และแรชฟอร์ดได้ลงตัวจริงในปีกซ้าย คาวานี่ได้ยึดหน้าเป้า ไม้เขียวลงหน้าขวา ฟอร์มการเล่นเกมรุกของทีมก็กลับโหดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อทุกคนได้ลงจุดที่ถนัด

เพียงแค่ดร็อปเอาส่วนเกินอย่างมาร์กซิยาลออกจากสนามเท่านั้นเอง ทุกๆครั้งที่หมากไม่ได้ลง เชื่อว่าแฟนผีหลายๆคนจะเห็นทันทีว่า ฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมมันดีขึ้น โหดขึ้น และลื่นไหลอย่างเห็นได้ชัด

การที่ตัวเองไม่ได้ลงแล้วเห็นทีมเล่นดีขึ้น มันสมควรจะต้องสำเหนียกตัวเองได้บ้างแล้วว่าเป็นเพราะอะไร และต้องactiveพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง

ปัญหาระบบลูกรักของโอเล่นั้นหลายคนคงจำได้ว่ามันมีมาตั้งแต่ตอนที่ "14 & 15" อยู่ในทีม และได้รับโอกาสลงสนามก่อนตัวดีๆอย่างฮวน มาต้า หรือดาวรุ่งที่ดูจะเล่นได้มีอนาคตมากกว่าอย่าง "อังเคล โกเมส"

แต่ลูกรักทั้งสองกลับได้ลงสนามก่อนโกเมส จนสุดท้ายน้องมันต้องระเห็จออกไปอยู่ที่อื่น เพราะไม่ได้รับโอกาสที่ควรจะได้รับนั่นเอง

และล่าสุดสดๆร้อนๆ โอดิออน อิกาโล่ บอกลากับสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฤดูกาลนี้เขาแทบไม่ได้ลงสนามเลย รวมกับปีก่อนๆอีกหลายนัด ที่อิกาโล่ต้องหลีกทางลงสนามให้กับมาร์กซิยาลก่อน ทั้งๆที่เขาเป็นกองหน้าตัวเป้าขนานแท้ แต่ต้องหลีกทางให้ pseudo striker อย่างมาร์กซิยาลในการยืนหน้าเป้าไปซะยังงั้น

นี่ก็เป็นอีกครั้งที่โอเล่ใช้แต่ลูกรัก จนนักเตะคนอื่นๆไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามอยู่เป็นประจำ ไม่เว้นแม้กระทั่งนักเตะอย่างคาวานี่ที่ยังต้องสำรองหน้าเป้าของหมากเลย!!!

เรื่องทั้งหมดที่บ่นมาวันนี้ ถามว่ามันมีวิธีแก้ปัญหาไหม อันนี้บอกแฟนผีไว้เลยว่า ยากมาก ถึงยากส์ที่สุดในตอนนี้ ถ้าเป็นเลเวลการเล่นเกม ก็คือโหมดNightmareเลยทีเดียว เพราะมันจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ก็คือจะบอร์ดจะต้อง "ซื้อนักเตะใหม่ที่ดีกว่า" เข้ามาทดแทนในตำแหน่งปีกซ้ายนี้เลย เพื่อให้โอเล่ไม่ต้องส่งมาร์กซิยาลลงสนาม และมีตัวที่ดีกว่าใช้งาน

ปัญหาอีกเรื่องคือการที่ทีมไม่มีตัวที่ดีกว่านี่แหละ หมากถึงยังได้ลงเรื่อยๆ

ซึ่งการมีแรชฟอร์ดอยู่ในpoolตำแหน่งนี้อีกหนึ่งคน เมื่อรวมกับแดเนียลเจมส์ในมือแล้ว มันทำให้สโมสรไม่น่าจะอยากลงทุนเพิ่มให้เสียเม็ดเงินมหาศาลตรงนี้ไป ทั้งๆที่มีนักเตะลงเล่นอยู่

เรื่องซื้อปีกซ้ายตัวใหม่เข้ามาเพื่อจะได้ไม่ต้องส่งมันลงสนามนี่ ถือว่ายากเลยนะ เพราะนอกจากบอร์ดจะไม่ได้มีเงินซื้อง่ายๆแล้ว ก็ต้องอยู่ที่โอเล่อีกว่า ซื้อมาแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ลงสนามอยุ่ดี ก็ยังคงส่งลูกรักเขาลงอยู่ในตำแหน่งหน้าเป้าเหมือนเดิมทั้งๆที่ทีมีเอดินสัน คาวานี่ เป็นเจ้าของตำแหน่งนั้นที่แท้จริงอยู่ทั้งคนแล้ว

เรื่องการหาซื้อตัวใหม่ที่เก่งกว่าเข้ามา เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้งานหมาก วิธีนี้ทำได้ยากมาก

เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เหลือแค่สองทางคือ แก้ที่ตัวโอเล่ กับ แก้ที่ตัวมาร์กซิยาล

โอเล่ต้องแก้ไขตัวเองโดยการเลิกดื้อใช้งานนักเตะลูกรักตัวที่ตัวเองชอบหรือโปรดปรานให้ได้ก่อน แล้วลองเชื่อใจลูกทีมคนอื่นๆบ้าง เพราะโอกาสที่มาร์กซิยาลเอาไปทิ้งๆขว้างๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นแดนเจมส์ลงสนาม น้องอาจจะพัฒนาไปไกลกว่านี้อีกเยอะแล้วก็ได้

ส่วนมาร์กซิยาลจำเป็นที่จะต้องมีความขยันในการเล่นมากกว่านี้ แอคทีฟ ไม่เหม่อ และดูตัวอย่างคาวานี่ในสนามบ้างที่เขาตื่นตัวและ "ขยับตำแหน่งตลอดเวลา" แบบไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย เพื่อที่จะเล่นในมิติoff the ball เพื่อหาตำแหน่งว่างที่ได้เปรียบตลอดเวลาสำหรับการสลัดตัวประกบ, ควรเลิกการบ้าเลี้ยงเล่นบอลชายเดี่ยว จะเข้าทำเองโดยไม่ยอมจ่ายบอลให้เพื่อนในจังหวะควรจ่าย รวมทั้งพัฒนาจังหวะจบสกอร์ที่มักจะหมูหกโยนโอกาสทองเหน่งๆอยุ่เป็นประจำ

เป็นการแก้ไขทางจิตใจล้วนๆทั้งพ่อและลูก!

ลูกสองซะด้วยสิ

มาร์กซิยาลนั้นเป็นนักบอลที่มีครบทุกอย่างทั้งสกิลทักษะขั้นสูง และเทคนิคการเล่น รวมถึงสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งและรวดเร็ว แต่นั่นกลับกลายเป็นภาชนะว่างเปล่าที่ไร้ค่า เพราะจิตข้างในขาดแรงกระตุ้น ความตั้งใจ และความทุ่มเทอย่างถึงที่สุด

ส่วนโอเล่นั้น การวางรากฐานสโมสร วิสัยทัศน์ รวมถึงแทคติกการเล่น ทุกอย่างดีหมด แต่ในด้านของการมองคน และเลือกตัดสินใจส่งนักเตะลงสนามนั้น เขาขาดความเชื่อใจในนักเตะคนอื่นๆ และยังคงเลือกที่รักมักที่ชัง เอาแต่นักเตะคนโปรดบางคน เป็นตัวเลือกแรกในการลงสนามอยู่เสมอ ด้วยภาพลวงตาบางอย่างที่เขามองไม่เห็นแบบเดียวกับที่แฟนบอลเห็นการเล่นที่ไร้ใจและทำทีมเสียหายนับครั้งไม่ถ้วนของเขา

กับค่าเหนื่อยแพงระยับระดับ 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ของเขา เหมือนเอาเงินไปทิ้งน้ำ เพราะเทียบปริมาณและคุณภาพการเล่น ยังสร้างสรรค์เกมและวิ่งได้ไม่ถึงครึ่งเดียวของคนค่าเหนื่อยแค่180,000ปอนด์อย่างบรูโน่เลยด้วยซ้ำ

เอาเงินตรงนี้รอไว้จ่ายให้นักเตะตัวอื่นที่มีใจ มีpassionจะเข้ามาช่วยแมนยูดีกว่ามั้ย?

ซึ่งอย่างที่อัสนี-วสันต์ได้กล่าวเอาไว้ว่า "ใจคนเรายากเย็นเกินไป" ไอ้เรื่องของมุมมองและชุดวิธีคิดอันเป็น "สันดานนิสัยส่วนตัว" ของคนเราไม่ใช่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆเหมือนปากพูดเพียงแค่วันสองวัน เอาจริงๆแทบจะเปลี่ยนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เพราะงั้น แทบจะหมดทางแล้วจริงๆที่จะเปลี่ยนเรื่องนี้ได้ เพราะซื้อตัวใหม่มาก็ยาก ไม่ใช่เล่นขายของที่นึกจะไปหาปีกซ้ายเก่งๆมาจากที่ไหนได้ง่ายๆ แถมจะเปลี่ยนวิธีคิดของพวกเขาก็แทบเป็นไปไม่ได้อีก

ถ้างั้นเหลือวิธีเกรียนอย่างสุดท้ายแล้วที่จะเป็นไปได้ คือภาวนาให้มันไม่ฟิตจะลงสนามก็แล้วกัน โอเล่จะได้ไม่ต้องส่งลง แล้วเปิดโอกาสให้ตัวอื่นๆได้เป็นตัวจริงแล้วโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องจนโอเล่ไม่กล้าดร็อป เหลือแค่ทางนี้แล้วแหละถึงพอจะเอามาร์กซิยาลลงจากบัลลังก์ของ "11ตัวจริง"

ก่อนที่ทีมจะสู้ไม่ได้ ต้องรีบบอกลาการใช้งานมาร์กซิยาลเสียแต่เนิ่นๆ ฟังดูง่ายๆแต่ทำจริงยากเหลือเกินเพราะดูจะเป็นฝันที่ไกลเกินหวังอย่างมาก แล้วถ้าไม่รีบทำอะไร ระวังทุกอย่างจะสายไปจนแฟนบอลเซ็งและเบื่อกับความบ้าบออันหน้าไม่อายนี้

งานนี้วัดใจโอเล่ล้วนๆ

-ศาลาผี-

References

https://www.youtube.com/watch?v=28WDBvqSjc8

https://www.youtube.com/watch?v=nFxZGf6I5lc

https://www.youtube.com/watch?v=H24s52FrRNg

https://www.youtube.com/watch?v=nM3w6nIxKUo

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด