เบรดี้ โลดแล่นวงการกว่า 21 ซีซั่น กดวินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี่ ไป 7 หน แบ่งเป็นหกครั้งแรกฐานะ นิว อิงแลนด์ เพเทียทส์ อีกหนก็ซีซั่นที่เพิ่งจบไปฐานะ ‘บัคส์’

นับเป็นเส้นทางที่ยาวนานกว่าจะมีควอเตอร์แบ็คคนใดลอกเลียนแบบเพราะแม้โดนเลือกมาในลำดับที่ 199 แต่เพชรก็ย่อมเป็นเพชร เมื่อถูก บิลล์ เบลิชิค เจียระไน ศักยภาพก็ระเบิดออกมา โดยไม่มีทีท่าจะเลิกราไปในลักษณะนี้ 

ผิดกับ 6 จอมทัพดราฟท์คลาสเดียวกันเปลี่ยนอาชีพจะหมดแล้ว 

แช้ด เพนนิงตัน - นิวยอร์ก เจ็ตส์ (ดราฟท์ รอบแรก, อันดับที่ 18)

รองจาก เบรดี้ ในแง่ผลงานจับต้องได้ เพนนิงตัน น่าจะเป็นควอเตอร์แบ็คดราฟท์ร่วมคลาส ที่ประสบความสำเร็จในวงการรองลงมา เพราะเล่นให้ ‘ไอพ่นเขียว’ ต่อด้วย ไมอามี ดอลฟินส์ กว่า 11 ฤดูกาล รายได้ตลอดอาชีพ 51 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ 

เขาได้ตำแหน่งผู้เล่นเอ็นเอฟแอลที่กลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมแห่งปีสองหนคือซีซั่น 2006 และ 2009, คว้าแชมป์ดิวิชั่น เอเอฟซี ตะวันออก สองครั้ง ฤดูกาล 2002 และ 2008 พร้อมสถิติเมื่อรีไทร์ขว้างรับสำเร็จ 66%

ปัจจุบันอายุ  44 ปียังอยู่ในวงการเอ็นเอฟแอล ทำงานสาธารณะแก่ชุมชนฐานะตำนานลีก และเป็นเจ้าของกองทุนเพื่อการกุศล ‘เฟิร์สต์ แอนด์ เท็น’  

โจวานนี่ คาร์มาซซี่ - ซาน ฟรานฯ 49เนอร์ส  (ดราฟท์รอบสาม, ลำดับที่ 65)

คาร์มาซซี่ แทบไม่ได้มีบทบาทระดับอาชีพในลีกเอ็นเอฟแอล ไม่เคยสตาร์ตแม้แต่เกมเดียวให้ทีม มีแค่รายชื่อซ้อมกับ 49เนอร์ส 

หลังจากออกจากเอ็นเอฟแอลไปแบบเงียบๆ ก็ไปหางานต่างแดนอย่างเล่น ไรน์ ฟายเออร์ ในเอ็นเอฟแอล ยุโรป หรือขึ้นเหนือสู่ บีซี ไลออนส์ และ แคลกะรี สแตมเพเดอร์ส ในแคนาเดี้ยน ฟุตบอล ลีก 

ย้อนไปเมื่อปี 2011 เรื่องราวของเขาถูกเปิดเผยทางเครือข่าย ‘อีเอสพีเอ็น’ ว่าไปใช้ชีวิตชาวไร่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย, ฝึกโยคะ, เลี้ยงแกะ 5 ตัวและไม่มีโทรทัศน์ 

ทำให้เชื่อว่าพลาดชมการถ่ายทอดสดว่า เบรดี้ กดแหวนเข้าเกียรติยศอีกวง 

คริส เร้ดแมน - บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ (ดราฟท์รอบสาม, ลำดับที่ 75)

รายนี้คล้าย เพนนนิงตัน ที่ได้โลดแล่นในลีกนานหน่อยเพียงแต่ไม่เคยเป็นตัวจริงให้กับแฟรนไชส์สังกัด โดยตลอด 8 ปีเล่นให้ เรฟเว่นส์ และ แอตแลนตา ฮอว์กส์ รับโอกาสแข่งตัวจริงเกมเดียวแล้วผลงานก็บู่ 

อย่างไรก็ตามแม้เป็นแค่สำรอง แต่เขาเป็นคนเดียวในหมู่ควอเตอร์แบ็คดราฟท์ คลาส 2000 ก่อน ทอม เบรดี้ ที่มีโอกาสเป็นแชมป์ซูเปอร์ โบวล์ ฐานะ เรฟเว่นส์ ปี 2001 

ปัจจุบัน เร้ดแมน ผันตัวสู่งานหน้าจอโทรทัศน์ ประจำรายการ ‘เกม ออน’ ทางสถานีเอ็นบีซี แห่งลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี

ที มาร์ติน - พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (ดราฟท์รอบห้า, ลำดับที่  163)

มาร์ติน เล่นในลีกเอ็นเอฟแอลอยู่สี่ฤดูกาลกับ สตีลเลอร์ส, โอ้คแลนด์ เร้ดเดอร์ส ก่อนจะบ่ายหน้าขึ้นเหนือไปเล่นแคนาเดี้ยน ฟุตบอล ลีก ให้กับแฟรนไชส์ วินนิเป็ก บลู บอมเบอร์ส อีกสองซีซั่น 

อดีตจอมทัพรายนี้ผันตัวสู่งานโค้ขเริ่มจากผู้ช่วยเฮดโค้ชทีมมหาวิทยาลัย เทนเนสซี่ โวลันเทียร์ส อยู่สองซีซั่น ก็โดนทาบทามเข้าลีกเอ็นเอฟแอลให้มาเป็นโค้ชปีกนอก บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ เพิ่งแต่งตั้งสัปดาห์ก่อน 

ดราฟท์ลำดับที่  163 คลาส 2000 มีลูกชายชื่อ อามารี เล่นตำแหน่งปีกนอกให้มหาวิทยาลัย เคลมสัน ไทเกอร์ส ก็นับถอยหลังไม่กี่ปีก่อนเข้าลีกตามรอยเท้าพ่อ 

มาร์ค บัลเกอร์ - นิว ออร์ลีนส์ เซนต์ส (ดราฟท์รอบ 6, ลำดับที่ 168) 

หลังจากไม่สามารถแจ้งเกิดได้ที่ทีมฟุตบอลแห่งรัฐลุยเซียนา บัลเกอร์ พกเอาความมั่นใจไปล่าฝันกระทั่งแฟรนไชส์ แรมส์ ให้มาเป็นจอมทัพ สร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับติด โพร-โบวล์ สองสมัยใต้ชายคา ‘แกะเขาทอง’ นานแปดปี กระทั่งย้ายไปเป็นมือสอง บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ 

ปัจจุบันเขาเปลี่ยนกีฬามาเล่น เคอร์ลิ่ง ร่วมกับอดีตผู้เล่นเอ็นเอฟแอลท่านอื่นพร้อมเป้าหมายติดธงสหรัฐฯ ไปแข่งโอลิมปิก ฤดูหนาว 

ผลงานการคัดตัวชิงแชมป์แห่งชาติสหรัฐฯเมื่อปีก่อนทีมของ บัลเกอร์ สถิติแข่งขันแค่ 1-3 ก็น่าสนใจว่าการอลป.ฤดูหนาวหนาวหนต่อไปที่กรุงปักกิ่ง 2022 พัฒนาฝีมือเป็นตัวแทนชาติได้หรือไม่ 

สเปอร์กอน วินน์ - คลีฟแลนด์ บราวน์ส (ดราฟท์รอบหก, ลำดับที่ 183)

อีกควอเตอร์แบ็คที่แทบไม่มีผลงานในวงการ โดย วินน์ เล่นเอ็นเอฟแอลอยู่สามปี สองแฟรนไชส์คือ บราวน์ส กับ มินเนโซต้า ไวกิ้งส์ แต่ได้โอกาสสตาร์ตแค่ 3 นัด 

มีออกไปค้าแข้งในยุโรปกับ อัมสเตอร์ดัม แอดมิรัลส์ และข้ามไปเล่นยังแคนาดากับ บีซี ไลออนส์, วินนิเป็ก บลู บอมเบอร์ส และ โตรอนโต อาร์โกโนต์ 

กระทั่งปี 2018 ทราบว่า วินน์ มาเป็นโบรกเกอร์ให้บริษัทพลังงาน อาเมอเร็กซ์ เอเนอร์จี้ ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส