ยิ่งชื่อชั้นเป็น เรอัล มาดริด หนึ่งในสโมสรฟุตบลอที่ประสบความสำเร็จในโลก การซื้อตัวแต่ละครั้งก็ต้องสร้างความฮือฮากันบ้าง

และความฮือฮานี่แหละก็ต้องแลกมาด้วยเม็ดเงินที่ต้องทุ่มเพื่อเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่านักเตะคนนั้นจะเก่งเหลือเกินหรือโดนทีมต้นวังกัดโขกค่าตัวก็ตามที

แน่นอนว่าการจ่ายเงินซื้อนักเตะก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าเสมอไป บางคนไม่สามารถลงหลักปักฐานกับทีมได้ เสียเงินไปแบบเปล่าประโยชน์

ไม่ว่าจะมาจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หรือ บุนเดสลีกา เยอรมัน คนที่เคยทำได้ดีและมาค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวหลายคนตกม้าตายด้วยค่าตัวแสนแพง

นี่คือ 5 อันดับแรกของแข้งค่าตัวแพงที่ล้มเหลวในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด

ลูก้า โยวิช

จาก : แฟร้งค์เฟิร์ต

ค่าตัว : 60 ล้านยูโร

หนึ่งในกองหน้าอนาคตไกลผู้ถูกดึงตัวเข้ามาเพื่อหวังจะให้เป็นตัวแทนในระยะยาวของ คาริม เบนเซม่า ที่อายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายกลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง

ค่าตัวระดับ 60 ล้านยูโรที่ เรอัล มาดริด ยอมจ่าบให้กับ แฟร้งค์เฟิร์ต เพื่อดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2019 เนื่องจากผลงานในฤดูกาลที่เพิ่งจบไปทาง ลูก้า โยวิช ระเบิดฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมกด 27 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ในการลงเล่น 48 เกมให้กับต้นสังกัด

จำนวนประตูในปีนั้นมีแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของ บาเยิร์น มิวนิค และ ปาโก้ อัลกาเซร์ ของ ดอร์ทมุนด์ เท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า โดยพาทีมจบในอันดับ 7 ในบุนเดสลีกา เยอรมัน รวมถึงเข้ารอบตัดเชือกในยูโรปา ลีก ด้วย

แต่ปีแรกกับการย้ายมาค้าแข้งกับทีมนอกจากที่ต้องเจออาการบาดเจ็บเล่นงานแล้ว ผลงานและจำนวนประตูก็ตรงกันข้ามราวฟ้ากับดินด้วยการทำได้แค่ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 27 เกมทุกรายการ ซึ่งหากคิดเป็นนาทีในสนาม ลูก้า โยวิช ลงเล่นแค่ 806 นาทีเท่านั้น โดยตลอดทั้งซีซั่นทีแค่เกมเดียวที่ยืนอยู่ในสังเวียนครบ 90 นาที

มาในซีซั่นนี้นอกจากจะติดเชื้อโควิดต้องกักตัวกลับมาก็ยังเจ็บอีก สรุปลงเล่นในลา ลีกา 4 เกมกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 เกม ยิงไม่ได้ไม่มีแอสซิสต์อีก สุดท้ายโดนปล่อยกลับไปให้ แฟร้งค์เฟิร์ต ยืมตัวช่วงตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา

แต่กลับไปเยอรมันกลับผลงานดีซะอย่างนั้น ลงเล่นให้ทีม 5 เกมในฐานะตัวสำรองทั้งหมดทำไปแล้ว 3 ประตู

แบบนี้สงสัยอาจจะต้องอยู่ในบุนเดสลีกา ไปตลอดซะแล้วมั้ง

กาก้า

จาก : เอซี มิลาน

ค่าตัว : 67 ล้านยูโร

กาก้า ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแข้งที่ดีที่สุดในโลกก่อน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ซะอีก ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมกับ เอซี มิลาน ในอิตาลี

6 ปีในถิ่นซาน ซีโร่ - กาก้า จัดการซะด 104 ประตูกับ 85 แอสซิสต์ในการลงเล่น 307 เกม พาทีมกวาดแชมป์มาทุกรายการทั้งกัลโช่ เซเรีย อา, ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ สโมสรโลกอย่างละครั้ง 

ถ้าไม่อย่างนั้น เรอัล มาดริด คงไม่ยอมจ่าย 67 ล้านยูโรซึ่งมเป็นสถิติโลกเมื่อปี 2009 เพื่อดึงตัวมาร่วมทีมอย่างแน่นอน

แต่ระยะเวลา 4 ปีในรั้วซานติอาโก้ เบร์นาเบวกลับเต็มไปด้วยความน่าผิดหวังทำได้แค่ 29 ประตูกับ 39 แอสซิสต์จากการลงเล่น 120 เกม สุดท้ายกลับไปอยู่กับ "ปีศาจแดง-ดำ"แบบไม่มีค่าตัวในปี 2013

จะว่าฟ้าแกล้งก็ได้เพราะหลังจากเซ็นสัญญากับทีมชุดขาวไม่กี่วันทีมก็ทำลายสถิติโลกอีกครั้งด้วยการดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีม ซึ่งน่าจะเป็นการ "ทับที่" ทำให้ กาก้า ไม่สามารถฉายแสงได้

แต่นั่นก็ตีความหมายลงไปได้เลยว่าเขาล้มเหลวกับทีมนั่นเอง

อดีตเด็ดกปั้นของ แอตเลติโก มาดริด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองที่อุตส่าห์ทำแสบด้วยฉกตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ แต่สุดท้ายกลานเป็นล้มเหลวะซะอย่างนั้น

24 ล้านยูโรคือเม็ดเงินที่ "ราชันชุดขาว" ยอมจ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาเพื่อหวังให้แข้งวัย 20 ปี (ในเวลานั้น) มาเป็นตัวแทนของ มาร์เชโล่ ที่เริ่มโรยราลงไปทุกที

ตลอดทั้งฤดูกาลแรกในฐานะตัวสำรองที่ลงเล่นอยู่เรื่อยๆกับโอกาสลงสนาม 23เกมทุกรายการ มีเพียงแอสซิสต์มาฝาก 3 ครั้ง แต่ในปีนั้นถือว่า เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมกวดาโทรฟี่เพียบทั้ง ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงสองรายการบอลถ่วยอย่างยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ สโมสรโลก เลยทำให้เจ้าตัวมีเหรียญแชมป์ไม่น้อยเลยในปีแรก

ทุกอย่างก็ดูท่าว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ในช่วงซัมเมอรก่อนฤดูกาล 2018/19 กลับถูกปล่อยตัวให้ เรอัล โซเซียดาด ยืมใช้งานซะอย่างนั้น

เท่านั้นไม่พอหลังจบฤดูกาลดังกล่าว เรอัล มาดริด กลับขายให้กับ เอซี มิลาน ดื้อๆด้วยค่าตัวราว 20 ล้านยูโร

แต่การค้าแข้งในอิตาลีถือว่าเป็นไปได้ด้วยเลยเป็นตัวหลักของ "ปีศาจแดง-ดำ" ลงเล่นไปแล้ง 63 เกม ทำไปถึง 11 ลูกแถมมีอีก 11 แอสซิสต์เลยทีเดียว

ไม่รู้ว่า เรอัล มาดริด ตาถั่วเองหรืออะไรยังไง แต่อาจจะดูแล้วว่าไปไม่รุ่งกับทีมก็ขายเอาเงินดีกว่า

โจนาธาน วู้ดเกต

จาก : นิวคาสเซิ่ล

ค่าตัว : 18 ล้านยูโร

ถ้ามองจากตัวเลขค่าตัวต้องบอกง่าไม่ใช่ราคาที่สูงอะไรมากมาย แต่ถ้ามองจากการใช้งานคงต้องบอกว่าเงินก้อนนี้เหมือนกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปมากกว่า

18 ล้านยูโรกับ โจนาธาน วู้ดเกต ผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาการบาดเจ็บ ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่า เรอัล มาดริด จะดึงตัวไปร่วมทีม

เพราะแค่ปีแรกที่ย้ายมาร่วมทีมตลอดทั้งฤดูกาล 2004/05 เจ้าตัวไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวเพราะมีอาการบาดเจ็บ แค่นี้บรรดาแฟนบอลก็กุมขมับแล้วถามว่าซื้อมาทำไม

จนมาถึงซีซั่นถัดมาที่แฟนบอลแทบจะลืมไปแล้วว่ามีนักเตะคนนี้ในทีม กองหลังชาวอังกฤษก็สร้างชื่อทันทีในการลงเล่นเกมแรกกับ แอธ.บิลเบา ด้วยการทำเข้าประตูตัวเองแถมโดนไล่ออกจากสนามอีกต่างหาก ยังดีที่เกมนั้นทีมคว้าชัยชนะ 3-1

ตลอดเส้นทางค้าแข้งกับทีมชุดขาวลงเล่นแค่ 14 เกม ยังอุตส่าห์มี 1 ประตูในเกมยุโรปกับ โรเซนบอร์ก แต่หลังจบซีซั่นก็โดนปล่อยให้ มิดเดิ้ลสโบรช์ ใช้งาน กระทั่งขายขาดในปีถัดมาที่ค่าตัวราว 9.5 ล้านยูโรง

ในปี 2007 ทาง โจนาธาน วู้ดเกต ได้รับการโหวตว่าเป็นการซื้อตัวที่ห่วยที่สุดในศตวรรษที่ 21 เลย จากการโหวตของผู้อ่านมาร์ก้า สื่อเจ้าดังของสเปน

เอแด็น อาซาร์

จาก : เชลซี 

ค่าตัว : 100 ล้านยูโร

การอำลาทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งช่องโหว่ในแนวรุกไว้ไม่น้อย และ เรอัล มาดริด ก็ตามจีบ เอแด็น อาซาร์ มานานร่วมปีกระทั่งในที่สุดก็คว้าตัวมาร่วมทีมจนได้ด้วยค่าตัวไม่มากอะไรนัก 100 ล้านยูโร

ในเวลานั้นสาวก "โลส บลังโกส" ล้วนตีชกตัวกับการได้เพลย์เมกเกอร์ฝีเท้าเอกอุระดับต้นๆของวงการ แลพเมื่อมองจากผลงานกับ เชลซี ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมย่อมฝันถึงวันอันสดใส

แต่ทว่ามันกลับดำมืดอย่างรวดเร็วเมื่อเจ้าตัวเจออาการบาดเจ็บเล่นงานไม่หยุดหย่อน กลับมาลงสนามได้ไม่เท่าไรก็เจ็บอีก แถมน้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ลบภาพผอมเพรียวสมัยค้าแข้งกับ เชลซี ไปจนหมดสิ้น

ปีแรกลงเล่นแค่ 22 เกมทำได้เพียงประตูเดียวกับ 7 แอสซิสต์ ต้องบอกว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

กับฤดูกาลนี้ก็ยังไม่วายที่จะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอีก พอกลับมาลงสนามได้ก็เจ็บอีก ล่าสุดเหมือนจะเห็นแววสดใสในเกมที่ทีมชนะ อลาเบส 4-1 แต่ก็ดันมาเจ็บไปอีกและน่าจะพักอีกร่วมเดือนเลยทีเดียว

ตอนนี้มีกระแสจากกูรูหลายคนบอกว่า เรอัล มาดริด ควรจะขาย อาซาร์ ทิ้งไปดีกว่า แต่ขอโทษทีสภาพนี้ใครจะซื้อ

สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คืออดทนแล้วหวังว่าจะกลับมาฟิตและโชว์ผลงานได้อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นหากมีการโหวตครั้งต่อไป อันดับ 1 อาจจะเป็นชื่อของ อาซาร์ ที่ขึ้นไปแทน วู้ดเกต ก็ได้