หากใครที่ติดตามผลงานของทีมชุดเล็กแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่บ่อยๆ น่าจะเริ่มรู้จักลูกกรอกคะนองของทีมเรากันบ้างแล้ว และหนึ่งในเจ้าหนูที่ผลงานโดดเด่นสุดๆอีกคนหนึ่งนอกจากตัวเด่นที่เรารู้จักกันไปบ้างแล้วอย่าง Hannibal Mejbri, Joe Hugill หรือตัวที่เตรียมเดบิวต์ชุดใหญ่อย่าง Amad Diallo เชื่อว่าช่วงนี้ทีมชุดU-23s ของเราไม่มีใครฮอตเกินไปกว่า "Shola Shoretire" เด็กมหัศจรรย์ที่เหมือนทะยานขึ้นมาจากนรกรายนี้อย่างแน่นอน
และนั่นคือสาเหตุที่ทำไมวันนี้เราถึงต้องรีบหยิบเด็กคนนี้มาพูดถึง เพราะฟอร์มมันโหดจัดเกินอายุแบบน่าเหลือเชื่อจริงๆ
Shola Shoretire (อ่านว่า ชอ-เร-ทิ-รี Shor-ay-ti-re) ได้เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกในชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากการประกาศของสโมสร นี่คือเด็กมหัศจรรย์ที่ปฏิเสธบาร์เซโลน่า บาเยิร์นมิวนิค ยูเวนตุส และปารีส แซงต์แชกร์แมงมาทั้งหมด หลังจากได้พูดคุยกับมาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด และไมเคิล โอเว่น ที่แนะนำให้เขาอยู่พัฒนาฝีเท้าต่อที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ตามรายงานจากแหล่งข่าวอย่างDaily Mail
การประกาศเกิดขึ้นภายใน4วัน หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โชลา ชอเรทิรีตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับทางสโมสรได้ และเป็นผู้ทำแฮททริกกับแอสซิสต์ในเกมที่ทีม แมนยูไนเต็ด U-23s เอาชนะ แบล็คเบิร์น U-23s ในPL2 ไปด้วยสกอร์ 6-4 จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเรียกตัวขึ้นมาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอในซีซั่นนี้ ในที่สุดเขาก็ได้ขึ้นมาอยู่ภายใต้การดูแลของผู้จัดการทีมอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชาที่มองเห็นแววหลังจากนั้นไม่กี่วันเลย
เขาแสดงความตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับโซลชา ผ่านทางโพสต์ในอินสตาแกรมเอาไว้ดังนี้
"เหมือนฝันที่เป็นจริงที่ได้เซ็นสัญญานักเตะอาชีพครั้งแรกในชีวิตกับสโมสรรักในวัยเด็ก ขอบคุณทุกๆคนที่สโมสร และขอบคุณครอบครัวของผมที่ช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ และผมจะทำงานให้หนักแบบนี้ต่อไป"
ปีกดาวรุ่งผู้ซึ่งสามารถขยับไปเล่นได้ทั้งตำแหน่งStriker(No.9) และจอมทัพPlaymaker(No.10)รายนี้ทำผลงานได้อย่างน่าตื่นเต้นในระดับเยาวชนให้ยูไนเต็ด หลังสร้างความประทับใจให้กับโค้ชและแฟนบอลด้วยผลงานดังกล่าว จากที่ผ่านช่วงเวลา7ปีมากับสโมสร มีบทบาทสำคัญในชุดU-18s ของNeil Ryan เมื่อปีก่อน และเขาก็ทำได้อีกครั้งในปีนี้ด้วยผลงาน 6ประตู กับ 3แอสซิสต์ จาก14นัดในพรีเมียร์ลีก2 กับการลงเล่นในชุดU-23sให้กับ Neil Woodซีซั่นนี้
ชอเรทิรีเริ่มระเบิดฟอร์มเตะตาตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี2018 เมื่อผู้จัดการทีมเยาวชนอย่างนิคกี้ บัตต์ เปลี่ยนตัวเด็กน้อยวัย14ปีรายนี้ลงสนามในนาทีที่75 เกมที่ยูไนเต็ดชนะบาเลนเซีย 2-1 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามจริงในyouth cup หรือเกมลีกเยาวชนให้กับยูไนเต็ด และก็เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเตะใน UEFA Youth League ด้วย ซึ่งสถิติคงอยู่ราวๆ1ปีก่อนที่จะถูกทำลายภายหลังด้วยเยาวชนของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อย่าง Youssoufa Moukoko เด็กนรกแตกอีกคนหนึ่งนั่นเอง
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก Wallsend Boys Club จากท้องถิ่นNewcastle และย้ายมาอยู่กับแมนยูไนเต็ดตั้งแต่อายุ10ขวบ ชอเรทิรีมักจะได้ลงเล่นเกินรุ่นตัวเอง และอยู่ในกรุ๊ปเดียวกับนักเตะรุ่นพี่อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะมีความต่างเรื่องอายุและขนาดร่างกาย แต่ชอเรทิรีใช้ความสามารถทางด้านเทคนิคการเล่น และวิสัยทัศน์ในการเล่นของเขาทำลายแนวรับเพื่อสร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้ทีมได้ ซึ่งจะเห็นได้จากลูกที่แอสซิสต์ให้กับ Facundo Pellistri ทำประตูลูกแรกกับยูไนเต็ดสำเร็จ
โค้ชทีมU-23s อย่าง Neil Wood กล่าวยกย่องเขาในเรื่อง "โคตรเทคนิค" (very technical) ในการให้สัมภาษณ์กับ Manchester Evening News เมื่อวันที่15 ธันวาคม 2020 เอาไว้ดังนี้
"วิธีการเล่นของเขามันโตเกินวัยมากๆ เขาขยันทำงานหนัก ลงเล่นในหลายๆตำแหน่งและหลากหลายบทบาท เขาอาจจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มสุดยอดอย่างสม่ำเสมอได้ตลอดซีซั่นนี้"
เมื่อพูดถึงสไตล์การเล่น ชอเรทิรียกตำนานของบราซิลอย่าง Ronaldhinho ว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในคลิปวิดิโอของแชนแนล UMM ทางยูทูปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหนูกล่าวถึงรอนนี่เอาไว้ดังนี้
"เขามั่นใจในตัวเองมากๆ แพรวพราว เขาทำได้ทุกอย่างจริงๆ ถ้าคุณไม่เล่นด้วยความสนุกในสนามมันก็ไม่มีประโยชน์ถูกไหมล่ะ คุณควรต้องลงสนามพร้อมด้วยความคิดที่มั่นใจในหัวว่า ฉันจะต้องเล่นได้ดีแน่ๆ"
น้องโชยังให้เครดิตกับแรชฟอร์ด ในฐานะนักเตะทีมปัจจุบันที่เป็นแรงบันดาลใจมากที่สุดสำหรับเขา
"สิ่งที่เขาทำทั้งในและนอกสนามนั้นเป็นต้นแบบที่ดีมากๆ การได้เห็นเขาทำเช่นนั้นผมก็รู้สึกว่าผมน่าจะทำได้เหมือนกัน"
นอกจากนี้ชอเรทิรีก็มีบทสนทนาที่คุยกับไมเคิลโอเว่นและได้สร้างแรงจูงใจให้กับเขาเอาไว้ว่า
"ผมได้คุยกับเขาเป็นการส่วนตัว และผมเกิดแรงบันดาลใจอย่างมากเพราะเขา(โอเว่น)เดบิวต์ได้ตั้งแต่อายุ17 และมันเยี่ยมมากๆที่ได้ฟังจากไมค์หรือนักเตะรุ่นพี่ๆที่รีไทร์ไปแล้วแต่ยังเข้าใจเกมการแข่งขันอยู่และสามารถให้ความช่วยเหลือคุณได้"
เจ้าหนูอังกฤษรายนี้ได้ลงสนามให้บ้านเกิดแล้วในชุด U-16 และเขายังอาจสามารถที่จะเลือกลงสนามให้กับทีมชาติไนจีเรีย ซึ่งเป็นเชื้อชาติถิ่นของพ่อเขาได้อีกด้วย
ด้วยความมั่นใจและทักษะของเขา ดูเหมือนมีแนวโน้มว่าชอเรทิรีจะได้เดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ในซีซั่นนี้ ในขณะที่ยังคงเล่นเป็นตัวหลักให้กับทีม U-23s ต่อไปด้วย
ซึ่งเมื่อก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่เราขนาดนี้ แปลว่าเด็กคนนี้มีของจริง ไม่งั้นโอเล่คงไม่เรียกขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่แซงหน้าเพื่อนเร็วขนาดนี้ ฮันนิบาลที่ว่าแน่ๆก็ยังเพิ่งจะได้ขึ้นมาพร้อมกับน้องโชเอง เพราะฉะนั้นเราจะถือโอกาสนี้รีวิวคร่าวๆว่า เจ้าหนูโชลา ชอเรทิรี เป็นยังไงบ้างและโดดเด่นในด้านไหน ไปอ่านกันเลย
1. ข้อมูลทั่วไป
Shola Shoretire (โชลา ชอเรทิรี)
อายุ 17ปี เกิด Feb 2, 2004
เท้าที่ถนัด : ขวา
ส่วนสูง 166 cm
สัญชาติ : อังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย
2. ตำแหน่งถนัดและสไตล์การเล่น
พูดถึงเรื่องตำแหน่งถนัดของน้องโช เจ้าหนูนี่เล่นเป็น "ตัวรุกธรรมชาติ" อย่างแน่นอน ไม่ใช่นักเตะสายมิดฟิลด์ แต่เล่นรุกเต็มตัว ตำแหน่งที่เล่นได้ถนัดคือ ปีกซ้าย กับ กลางรุก ส่วนปีกขวาก็พอเล่นได้ แต่ถนัดน้อยกว่าการเล่นตรงกลางกับซ้าย
ซึ่งอย่างที่เกริ่นเอาไว้ข้างบนข้างต้นว่า หมอนี่เล่นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปีกริมเส้น(ซ้าย), จอมทัพเบอร์10 และตัวยิงตำแหน่งหมายเลข9ก็เล่นได้ หากใครได้ดูหมอนี่ลงสนามก็จะเข้าใจดีว่า หมอนี่มีทั้งความพริ้วแบบปีก และสามารถลากเลื้อยปั้นเกม จ่ายบอลสวยๆให้เพื่อนยิง รวมถึงการเป็นคนปลิดชีวิตคู่แข่ง จบสกอร์ด้วยตัวเองก็ทำได้ ดังนั้นมันจึงมีหมดครบทุกมิติ
เรียกได้ว่าครบเครื่องโคตรๆ เพราะฉะนั้นเราถึงได้รู้สึกว่าเด็กคนนี้มันเหมือน "จอมทำลายล้าง"ชัดๆ เป็นหัวหน้าหน่วยทะลวงฟันระดับขีปนาวุธที่ไม่รู้อะคาเดมี่ทีมเราทำไมตาถึงจัง ไปดึงมาอยู่ในทีมเยาวชน7ปีแล้ว ปีนี้โดดเด่นขึ้นมาอย่างสุดๆ เหมือนเพชรที่กำลังเริ่มส่องแสง ต่อให้อยู่ทีมสำรองก็บดบังรัศมีไม่ได้นั่นเอง
ทางด้านสไตล์การเล่น และบทบาทของน้อง อันนี้สามารถระบุได้เลยว่า หมอนี่คือ "Withdrawn Striker" หรือเรียกง่ายๆว่าเป็น "กองหน้าตัวฟรี" นั่นเอง ก็คือเป็นStrikerที่ไม่ได้อยู่ในจุดกองหน้า แต่เคลื่อนที่อิสระในแผงเกมรุก (ก็อย่างที่บอกไว้ว่า เล่นได้หมดไม่ว่าจะ ซ้าย ขวา กลาง) และทำหน้าที่คอยสนับสนุนกองหน้าตัวจริงอีกต่อหนึ่งนั่นเอง
พื้นที่การเล่นจะมีมิติคล้ายๆInside Forward คือเป็นกองหน้าที่บุกมาจากวงนอก แต่พวกIFมันจะบุกเข้ามาจากตำแหน่งปีกอย่างเดียว แต่Withdrawn Striker จะบุกวงนอกเข้ามาจากทุกสารทิศไม่ตายตัว
หลายคนสงสัย จะเรียกตำแหน่งแบบน้องว่า "หน้าต่ำ" ได้ไหม ก็อาจจะเทียบเคียงได้บางมิติเท่านั้น แต่รวมๆแล้วไม่ใช่ เพราะพื้นฐานไม่ได้ยืนเป็นกองหน้าเหมือนรูนีย์ แต่พื้นที่การยืนจะอยู่ในจุดเดียวกับกลางรุกคล้ายๆบรูโน่ มีความเป็น"ตัวรุก" มากกว่า "กองหน้า"
เราจึงไม่สามารถพูดว่าเค้าคือหน้าต่ำแบบรูนได้ แม้หุ่นจะเหมาะก็ตาม แต่ถามว่าเล่นในตำแหน่งตัวรุกนี้ดีขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่าเบียดฮันนิบาลหลุดออกจากกลางรุกให้ไปยืนตัวริมเส้นกึ่งเพลย์เมคเกอร์แทนเลยทีเดียว
Withdrawn Striker คือตัวรุกที่ทำได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเชื่อมบอลจากแดนกลาง เคลื่อนที่หาช่องว่าง และรวมถึงคนเล่นช็อตสุดท้ายของเพลย์ด้วยการ "ทำประตู และ แอสซิสต์"
เรียกง่ายๆว่าทำทุกอย่างทั้งยิงทั้งจ่าย และโจมตีคู่ต่อสู้นั่นเอง ซึ่งไม่ง่ายที่นักฟุตบอลคนนึงจะมีสกิลครบเครื่องขนาดนี้ และหากดูนิยามของRoleความเป็น Withdrawn Striker แล้วนั้นก็ต้องบอกว่า มันตรงกับเจ้าหนู โชลา ชอเรทิรี ทุกประการ เพราะเวลาน้องเล่นในสนามก็เป็นงี้จริงๆ คือ ลากเลื้อย สร้างสรรค์เกมรุก สนับสนุนหน้าเป้า(โจ ฮิวกิล) และรวมถึงยิงประตูด้วยตัวเองก็ทำได้ด้วย
นักฟุตบอลที่เป็น "Withdrawn Striker" ที่สามารถเอาบทบาทการเล่นมาเทียบเคียงได้นั้น นึกออกได้ง่ายๆเพียงตัวเดียวเลย เชื่อว่าหลายๆคนก็นึกออก นั่นก็คือ "Lionel Messi" นั่นเอง
ทางซ้ายคือไอดอลในใจ ทางขวาคือนักเตะที่เล่นในบทบาทWithdrawn Strikerแบบเดียวกันกับเขา
อย่าสับสนกับเรื่อง "สไตล์การเล่น" นะครับ คือถ้าเป็นสไตล์การเล่นนั้น เจ้าหนู Amad Diallo ดูจะคล้ายเมสมากกว่า แต่ในด้านRole (บทบาทการเล่นในสนาม) เดียโล่จะไม่เหมือนเมส เพราะเล่นแบบปีกแท้ ส่วนชอเรทิรีจะทำหน้าที่คล้ายๆเมสซี่ คือเป็นเหมือนกองหน้าคนนึง แต่ว่าถอยต่ำลงมาเล่นอิสระ และทำเกมรุกทุกมิติอยู่ด้านหลังหน้าเป้านั่นเอง
เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่นักเตะในทีมชุดใหญ่ และเด็กๆทีมสำรองของเรา มีสไตล์การเล่นที่หลากหลายแทบจะทุกๆรูปแบบที่มีในสนามฟุตบอลเลย นี่ล่าสุดก็มีWithdrawn Strikerรายนี้ขึ้นมาแล้ว สุดยอดมาก
3. สกิลที่โดดเด่น
3.1 เทคนิค ไหวพริบ จินตนาการ และจังหวะการเล่น (technical, flair & creativity)
หรือเรียกง่ายๆว่าเทคนิคและเซนส์การเล่นก็ได้ ที่ดูจะฉลาดเป็นกรด เอาตัวรอดได้ดี เลือกจังหวะจ่าย จังหวะยิง และtempoการเล่นที่ดูเป็นมืออาชีพเหมือนนักบอลรุ่นพี่ที่ลงสนามจริงในระดับอาชีพได้แล้ว เรื่องนี้ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ไม่เขียนไม่ได้ เพราะทุกคนยืนยันว่าหมอนี่เทคนิคดีมาก และใช้สกิลที่มีอย่างถูกต้องและคุ้มค่า ไม่ได้บ้าโชว์แต่ว่าเน้นประสิทธิภาพในการเล่น คล้ายๆกับอามัดมากๆ (เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสองคนนี้ดูจะเข้าขากันเร็วเว่อร์ๆ เพราะtempoการเล่นมันตรงและมีศีลการเล่นที่เสมอกันนั่นเอง)
ข้อนี้น่าจะเป็นจุดเด่นที่อันตรายที่สุดของเจ้าหนูชอเรทิรีที่ต้องยกมาพูดเป็นอันดับแรก
3.2 พลังทำลายในการทำประตู (finishing)
เฉพาะปีนี้กดไป6ประตู 3แอสซิสต์ ในPL2 ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะเมื่อทีมมีตัวที่เล่นได้เข้าขากันอย่าง Diallo มาร่วมทีมU-23s แล้วนั้น เขายิ่งเหมือนติดปีกเพราะมีคนแบ่งเบาการทำเกม และแอสซิสต์มาให้ ดังนั้นช่วงหลังนี่ ชอเรทิรียิงเยอะมากๆ เกมเจอแบล็คเบิร์นก็ซัดแฮททริกไป จากสามแอสซิสต์ของเดียโล่ ส่วนนัดล่าสุดอาร์เซนอลก็เรียกจุดโทษและยิงเองไปอีก1 พร้อมด้วยฟอร์มการเล่นที่ก่อกวนเด็กน่อลตลอดทั้งเกม
ที่น่าสนใจคือ การยิงจบสกอร์ของน้องถือว่าเป็นนักเตะตัวรุกที่จบสกอร์ได้ดีมากๆ หากมีโอกาสน้องก็ยิงได้คมเอามากๆ เหมือนระดับกองหน้าคนนึงเลย เพราะงั้นตอนที่ได้เห็นฟอร์มแรกๆผู้เขียนก็ค่อนข้างแปลกใจมากๆว่า เฮ้ย นี่กลางรุกจริงเหรอ? มันยิงเหมือนเป็นกองหน้าเลย
ก่อนที่จะรู้ภายหลังว่า อ๋อ นี่มีสกิลกองหน้าอยู่ในตัวเต็มๆเลยนี่หว่า มิน่ายิงดีขนาดนี้ เรารู้สึกถึงพลังทำลายในการเล่นเกมรุกสูงมากๆ
3.3 การจ่ายบอล (passing)
เรื่องนี้ถือว่าต้องเขียนเลย หากดูแต่คลิปทั่วๆไปที่ตัดแต่ช็อตสวยๆมา คุณจะไม่มีทางเห็นสิ่งนี้ชัด ต้องไปดูพวกคลิปpassingของน้องแก จะเห็นว่าลูกจ่ายแต่ละลูกนั้น"โคตรว้าว" การจ่ายบอลดูเหนือชั้นเหมือนระดับรุ่นพี่มือโปรดีๆคนนึงเลย ทักษะการจ่ายบอลเป๊ะมากๆ โดยเฉพาะทิศทางและน้ำหนักคือโคตรดีย์เหมือนตัวรุกชั้นนำคนนึง (ไม่เชื่อไปหาคลิปดูเอาเอง)
ซึ่งการจ่ายหลายๆครั้งมันมีเรื่องของcreativityเข้ามาผสมผสานด้วย เพราะต้องใช้จินตนาการในการเล่น และน้องจ่ายได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นkiller passแทงทะลุช่อง หรือพวกลูกงัดข้ามหัวที่ใช้เทคนิคสูงๆ เทคนิคเด็กคนนี้อยู่ในขั้นที่ดีเลย ดูเหนือเอามากๆ แอบคิดว่าทำไมลูกจ่ายหลายๆลูกทำไมดูเนียนกว่าบรูโน่อีก(ฮา) แต่น้องยังคงต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะคงเอามาเทียบของจริงอย่างบรูโน่ไม่ได้
3.4 จุดเด่นอื่นๆที่รองลงมา
ด้านอื่นๆจริงๆน้องก็มีข้อดีอยู่ในตัว แต่อาจจะยังไม่แตะระดับน่าทึ่งเหมือน3ข้อด้านบน เราก็จะไม่อวยมันให้เว่อร์ แต่ก็มีในตัวเขาเช่นกันดังนี้
-เฟิร์สทัช อันนี้รวมอยู่ในเทคนิคการเล่นที่สูงของเด็กคนนี้ก็ได้ จับบอลแรกได้เนียนและเล่นต่อได้อย่างรวดเร็ว
-สกิลเลี้ยงบอล อามัดอาจจะพริ้วกว่าเล็กน้อย แต่หมอนี่ก็ไปกับบอลดี และเสียบอลยากเหมือนกัน
-โหม่งทำประตู อันนี้เหลือเชื่อมาก แต่ก็เป็นไปแล้ว ด้วยส่วนสูงยังไม่ถึง170 แต่ลูกโหม่งดูดีเลยทีเดียว ไปดูในคลิปเอา
-ความเร็ว อันนี้แน่นอนว่ามีความเร็วสูงอยู่ในตัวด้วย แต่ไม่ใช่อาวุธหลักๆ เพราะเขาดีที่การยิง การจ่าย และทำเกมบุกมากกว่า
-ความฟิต และร่างกายที่ดี ไม่บาดเจ็บง่ายๆ
เท่าที่มองเห็นมีแค่นี้ ส่วนจุดที่น่ากังวลนั้น หลายคนคงมองเรื่องขนาดร่างกายและส่วนสูงที่ค่อนข้างตัวเล็กมากๆ อันนี้เหมือนเดิม น้องเพิ่ง17 มีเวลาให้ตัวยืดหรือเพิ่มกล้ามเนื้ออีกเยอะ (แต่ที่เห็นนี่ไม่บางเลยนะ ตัวดูแน่นอยู่ ดูหนากว่าอังเคล โกเมส พอสมควร) เรื่องความสูงไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับพรีเมียร์ลีกหากสกิลการเล่นแข็งแกร่งและเหนือชั้นมากพอ
สรุปทั้งหมดทั้งมวลแล้วต้องถือว่า ปีนี้แมนยูไนเต็ดทำการลงทุนพัฒนาโครงสร้างเยาวชนของสโมสรหนักมากด้วยการทุ่มซื้อดาวรุ่งมีแววเข้ามาทีมเยาวชน รวมถึงเด็กๆที่เรา"ปั้นเอง" จากอะคาเดมี่ตั้งแต่อ้อนแต่ออก ก็มีตัวที่ฝีเท้าโดดเด่นไม่แพ้ตัวที่ซื้อเข้ามาเหมือนกัน
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ก็คล้ายๆกับการรีวิวตัวก่อนๆหน้านี้ อย่างHugill, Hannibal, Diallo ว่านักเตะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีpotentialที่ซ่อนอยู่สูงมากๆ และสามคนในนั้นอย่างเดียโล่ ชอเรทิรี และ ฮันนิบาล ก็ถูกเรียกขึ้นมาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นักเตะเหล่านี้คือ "อนาคต" ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างแท้จริง ซึ่งขึ้นชื่อว่าอนาคต มันต้องใช้เวลาเพาะบ่มอีกนาน และยังคงไม่ใช่"ตอนนี้" ที่จะได้เห็นพวกเขาเลยทันที อาจจะมีบ้างที่ได้เดบิวต์ในซีซั่นปัจจุบัน แต่คงอีกหลายปีกว่าที่จะเริ่ม่เข้ามามีบทบาทกับการเล่นของManchester United ในทีมชุดใหญ่
แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทีมสำรองและชุดเยาวชนเรายังมีลูกกรอกคะนองฝีเท้าเยี่ยมอีกมากมายที่ดีพอจะถูกดันขึ้นมา"ใช้งานได้จริง" เหมือนกับที่แรชฟอร์ด แม็คโทมิเนย์ กรีนวู้ด และดีน เฮนเดอร์สัน กำลังทำให้เราอยู่ในตอนนี้
นี่คือตัวตน รากเหง้า มรดก และความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่มีนักเตะเยาวชนเหล่านี้ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญอย่างแท้จริง
Shola Shoretire ตัวรุกจอมทำลายล้างผู้เป็นมรดกล้ำค่าคนใหม่ของ Manchester United
-ศาลาผี-
References
https://thebusbybabe.sbnation.com/2021/2/10/22276560/up-next-shola-shoretire
https://www.transfermarkt.com/shola-shoretire/profil/spieler/640026
