:::     :::

'ผมต้องการเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ' ดีโอโก้ ดาโล่ต์

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
975
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ฟูลแบ็กชาวโปรตุกีสวัย 21 ปีของ เอซี มิลาน ตั้งเป้ายกระดับฝีเท้าของตนเองเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะสมบูรณ์แบบในอนาคต

ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ฟูลแบ็กชาวโปรตุกีสย้ายจาก แมนฯยูไนเต็ด มาเล่นกับ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนี้ แม้ตอนนี้เขายังไม่สามารถสอดแทรกลงเล่นเป็นตัวจริงของทัพรอสโซเนรี่ เนื่องจากการทำผลงานยอดเยี่ยมของ ดาวิเด้ คาลาเบรีย กับ เตโอ แอร์กน็องเดซ แต่ ดาโล่ต์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีความสามารถพร้อมเป็นตัวเลือกของเทรนเนอร์ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ 

คุณเป็นนักเตะโปรตุกีสคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของ มิลาน มีแค่ รุย คอสต้า เท่านั้นที่จารึกประวัติศาสตร์ร่วมกับทีมปีศาจแดง-ดำด้วยการคว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ และ แชมเปี้ยนส์ลีก มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือมันจะยากเป็นพิเศษสำหรับคนที่ย้ายมาเพื่อฟุตบอลของคุณเพื่อปรับตัวกับเรา?

'ในระดับร่างกายและในแง่ความเข้มข้นของเกมฟุตบอลอิตาลีมีความต้องการมากกว่าโปรตุเกสแน่นอน แต่พวกเราที่มาจากสิ่งนั้นได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเรารู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับบริบทต่างๆ นั่นคือสิ่งที่ผมมาที่นี่และเป็นที่มาของความภาคภูมิใจสำหรับผม'

อายุช่วยได้มากเท่าไหร่? คุณ และ (ราฟาเอล) เลเอา ทำได้ดีหรือไม่ด้วยเหตุผลนี้คุณจึงเปิดรับฟุตบอลและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากขึ้น?

'ผมคิดอย่างนั้น พวกเราคนหนุ่มเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากขึ้น ความจริงที่ว่าผมรู้จัก เลเอา มาหลายปีและการได้อยู่กับเขาช่วยผมได้มาก แต่ผมโชคดีที่ได้พบกลุ่มนักเตะและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคที่เป็นหนึ่งเดียวกัน สิ่งนี้ได้เร่งการปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมของผม'

เกี่ยวกับ เลเอา การได้พบคุณ, ความประทับใจคือคุณแตกต่างกันมาก คนหนึ่งสงบ, เยือกเย็นและมีความสมดุลในทัศนคติของคุณ ขณะที่อีกคนฟุุ่มเฟือยทั้งเรื่องเสื้อผ้าและสีผมที่ย้อมเป็นสีบลอนด์ นั่นเป็นความรู้สึกที่ถูกต้องหรือไม่?

'ใช่, เราแตกต่างกันมาก นอกสนามเขาเป็นคนเปิดเผยมากกว่าและในสนามดูเหมือนผมจะมีสมาธิมากขึ้นด้วย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็น แต่สมมติว่าเขาอยู่ในโหมดอื่น บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่เราเป็นเพื่อนกันเพราะเราเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน'

นอกสนาม, คนไหนลากอีกคนมาที่สนาม?

'ผมเกือบจะเป็นเหมือนพ่อของเขาแล้วผมทำให้เขาสงบ ผมร้องขอให้เขาคิดก่อนจะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้มันง่าย ผมอยู่ใกล้เขาและบอกเขาว่าอะไรดีและอะไรไม่ดี เขาทำตรงกันข้าม เขาบอกว่าผมต้องผ่อนคลายมากขึ้นและผมไม่ควรกังวลกับทุกอย่างมากเกินไป เราอยู่ตรงข้ามกัน มันก็สนุกดี'

ราฟา เล่นสนุกกับคุณบ้างหรือเปล่า?

'ผมยังลงรูปในอินสตาแกรมของเขาที่ขว้างหิมะใส่ผมที่ มิลาเนลโล่ เขายังแกล้งผมตอนที่ผมลืมบางอย่างสำหรับการฝึกซ้อม แต่ไม่พูดเกินจริงเพราะเขารู้ว่าผมโกรธ'

อย่างไรก็ตาม เลเอา รับรู้ถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของคุณที่ได้นำเสียงเพลงอันไพเราะมาสู่ห้องแต่งตัวของทัพรอสโซเนรี่?

'มันเป็นเรื่องจริง ผมชอบเพลง ฟาโด้ เฉพาะคนที่มีวัฒนธรรมดนตรีที่แท้จริงเท่านั้นที่จะชื่นชมมัน สำหรับพวกเราชาวโปรตุกีส มันคือประวัติศาสตร์, ประเพณี, วัฒนธรรม แต่ผมไม่คาดหวังว่ามันจะแพร่กระจายที่ มิลาเนลโล่ ก่อนฝึกซ้อม ผมเล่นเพลง เร็กเกตอน, ฮิป-ฮอป สั่นๆ เพลงที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้'

ย้อนกลับไปหาผู้เล่นโปรตุกีสในอิตาลี ไม่มีใครโด่งดังมากไปกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คุณเคยพบเขาหรือไม่นอกเหนือจากการแข่งขันระหว่าง มิลาน กับ ยูเว่?

'มันเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์กับทีมชาติ พวกเรา, ทีมชุดยู-21 พักโรงแรมเดียวกับผู้เล่นรุ่นใหญ่ ผมอยากพบเขามานานแล้ว เขามักจะเป็นจุดอ้างอิงสำหรับผม เป็นไอดอลของผมตั้งแต่ยังเด็ก และผมหวังว่าจะสามารถแบ่งปันช่วงเวลากับเขาได้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามขณะสวมเสื้อทีมชาติโปรตุเกส'

โรนัลโด้ กำลังจะลงเผชิญหน้ากับหนึ่งในทีมชั้นนำของประเทศคุณ, แซร์โจ้ คอนไซเซา โค้ชปอร์โต้ ในเกมแรกของรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่ง คอนไซเซา เป็นคนมอบโอกาสให้คุณเข้าสู่โลกของฟุตบอล เขาเป็นคนแบบไหน?

'เขามีบุคลิกแข็งแกร่งมาก เขากำลังทำงานสำคัญและผลแข่งขันพูดแทนเขา เขานำทีมเข้ารอบ 16 ทีมและผ่านเข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนัลหลายครั้งแล้ว เขาไม่มีความคิดที่จะพ่ายแพ้ในหัว'

นั่นหมายถึง ยูเว่ จะไม่ผ่านเข้ารอบหรือ?

'ยูเวนตุส กำลังทำผิดพลาดถ้าพวกเขาคิดว่าพวกเขาชนะแล้ว ปอร์โต้ กำลังเล่นเพื่อมัน พวกเขามีโอกาสที่ดีในการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับทีมที่แข็งแกร่งสุด มันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขาไม่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศหรือรอบรองชนะเลิศมาเป็นเวลานาน แต่พวกเขาอยู่ที่นั่นเสมอ'

อีกหนึ่งโค้ชชาวโปรตุกีส, (โชเซ่) มูรินโญ่ ซึ่งเป็นโค้ชของคุณที่ แมนฯยูไนเต็ด เขามอบอะไรไว้กับคุณบ้าง?

'หลายอย่างเลย ก่อนอื่นเขาเป็นคนที่ทำให้ผมไต่เต้าขึ้นมา มอบโอกาสให้ผมเล่นในลีกสำคัญและในการแข่งขันที่มีชื่อเสียงที่สุดคือแชมเปี้ยนส์ลีก จากนั้นเขายังแสดงให้ผมเห็นเสมอด้วยการอธิบายให้ผมรู้ถึงสิ่งที่ผมขาดหายไปในการเล่นระดับสูง และผมชอบวิธีที่เขาจัดการกับกลุ่ม'

คุณชอบอะไรเกี่ยวกับ (สเตฟาโน่) ปิโอลี่?

'ความสามารถของเขาในการสื่อสารกับนักเตะทำให้แต่ละคนรู้สึกว่ามีประโยชน์และพิเศษ ไม่ว่าเขาจะลงเล่นทุกเกมหรือลงสนามเดือนละครั้งก็ตาม ในฐานะโค้ช เขาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม อันดับบนเวที เซเรีย อา พูดแทนเขาแล้ว'

ณ จุดนี้ของฤดูกาล คุณหวังว่าจะได้เล่นอีกมากน้อยแค่ไหน?

'ตอนที่ผมตอบรับข้อเสนอของ มิลาน ผมมีเป้าหมายสำคัญกว่าคนอื่นๆ นั่นคือการสัมผัสกลิ่นหญ้าอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นเพื่อกลับไปพิจารณาตัวเองในฐานะนักฟุตบอลหลังจากได้รับบาดเจ็บทั้งหมดที่ฉุดรั้งผมไว้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผมทำสำเร็จ จนถึงตอนนี้ผมอยู่ในการดูแลของโค้ชมาตลอด จากนั้นผมอยากจะพิสูจน์ว่าผมสมควรลงเล่นเป็นประจำ และผมคิดว่าผมทำได้ตามเป้าหมายนั้นเช่นกัน จนถึงตอนนี้ผมลงเล่นไปแล้ว 16 เกม ดูเหมือนว่าผมจะคิดแง่บวกมาก'

คู่แข่งแย่งตำแหน่งของคุณคือ คาลาเบรีย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่ว่าใครจะลงเล่น?

'จากตำแหน่งกองหลังของ ปิโอลี่ ต้องการความสมดุล ความกระชับในการป้องกันและความสามารถในการพุ่งทะยานไปข้างหน้า เมื่อเทียบกับ คาลาเบรีย บางทีผมอาจจะเล่นเกมรุกดีกว่าเล็กน้อย การมีลักษณะที่แตกต่างกันเป็นประโยชน์, ดาวิเด้, เตโอ และ ผม มีคุณสมบัติแตกต่างกันและนี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะมันทำให้โค้ชมีทางเลือกและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในการฝึกซ้อม ในสโมสรใหญ่อย่าง มิลาน การแข่งขันจะยกระดับในภาพรวมของทีม'

คุณมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 2016 ตอนคุณคว้าแชมป์ยุโรปชุดยู-17 ปี กับ โปรตุเกส และสร้างตัวเองฐานะกองหลังจอมบุก ตั้งแต่นั้นมาคุณทำงานหนักมากในส่วนของเกมป้องกัน นั่นทำให้ลักษณะการเล่นของคุณผิดเพี้ยนไปหรือไม่?

'นี่เป็นช่วงเวลาที่แตกต่างกันในอาชีพค้าแข้ง วิธีที่ผมเล่นในปี 2016 ไม่สามารถเหมือนกับวันนี้ ระดับของเกมและของฝ่ายตรงข้ามสูงกว่าเดิม มันจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการเล่นเกมรับ ผมเข้าใจธรรมชาติของคำถาม แต่เป้าหมายของผมคือการเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ เมื่อผมรีไทร์แล้ว ผมอยากจะได้รับรางวัลมากมายและเพื่อให้มีการพูดถึงตัวผมว่าผมเป็นจุดอ้างอิงในบทบาทของผม'

พูดถึงชัยชนะ คุณเริ่มเชื่อมั่นใน สคูเด็ตโต้ ที่ มิลาเนลโล่ หรือไม่?

'มันเป็นเรื่องปกติเมื่อคุณเก็บคะแนนได้จำนวนมากและในห้องแต่งตัวมีนักเตะ, อดีตนักเตะ ซึ่งเคยคว้าแชมป์มามากมาย อย่างเช่น ซลาตัน, โบเรน่า และ ดีด้า สิ่งสำคัญคือการรักษาความสมดุล ถ้าเราทำได้ ผมก็มั่นใจว่าเราจะต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์ไปจนถึงที่สุด'

บางทีอาจจะง่ายกว่าที่จะไปจนถึงจุดสิ้นสุดของยูโรปาลีก ซึ่งมีเกมลงเล่นน้อยกว่า?

'เราต้องเคารพ เซอร์เวน่า ซเวซด้า คู่แข่งทีมต่อไป ตรามิลานที่เราสวมอยู่บนหน้าอกเราไม่สามารถเอาชนะเกมด้วยตัวมันเอง ถ้าหากไม่มีแฟนๆพวกเขาจะเสียหายมาก แต่พวกเขายังคงอันตราย'

คุณเล่นเป็นฟูลแบ็กมาตลอดหรือไม่?

'ผมเริ่มจากการเล่นปีก จากนั้นตอนอายุ 13-14 ปี ผมจึงย้ายมาเล่นแบ็ก'

คุณพ่อของคุณเป็นคนวางลูกบอลไว้ที่เท้าของคุณหรือไม่?

'เขาฝันที่จะเป็นนักฟุตบอล แต่ช่วงเวลานั้นต่างกันและคุณย่าของผมต้องการให้เขาเรียนหนังสือ เขาจึงกลายเป็นทนายความ แต่ผมจำได้ตอนที่เขาจูงมือผมไปดู ปอร์โต้ ที่สนาม ผมอายุ 4-5 ขวบ ผมเห็น ปอร์โต้ ของ 'มู' คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก คุณแม่ของผมเป็นครู ดาโล่ต์ เป็นนามสกุลของเธอ ในโปรตุเกส มันเป็นเรื่องปกติที่จะตั้งนามสกุลของแม่ให้ลูกชายด้วย คุณพ่อคือ ชาซินโต้'

คุณพ่อเป็นทนายความ, คุณแม่เป็นครู นั่นเป็นเหตุผลที่คุณเติบโตมาเป็นคนจริงจัง แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณเคยทำอะไรบ้าๆบอๆบ้าง?

'มันยากที่จะตอบเพราะตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเป็นคนให้ความสำคัญกับทุกการตัดสินใจ เป็นคนใส่ใจในการทำสิ่งต่างๆในแบบที่ควรทำและเป็นคนกังวลมาก เรียกว่าอย่างบ้าคลั่งที่สุดของผมก็ว่าได้ ผมเชื่อว่าผมสามารถเป็นผู้เล่นระดับนี้ได้ ผมเสี่ยงที่จะไป ปอร์โต้ ตอนอายุ 14 ไปอังกฤษตอนอายุ 18 ปี และมา มิลาเนลโล่ เมื่อผมอายุ 21 ในความคิดผม สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือกที่มีความบ้าคลั่งเล็กน้อย'

นั่นคือเรื่องราวทั้งในและนอกสนามของหนุ่มดาโล่ต์ที่กำลังไปได้สวยกับทีมรอสโซเนรี่นับตั้งแต่ย้ายมาจากทีมปีศาจแดงในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด