:::     :::

"Father and Son" สายสัมพันธ์อันทรงพลังกับโนอาห์ และ"พ่อ"ของโซลชา

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
3,706
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือสกู๊ปและเรื่องราวจากโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เปิดเผยถึงเรื่องราวและความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ระหว่างเขากับพ่อ และเขากับลูก ซึ่งเกี่ยวพันกับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในการกลับมาลงเล่นอีกครั้งของโซลชา ที่หลายๆคนไม่รู้มาก่อน

พ่อของผมเป็นนักมวยปล้ำเกรกโค-โรมัน (Greco-Roman มวยปล้ำโบราณที่สืบทอดมา และผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างสองสมัยของยุคกรีก-โรมัน และใช้ส่วนบนปล้ำ หลักๆคือห้ามใช้ขาช่วย -ผู้แปล) ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาเก่งขนาดไหน เพราะว่าผมไม่เคยเห็นเขาไปแข่งที่ไหนเลยจริงๆ เพราะงั้นคงต้องให้เขาบอกเองแหละว่าเล่นเก่งมั้ย

ผมเคยเห็นสมุดติดภาพที่มีข่าวตัดมาแปะของเขา และตอนเป็นเด็กผมคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ ผมชอบอ่านเรื่องราวและพยายามจะค้นหาว่าเขาประสบความสำเร็จยังไงบ้าง

เขาติดทีมชาตินอร์เวย์และเป็นแชมป์ปี 1966, 1967, 1968, 1969, 1970 แล้วก็ 1971 6ปีติดต่อกัน เขายังลงแข่งชิงแชมป์ยุโรปและทัวร์นาเม้นต์เมเจอร์ต่างๆให้กับนอร์เวย์ด้วย ซึ่งถึงแม้ไม่เคยได้เหรียญในเวทีใหญ่ๆพวกนั้น แต่เขาก็เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่มากๆสำหรับผม

ตอนที่ผมเกิดเขาก็เลิกเป็นนักมวยปล้ำไปแล้ว แล้วพอมาคิดดีๆอาจจะเป็นเพราะผมเกิดมาก็ได้นะที่ทำให้เขาวางมือ แต่ผมกับเพื่อนๆ รู้จักเรื่องราวและอาชีพของคุณพ่อผมเป็นอย่างดี พวกเราโตกันมาในเมืองเล็กๆอย่าง Kristiansund ซึ่งเป็นถิ่นฐานเดียวกับพ่อของผม และก็นักมวยปล้ำทีมชุดใหญ่อย่าง Ole Olsenที่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นโค้ชอยู่นั้นได้เติบโตมา เพราะงั้นแหละพวกเราทั้งหมด และคนแถบๆนั้นจึงรู้จักกันหมดว่าพ่อผมเป็นยังไงบ้าง

ถึงแม้ผมจะไม่เคยเห็นเขาเล่นมวยปล้ำเองกับตา แต่ผมก็จะเข้าหาเขาอยู่เสมอเพราะผมชอบฟังเขาเล่าเรื่องการฝึกซ้อมว่าต้องทำยังไงบ้าง ซ้อมยังไง รักษาความฟิตยังไง เขาเป็นมืออาชีพที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาก เขามีพรสวรรค์ในการเป็นนักกีฬา ซึ่งแน่นอนล่ะ เพราะว่าเขาสามารถเล่นในเลเวลนั้นได้

แต่บางทีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดของเขาอาจจะเป็นเรื่องทางด้านจิตใจ(mentality)ที่ปลูกฝังมาสู่ผมตั้งแต่อายุน้อยๆ

โนอาห์ ลูกชายของผมเกิดปี2000 ตอนนี้เขาอายุ20แล้ว และสูง 6ฟุต4นิ้ว เขาลงเดบิวต์กับทีมKristiansund มาเจอกับทีมในเกมปรีซีซั่นนัดกระชับมิตรเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ว่าเขามาเที่ยวโอลด์แทรฟฟอร์ดตั้งแต่ยังเล็กๆแล้วนะ ตอนที่เราได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วเราเดินฉลองกันทั่วๆสนาม ที่ผมยังอุ้มเขามานั่นแหละ ผิวเขาซีดตั้งแต่เด็กๆแล้วนะนั่น

ผมบาดเจ็บที่เข่าช่วงสิงหาคมปี2003 แล้วก็เจ็บยาวไป4-5เดือน กลับมาอีกทีในซีซั่นนั้นและได้ลงในเกมเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศที่เราชนะอาร์เซนอล และผมได้ลงเจอมิลวอลล์นัดชิง แต่ผมรู้ดีข้างในลึกๆว่าตัวเองไม่ฟิตพออีกแล้ว ผมรู้ว่าผมต้องไปรักษาเข่า และอาจจะต้องหยุดเล่นอย่างต่ำๆเป็นปีเลย

หมอศัลฯที่ดูแลการผ่าตัดมาจากสวีเดน และก็มีเพื่อนของผมที่เป็นหมอเหมือนกันก็มาจากKristiansund และมาอยู่กับผมตลอดการผ่าตัด ดังนั้นเขาจะรู้เป็นอย่างดีว่าผมเป็นอะไรยังไง และมีรายละเอียดที่ต้องทำอะไรบ้างเพืื่อที่จะฟื้นฟูกลับมา

เซอร์อเล็กซ์ดีกับผมมากๆ เขาให้ผมกลับบ้านที่นอร์เวย์แล้วพักฟื้นตัวที่นั่น เขาเชื่อใจในตัวผมว่าจะกลับมาดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง เขารู้ว่าผมจะติดต่อกับศัลยแพทย์ที่นั่นและรู้ว่าผมมีเพื่อนอยู่ที่Kristiansundด้วย ดังนั้นมันจึงแปลว่าเราสามารถกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวได้เลย ซึ่งมันดีกับผมมากๆ

Spiritual Father and Son

ผมได้รับการสนับสนุนที่ดีจากครอบครัวผมเองตลอดการเป็นนักฟุตบอล Siljeภรรยาของผมตามไปอยู่เป็นเพื่อนผมตลอดไม่ว่าจะที่ไหนๆ ในฐานะมืออาชีพนั้น คุณต้องไปลุยกับงาน ทำตามสิ่งที่ได้รับมอบหมาย และทำทุกๆอย่างที่มันถูกต้อง แต่การที่จะทำทุกอย่างให้มันเรียบร้อยได้ดีก็ต่อเมื่อคุณมีครอบครัวอยู่ข้างเคียงและคอยช่วยดูแลซึ่งกันและกันเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเวลานักบอลเจ็บยาวนั้นก็จะต้องไปใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับบ้านและครอบครัวเป็นหลัก และในยามที่คุณเป็นนักฟุตบอลที่ฟิตตามปกติก็ไม่ควรจะเอาเรื่องฟุตบอลกลับไปบ้านด้วย

เมื่อใดก็ตามที่จำเป็นต้องเจอสถานการณ์อย่างเช่นต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นต้นและมันต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นฟูเพื่อกลับมานั้น คุณจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ดีและถูกต้องที่สุดอย่างเป๊ะๆในทุกๆสเต็ป ซึ่งในกรณีของผม ภาคการฟื้นฟูนั้นจะทำช่วงเย็นๆและช่วงกลางคืนที่บ้านด้วย แต่ว่าผมได้รับการดูแลตลอดช่วงเวลานั้นเลย

และก่อนที่จะกลับมาลงสนามในช่วงปรีซีซั่น 2005นั้นผมต้องใช้เวลาอยู่เป็นเดือนในการกลับมาฝึกซ้อม ดังนั้นแรงสนับสนุนดังกล่าวมันจึงช่วยเหลือผมอย่างมากจริงๆ

ตลอดช่วงนั้นผมก็ได้รับพลังใจจากครอบครัวอย่างมหาศาลเพื่อที่จะกลับมาให้ได้ ก็อย่างที่ผมบอก ตอนที่ผมเจ็บครั้งแรกปี2003นั้น โนอาห์เพิ่งจะสามขวบเอง ซึ่งแน่นอนว่าตอนคุณสามขวบคุณยังไม่รู้ความและจำเรื่องราวของพ่อตัวเองไม่ได้หรอก ดังนั้นตอนที่ผมตัดสินใจจะผ่าตัดใหญ่นั้น โนอาห์เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องนั้น และบางทีอาจจะเป็นปัจจัยแห่งแรงขับที่สำคัญที่สุดของผมในการคัมแบ็คกลับมาเลยก็ได้

ผมอยากจะลงเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดให้ลูกชายผมเห็น ผมอยากลงเล่นมากๆ เพราะเขาจะได้จดจำได้ว่า เขามีพ่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และแน่นอนว่าผมต้องการที่จะคว้าชัยชนะให้ได้ด้วย ดังนั้นเขาก็จะได้จำผมในฐานะของคนเป็นผู้ชนะเช่นกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างมันย้อนกลับไปที่เรื่องราวของตัวผมเองกับคุณพ่อของผมอีกครั้ง ปมเรื่องที่ว่าผมไม่เคยได้เห็นเขาเล่นมวยปล้ำเลย ไม่เคยเห็นเขาลงแข่งและชนะ ดังนั้นผมก็เลยอยากให้โนอาห์อย่างน้อยที่สุดก็เคยมีความทรงจำที่เห็นภาพผมลงเล่นในสนาม และชนะการแข่งขันด้วยสองตาของเขาเอง

ทุกครั้งที่เข้ายิมฟิตร่างกาย ผมจะนึกถึงเรื่องนี้ในหัวอยู่ตลอด

นั่นจึงเป็นเป้าหมายหลักที่ผมโฟกัสว่า ผมจำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะกลับมาลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดให้ได้ ผมพยายามทำงานอย่างหนักมาเป็นระยะเวลาอย่างยาวนาน

มันอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่สุดท้ายแล้วผมก็กลับไปได้สำเร็จ

ธันวาคมปี 2005 หลังจากคริสต์มาสและไปเจอเบอร์มิงแฮม ผมรู้ดีว่ายังคงต้องพยายามทำงานให้หนักหน่วงอยู่เสมอ เพราะงั้นตลอด4-5เดือนผมก็ลงเล่นเคาะสนิมเรียกฟิตอยู่ในทีมสำรอง และทำงานร่วมกับ Rene Meulensteen ผมจึงฟิตพร้อมพอดีในปรีซีซั่นช่วง 2006 ซึ่งมันก็ไปด้วยสวยเลยสำหรับผม ในที่สุดก็กลับมาอยู่ในแผนของผู้จัดการอีกครั้งในทีมซีซั่น 2006/07 ซึ่งเป็นซีซั่นที่ดีเลย

เกมนัดเปิดสนามซีซั่นนั้นในการเจอชาร์ลตันผมยิงประตูแรกให้ยูไนเต็ดได้ในรอบเกือบๆสามปี จากนั้นก็ยิงประตูชัยที่เราชนะCelticในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอีก ประตูเหล่านี้มันมหัศจรรย์มากๆสำหรับผมหลังจากที่หายไปนาน แต่ทั้งสองนัดนั้นผมยิงได้ในแมตช์ที่เตะกันกลางคืนซึ่งโนอาห์ไม่ได้ไปดูด้วย

ตอนที่โนอาห์ได้มาเห็น คือเกมแรกที่ผมสตาร์ทในการเจอนิวคาสเซิลที่โอลด์แทรฟฟอร์ด

และวันที่ 1 ตุลาคม ปี2006 ก็เป็นวันที่พิเศษที่สุด เมื่อช่วงก่อนจะจบครึ่งแรก คริสเตียโน่ โรนัลโด้รับบอลสั้นแล้วลากตัดเข้ากลางมาจากทางซ้าย ยิงเรียดยัดผ่านฝูงนักเตะเข้ามาและชนโคนเสาไกลเต็มๆ บอลกระดอนออกมา ซึ่งผมอยู่ตรงนั้นพอดีและไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากแปเข้าไป แล้วหลังจากนั้นช่วงต้นครึ่งหลังเนมันย่า วิดิชก็เติมขึ้นมายิงจากนอกกรอบ แล้วบอลแฉลบหน้าแข้งผมเข้าประตูไปต่อหน้ากองเชียร์ฝั่งสเตรทฟอร์ดเอนด์

เกมนั้นเราชนะนิวคาสเซิล 2-0 และสองประตูนี้เป็นเครดิตทำประตูของผมทั้งสองลูก ดังนั้นพอเสียงนกหวีดเป่าจบการแข่งขันผมจึงรู้สึกเหลือเชื่อมากๆ

วันนั้นน่าจะเป็นการเดินออกจากสนามหลังจบเกมที่น่าจะเป็นหนึ่งในวันที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตจริงๆ

ตอนที่เดินเข้าอุโมงค์ผมมองหาครอบครัวและก็เห็นโนอาห์มองมาที่ผม กำลังชูมือดีใจอยู่และยิ้มแฉ่งเลย นั่นแหละคือสิ่งที่ผมพยายามมาตลอดสามปีที่ผ่านมา ทุกๆชั่วโมงที่เข้ายิม และช่วงกลางคืนที่แสนจะยาวนานที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อเมคชัวร์ว่าผมทำทุกอย่างที่จำเป็นอย่างครบถ้วนแล้ว มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาเหล่านั้นทั้งหลายแล้ว มันคุ้มค่ามากจริงๆ

ผมคว้าแชมป์กับยูไนเต็ดมากมายและมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมหลายต่อหลายครั้ง แต่ในวันนั้นมันเหมือนเป็นรางวัลส่วนตัวที่มีค่ายิ่งกว่าโทรฟี่ใดๆอีก

ลูกสาวของผม Karna และเจ้าลูกชายตัวเล็ก Elijah ทั้งสองคนอายุน้อยกว่าโนอาห์ และแน่นอนว่าพวกเขาคงจำเรื่องที่พ่อของเค้าลงเตะไม่ได้ แต่โนอาห์คงช่วยยืนยันให้ผมได้มั้ง(หวังว่านะ!) เพราะไม่จำเป็นต้องใช้สมุดภาพหรือข่าวตัดแปะจากหนังสือพิมพ์ใดๆเขาก็สามารถเอาไปเล่าให้น้องๆฟังได้เองเลย

เพราะเคยนั่งดูพ่อยิงประตูชัยให้ยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ดครั้งนั้นนั่นเอง

-Ole Gunnar Solskjaer-


Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/utd-unscripted-ole-gunnar-solskjaer-father-and-son

https://www.youtube.com/watch?v=JeJVntzyNKI

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด