:::     :::

ปัญหา(เฉพาะหน้า)ที่ต้องแก้

วันจันทร์ที่ 01 มีนาคม 2564 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,007
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การตกรอบ ยูโรปาลีก ต่อด้วยการแพ้ อาร์เซน่อล คารัง คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ถือเป็นเรื่องเลวร้ายปิดท้ายเดือนแห่งความรัก แต่ก็ยังไม่เท่าการเสียตัวหลักต้อนรับเดือนมีนาคม

จากชัยชนะที่ วิลล่า พาร์ค เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องรับรู้ข่าวร้ายคืออาการบาดเจ็บของ เจมส์ แมดดิสัน ในครึ่งหลัง ถือเป็นความเสียหายก่อนเกม ยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่จะกลับมาเล่นที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม รับมือ สลาเวีย ปราก ทีมจากเช็ก

โฉมหน้าในแนวรุกของ เลสเตอร์ เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่แล้วที่ ร็อดเจอร์ส จะโรเตชั่นทีมลงเล่นเกมยุโรป และการขาด แมดดิสัน บวกกับการพัก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ นั่งสำรอง ก็ต้องชดใช้ด้วยการตกรอบ จากการแพ้ในเกมสองด้วยสกอร์ 0-2
การตกรอบถ้วยเล็กของยุโรป อาจไม่ส่งผลเสียหายมากนัก เพราะเป้าหมายหลักของทีมคือการจบ 4 อันดับแรกพรีเมียร์ลีก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจอดป้ายอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะอยู่บ้าง
ร็อดเจอร์ส เลือกที่จะทดลองแผนใหม่ 4-4-2 ที่ทีมแทบไม่เคยใช้มาก่อน ในเกมเจอกับ อาร์เซน่อล โดยให้ เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ ลงมายืนกองหน้าคู่ วาร์ดี้ ไปเลย แล้วให้ บาร์นส์ กับ ริคาร์โด้ เปเรร่า รับบทปีกสองฝั่ง
แม้ได้ประตูนำเร็วตั้งแต่ต้นเกมจาก ยูริ ตีเลมันส์ และมีโอกาสบวกประตูเพิ่มแต่ทำไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือการไม่มีตัวศูนย์กลางในการคุมจังหวะเกมรุกว่าจะเคลื่อนที่ช้าหรือเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ แมดดิสัน คือคนที่ควบคุมทุกอย่างเอาไว้หมด ก่อนที่บอลจะถูกถ่ายออกริมเส้น หรือขึ้นตรงหา วาร์ดี้ จังหวะเข้าทำแบบทะลุทะลวง
เห็นได้ชัดเจนจากเกมพรีเมียร์ลีกในเดือนกุมภาพันธ์ แมดดิสัน จ่าย 2 แอสซิสต์ให้ อีเฮียนาโช่ กับ เจมส์ จัสติน ยิงคนละประตูในชัยชนะที่บ้าน ฟูแล่ม 2-0, ยิง 1 ประตูในชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล ที่มีประตูร่วมกับ วาร์ดี้ และ บาร์นส์ ก่อนถึงเกมที่ วิลล่า พาร์ค ที่ แมดดิสัน ซัลโวประตูแรกของเกมในชัยชนะเหนือเจ้าบ้าน 2-1
ร็อดเจอร์ส ยอมรับว่าตอนนี้ต้องประเมินอาการและความฟิตของ แมดดิสัน แบบวันต่อวัน ไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่จะกลับคืนสนามอย่างแน่ชัดได้ หลังจากส่งนักเตะเดินทางไปรักษาที่ลอนดอนในสัปดาห์ที่ผ่านมา 
ปัญหาของ แมดดิสัน เป็นอาการที่สะโพกที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนจบฤดูกาลที่แล้ว จนสโมสรต้องส่งตัวไปผ่าตัด และส่งผลมหาศาลต่อผลงานในช่วงท้ายซีซั่น จนหลุดจาก 4 อันดับแรก และทำตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลุดมือไป
แมดดิสัน เริ่มต้นฤดูกาลนี้แบบช้าๆ แต่พอความฟิตเข้าที่เข้าทาง ก็อย่างที่เห็น 11 ประตูจาก 32 เกมรวมทุกรายการ จนกระทั่งเกมที่ วิลล่า พาร์ค
ดังนั้นเกมที่เจอ อาร์เซน่อล ร็อดเจอร์ส จึงต้องฝากความหวังในการปั้นเกมรุกเอาไว้กับ บาร์นส์ มากขึ้น แต่คราวเคราะห์ก็มาเยือน คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เพราะ บาร์นส์ มีปัญหาบาดเจ็บอีกคนตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
ภายหลังจบเกม ร็อดเจอร์ส ยืนยันแล้ว บาร์นส์ ต้องผ่าตัดเข่าทันที จะใช้เวลาพักฟื้นอย่างเร็วสุดคือ 6 สัปดาห์ หรือราวๆ เดือนครึ่ง กว่าจะกลับคืนสนามได้ก็ในช่วงกลางเดือนเมษายน หรือบางทีอาจจะปลายเดือนเลย
นี่คือข่าวร้ายซ้ำเติมข่าวร้ายสำหรับ เลสเตอร์ และ ร็อดเจอร์ส เพราะ บาร์นส์ อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองในฤดูกาลนี้ ยิงไปแล้ว 13 ประตูรวมทุกรายการ เป็นรองแค่ วาร์ดี้ เพียงประตูเดียว
อันที่จริงแล้ว วาร์ดี้ คือคนที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมกับ อาร์เซน่อล แล้ว เพราะปัญหาสะโพกที่ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถสปีดได้เต็มร้อยเหมือนที่เคยเป็นมา แม้ปรากฏตัวอยู่ในสนามจนครบ 90 นาที แต่ทีมแพทย์ก็ต้องประเมินอาการว่ามีความเสียหายเพิ่มเติมหรือไม่
หาก วาร์ดี้ ไม่ฟิตสมบูรณ์ในเกมถัดไปอีกคน หมายความว่า ร็อดเจอร์ส จะไม่มีตัวเลือกในแนวรุกมากถึง 5 คน เพราะก่อนหน้านี้ อาโยเซ่ เปเรซ กับ เดนนิส ปราต พักฟื้นอยู่ก่อน
ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำ แต่ ร็อดเจอร์ส ก็ต้องเชิดหน้าแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตีเลมันส์ ถูกมองเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถยืนกองหน้าตัวเป้าได้ หาก อีเฮียนาโช่ ไม่สามารถสร้างอิมแพกท์ในแดนหน้า
ถึงตอนนี้เหลืออีก 12 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ร็อดเจอร์ส คงต้องเลิกคิดเรื่องการลุ้นอันดับสองแข่งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วมามุ่งมั่นกับการรักษาอันดับ 3 หรือ 4 เอาไว้ให้ได้จะดีกว่า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ก้มหน้าลงมามองอันดับ 5-10 จะต้องสะดุ้งทุกครั้งที่เห็นชื่อทีมอย่าง เชลซี, ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน, สเปอร์ส, อาร์เซน่อล อยู่ตรงนั้น
อย่างน้อยๆ โชคก็ยังเข้าข้าง เลสเตอร์ ตรงที่โปรแกรมสามเกมถัดไปเจองานไม่หนักหนาสักเท่าไหร่ เริ่มจากเยือน เบิร์นลี่ย์, เยือน ไบรท์ตัน และเหย้า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จากนั้นถึงเจอสามเกมหนักๆ เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อด้วยเกมในบ้านอีกนัดเจอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนเริ่มต้นเดือนเมษายน และบุกเยือน เวสต์แฮม
จะหลุดจากกลุ่มท็อป 4 ของตารางหรือไม่ ผ่าน 5 เกมนี้ไปได้รู้เรื่องแน่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด