ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลายเป็นโซนแรกที่ได้บทสรุป (เบื้องต้น) 4 ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วย อิหร่าน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และ ซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ออสเตรเลีย ต้องไปเพลย์ออฟกับ ซีเรีย เพื่อหาตัวแทนไปเพลย์ออฟอีกสเต็ปกับอันดับ 4 ของโซนคาเคฟ
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลายเป็นโซนแรกที่ได้บทสรุป (เบื้องต้น) 4 ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วย อิหร่าน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และ ซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ ออสเตรเลีย ต้องไปเพลย์ออฟกับ ซีเรีย เพื่อหาตัวแทนไปเพลย์ออฟอีกสเต็ปกับอันดับ 4 ของโซนคาเคฟ
ไปไล่ดูไฮไลต์ในการชิงตั๋วบอลโลกของทั้งสองกลุ่มกันอีกรอบ เริ่มกันที่ กลุ่ม เอ
นัดสุดท้ายของกลุ่มนี้มีผลทั้ง 3 คู่ และลงสนามพร้อมกันหมด วัดกันนาทีต่อนาที
บิ๊กแมตช์คืออุซเบกิสถาน กับ เกาหลีใต้ ที่ตัดกันเองโดยตรง ขณะที่ ซีเรีย กับ จีน เป็นตาอยู่ลุ้นสอดแทรก มีเพียง อิหร่าน ที่ภารกิจลุล่วง
เกาหลีใต้ น่าจะลอยลำไปไปตั้งแต่วันพฤหัสบดีแล้วที่เล่นในบ้านแต่ไม่สามารถเอาชนะอิหร่านได้ ทำให้ต้องเหนื่อยถึงนัดสุดท้าย
ในขณะที่คู่เอกยังนิ่งไร้สกอร์ เกมที่เตหะราน - ซีเรีย ทำฮือฮาบุกนำอิหร่าน 1-0 ซึ่งถ้าจบสกอร์นี้ พวกเขาจะสร้างประวัติศาตร์เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก
แต่แล้ว ซาร์ดาร์ อัซมูน ดาวโรจน์ของอิหร่านก็มาซัดคนเดียว 2 ประตูให้อิหร่านพลิกนำ 2-1
อิหร่าน ของคาร์ลอส เคยรอซ อดีตผู้ช่วยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ารอบเป็นทีมแรกของเอเชีย แต่ก็ยังเน้นเต็มที่ทั้งเกมบุกยันเสมอเกาหลีใต้ และเกมนี้ที่สั่งลูกทีมอย่าออมมือ
นอกจากนี้พวกเขาต้องการสร้างประวัติศาสตร์ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวตลอดรอบคัดเลือก ซึ่งประตูแรกที่เสียให้ซีเรียก็เป็นการโดนยิงในรอบเกือบ 900 นาทีเลยทีเดียว
แต่แล้วช่วงทดเวลาเจ็บ โอมาร์ อัล โซมาห์ ก็มายิงประตูที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลซีเรียช่วยทีมตีเสมออิหร่าน 2-2 ได้หนึ่งคะแนนที่ล้ำค่าสุด
ซีเรีย ได้อันดับ 3 ไปเพลย์ออฟกับออสเตรเลีย
ผลอีกคู่ดันเป็นใจให้พวกเขาเมื่อ ไม่มีผู้ชนะระหว่างอุซเบกิสถานกับเกาหลีใต้ซึ่งฝ่ายหลังแฮปปี้มากกว่ากับการได้หนึ่งคะแนนกลับออกมา
เป็นฉากจบที่พีคที่สุด ซีเรีย อาจชนะอิหร่านไม่ได้ แต่การไล่ตีเสมอช่วงทดเจ็บ ก็ทำให้พวกเขาจบในอันดับ 3 ของตาราง เฉือนอันดับ 4 อย่างอุซเบกิสถานแค่เส้นขนจมูก
2 ทีมนี้มี 13 คะแนนเท่ากันจาก 10 นัด แต่ซีเรียมีประตูได้-เสียดีกว่า 2 ลูก ทำให้ได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟกับอันดับ 3 ของกลุ่ม บี
อุซเบกิสถานโทษใครไม่ได้เลยเมื่อ 2 นัดสุดท้ายได้เพียงคะแนนเดียว และยิงไม่ได้อีกต่างหาก เลยกลายเป็นว่าโดนซีเรียที่ได้ 4 คะแนนใน 2 นัดหลัง แซงเข้ายป้ายอย่างเจ็บแสบ
ยิ่งถ้าย้อนไปดูการเจอกันของคู่นี้ อุซเบกิสถาน ยิ่งต้องหัวเสียเมื่อพวกเขาทำได้ดีกว่า ชนะ 1 เสมอ 1
ส่วนเกาหลีใต้ก็เอาตัวรอดได้สำเร็จใน 2 นัดท้ายโดยเฉพาะการบุกยันเสมออุซเบกิสถาน และจบอัน 2 ของกลุ่ม ตามหลังอิหร่านไปเล่นรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน
ขณะที่ กลุ่ม บี ได้บทสรุปทั้งหมดเอาใน 2 นัดท้าย โดยที่ญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบได้เป็นทีมแรกของกลุ่มหลังเปิดบ้านชนะออสเตรเลีย 2-0 ในเกมเมื่อวันพฤหัสบดี
นั่นทำให้นัดเมื่อปิดท้ายเมื่อวันอังคาร ซาอุดิอาระเบีย กับ ออสเตรเลีย ที่คะแนนเท่ากันต้องแย่งกันเข้าอันดับ 2 โดยทัพซาอุฯ ได้เปรียบเล็กน้อยจากประตูได้-เสียที่ดีกว่า 2 ลูก
ความต่างของกลุ่มนี้คือ 2 คู่ที่มีผลต่อการเข้ารอบทั้ง ออสเตรเลีย-ไทย กับ ซาอุฯ-ยุ่น ไม่ได้แข่งพร้อมกันเนื่องจากอยู่กันละโซน
ทัพจิงโจ้ที่ลงสนามก่อน ดาหน้าบุกแหลกใส่ทีมชาติไทย ดาวดังมากันครบทั้ง ทิม เคฮิลล์, โทมี่ ยูริช, ทอม โรกิช, แม็ทธิว เล็คกี้ และ อารอน มอย ขาดเพียง มิเล่ เยดินัค กองกลางกัปตันทีม
แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นคือ นักเตะสายพันธุ์จิงโจ้เอาชนะช้างศึกไปได้เพียง 2-1 ทั้งที่มีโอกาสสับไกถึง 45 ครั้ง ชนเสาไปซะ 3
ซาอุฯ คว้าตั๋วรอบสุดท้ายได้อีกครั้งหลังพลาด 2 ครั้งก่อนหน้านี้
ทีมชาติไทยตกรอบไปแล้วก็จริง แต่สวมวิญญาณนักสู้ชนกับเจ้าถิ่นได้ยอดเยี่ยม และควรต้องได้จุดโทษด้วยซ้ำจากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา โดนเสียบจากข้างหลัง ทว่าผู้ตัดสินกลับไม่ว่าอะไร แถมไม่แจกแม้แต่ใบเหลืองให้ผู้เล่นออสซี่
จากโอกาสมากมายที่มีสามารถตีความได้ทั้ง ออสเตรเลีย ยิงทิ้งยิงขว้างเอง หรือไม่ก็ ไทยช่วยกันเล่นเกมรับได้ดี และอาจมีโชคสผสมด้วยเล็กน้อย
แต่ไม่ว่าเพราะเหตุผลใดที่ทำให้พวกเขาได้เพียงเฉือนชนะ 2-1 ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นส่งผลเสียหายต่อออสเตรเลียอย่างมากเพราะไม่สามารถตุนประตูได้-เสียอย่างต้องการ
เมื่อแข่งจบ พวกเขาก็ทำได้เพียงรอลุ้นไม่ให้ซาอุฯ เปิดบ้านชนะญี่ปุ่น
ทัพซามูไรที่เข้ารอบไปแล้วยังมืออาชีพจัดตัวหลักลงครบครันและแลกหมัดซาอุฯ อย่างสนุก มีโอกาสยิงกันมากมาย แต่สุดท้ายประตูเดียวของเกมเป็นซาอุฯ ที่ทำได้จากการตะบันเต็มข้อของ ฟาฮัด อัล-มูวัลลัด
ประตูนี้เพียงพอที่จะทำให้ซาอุฯ ยึดอันดับ 2 ของกลุ่ม คว้าตั๋วฟุตบอลรอบสุดท้ายได้สำเร็จหลังว่างเว้นไป 2 ครั้ง
ส่วนออสเตรเลียก็ต้องไปเพลย์ออฟกับซีเรีย ซึ่งแน่นอนว่าหากพวกเขามองย้อนกลับก็คงได้แต่ถามตัวเองว่า....
ทำไมชนะไทยได้แค่ 2-1 จากโอกาสยิงเกือบครึ่งร้อย
