:::     :::

พิสูจน์หัวใจ

วันจันทร์ที่ 08 มีนาคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,266
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บางที ..... นี่อาจจะเป็นบทพิสูจน์ที่มาจากฟ้าก็ได้นะครับ ..... ที่จะพิสูจน์ว่า คุณรักทีมๆ นี้มากแค่ไหน




สถานการณ์บังคับ

    

          ผมเชื่อว่าหลายๆ คนเห็นรายชื่อผู้เล่นลิเวอร์พูลแล้วก็น่าจะคิดเหมือนๆ กันว่า “อะไรกันครับเนี่ยยยยย !!!????” เมื่อคล็อปป์จัดการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแทบจะทั้งหมด โดยใช้คู่เซ็นเตอร์เป็น แนท ฟิลลิปส์ คู่กับ รีส์ วิลเลี่ยม แบ็กขวาเป็นเนโกร วิลเลี่ยม ส่วนแบ็กซ้ายยังเป็นโรเบิร์ตสันเหมือนเดิม แดนกลางก็ใช้ นาบี เกอิต้า เจมส์ มิลเนอร์ และจินี่ ไวนัลดุ้ม ส่วนแดนหน้าก็เหลือตัวจริงแค่โม ซาล่าห์ คนเดียว ที่เหลือเป็นชากิรี่ กับความหวังสูงสุดของชาวเดอะ ค็อป ในเวลานี้อย่างดิโอโก้ โชต้า (ฮา)  ซึ่งถ้าว่ากันตามเหตุผลจริงๆ ก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ เพราะว่าลิเวอร์พูลเอง มีศึกที่สำคัญกับทีมมากกว่าอย่างศึก UCL ที่รออยู่กลางสัปดาห์ การจะไปทุ่มเทกับพรีเมียร์ลีกที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีลุ้นอะไรแล้วก็ดูจะไม่เข้าท่าซักเท่าไร แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็สุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะทำลายสถิติอันเลวร้ายของลิเวอร์พูลกับรายชื่อผู้เล่นแบบนี้

          ด้วยลูกสด หรือความแปลกใหม่มันก็ดีไปอย่างนึงล่ะครับ หรือจะว่ากันตรงๆ จากใจก็คือ เจอแบบนี้ก็ดีตรงที่มันก็ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรมากนัก ก็อาจจะดีไปอีกแบบเหมือนกัน (ฮา) เล่นไป เล่นมาก็ตามคาดล่ะครับ คือ ลิเวอร์พูลเองก็ออกแนวสะเปะสะปะอยู่พอสมควร แต่ด้วยลูกสดและความตั้งใจก็ยังมีจัวหวะให้ลุ้นเล็กๆ บ้างจากโม ซาล่าห์ แต่ก็พลาดได้ประตูขึ้นนำไป เล่นไปเล่นมาฟูแล่มก็เห็นว่าลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนักครับ พวกเขาเริ่มทำเกมรุกเข้าใส่เจ้าบ้านและเป็นฝ่ายลุ้นแบบได้น้ำ ได้เนื้อกว่ากันเห็น ลิเวอร์พูลโดนบุก โดนสวนมาแต่ละที หัวใจนี่หล่นไปที่ตาตุ่ม  ไม่รู้ว่าเจอกับฟูแล่มหรือแมนฯซิตี้กันแน่ (ฮ่าๆ) ลิเวอร์พูลทำเกมแทบไม่ได้ครับ เท่าที่เห็นก็มีแค่จังหวะลุ้นเล็กๆ จากจังหวะฟรีคิกของชากิรี่เท่านั้นเอง นอกนั้นแทบนึกไม่ออกจริงๆ ว่าพวกเขาสร้างอันตรายให้กับฟูแล่มในจังหวะไหนกันบ้าง สุดท้ายความซวยก็มาเยือนจนได้ครับ เมื่อลิเวอร์พูลเสียเตะมุม และซาล่าห์ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษ ซึ่งซาล่าห์เองก็คงจะมองในมุมที่ว่าจะทำเกมสวนกลับยังไงอย่างที่เคยทำกันให้เห็นบ่อยๆ นั่นแหละครับ  แต่นั่นทำให้เขามองไม่เห็นเลมินาที่อยู่ในมุมอับสายตาของเขาฉกเอาบอลไปได้ ซ้ำร้ายยังยิงเข้าซะมุมดิก !!!  ส่งให้ฟูแล่มขึ้นนำลิเวอร์พูลไปอย่างหน้าตาเฉย ..... สีหน้าโม  ผิดหวังมาก .... และทุกคนก็น่าจะคิดเหมือนกันล่ะครับ  ว่าเกมนี้ลิเวอร์พูลจะกลับมาอีท่าไหนได้ล่ะเนี่ย



UNITY IS STRENGH    

          ว่ากันด้วยความรู้สึกจริงๆ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีใครหวังล่ะครับ ว่าลิเวอร์พูลจะกลับมาได้ แต่พวกเขาก็ตั้งใจอยู่เต็มเปี่ยมครับ แต่ชั่วโมงนี้อะไรๆ ก็ดูจะไม่เป็นใจกับพวกเขาจริงๆ ลูกยิงวอลเลย์ของดิโอโก้ โชต้าที่ยิงด้วยเท้าซ้ายแบบจังๆ ที่ถ้าเป็นเวลาปกติก็น่าจะเสียบตาข่ายไปแล้ว แต่อเรโอลาก็ไม่รู้ไปกินกาวแท่งอะไรที่ไหนมา บินปัดไปได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งนักเตะและกองเชียร์ลิเวอร์พูลหน้าเหวอไปตามๆ กันครับ ว่าขนาดนี้แล้วยังไม่ได้ประตูอีกเหรอ ???  จังหวะที่ทำท่าว่าจะท้อๆ นั้นภาพก็ตัดไปที่เครื่องบินเล็กครับ ที่แฟนส่งข้อความมาให้กำลังใจนักเตะและเจอร์เก้น คล็อปป์ด้วยข้อความที่ว่า UNITY IS STRENGH  แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า “สามัคคี คือ พลัง” อะไรประมาณนั้นล่ะครับ ซึ่งมันก็ส่งพลังให้นักเตะได้อยู่พอสมควรเหมือนกันครับ ลิเวอร์พูล พยายามบดบี้ฟูแล่มอย่างเต็มที่ ด้วยการโยนบอลไปกดดันในเขตโทษ แต่ยังไม่ได้ผล คล็อปป์ส่งมาเน่ลงมาหวังเปลี่ยนเกม แต่ชั่วโมงนี้ มาเน่เหมือนลืมเอาความคมไว้ที่ฤดูกาลก่อนครับ  เขามีโอกาสหวาดเสียวที่สุดคือจังหวะโหม่งย้อยๆ ทำท่าว่าบอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว อเรโอลาก็หมดสิทธิ์และได้แต่ชะเง้อมองไปแล้วแต่บอลเจ้ากรรมก็มาชนเสาไปเสียอีก คล็อปทุ่มหมดหน้าตักครับ กับการเปลี่ยนเอาเทรนท์ลงมา และเอาฟาบินโญ่ลงมาในแดนกลาง ข้อดีที่ได้เห็นจากเกมนี้คือพอฟาบินโญ่อยู่ในแดนกลางแล้ว จังหวะที่ลิเวอร์พูลตัดบอลได้จากกลางสนาม หรือจากในแดนของคู่ต่อสู้มีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ เลยครับ ส่วนเทรนท์เองก็พยายามเต็มที่แล้ว แต่ว่าสุดท้ายลิเวอร์พูลก็เอาชนะกองหลังของฟูแล่มไม่ได้  จบเกมด้วยการแพ้ไป 0-1 และทำสถิติแพ้คาบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 6 เข้าไปแล้ว
    

          และแน่นอนล่ะครับ เมื่อผลงานแย่แบบนี้ เสียงของความไม่พอใจ เสียงก่นด่าย่อมดังมากขึ้นเป็นธรรมดา บางคนก็ถึงกับว่าต้องการการเปลี่ยนแปลง หรือเอาง่ายๆ คือ อยากไล่คล็อปป์ออกกันเสียแล้ว ..... อย่างที่ว่าล่ะครับ บางที .... นี่อาจจะเป็นบททดสอบที่ส่งมาทดสอบความเป็นแฟนลิเวอร์พูลของพวกเราก็ได้ เมื่อฤดูกาลก่อนเรายังเชิดชูกุนซือชาวเยอรมันคนนี้ราวกับเขาเป็นพระเจ้า และผมเชื่อว่าตอนนั้นทุกคนก็ยินดีปรีดากันชัยชนะที่เขานำมาให้เหล่าแฟนบอลกันทุกคนแน่นอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อปัญหารุมเร้า ผลงานดำดิ่งแบบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจมากกว่าครับ บางที “ความรัก” มันก็ดูกันตอนที่ลำบากนี่แหละครับ ว่าเรารักกันมากแค่ไหน และพร้อมจะเดินฝ่าฟันความยากลำบากเหล่านี้ไปด้วยกันไหม ..... คิดถึงตอนมีความสุขด้วยกันครับ เราเคยยิ้ม หัวเราะ มีความสุขไปด้วยกัน วันนี้ถ้าเราจะทุกไปด้วยกันบ้างจะเป็นอะไรไป ..... วันนี้กุนซือคนนี้ต้องการกำลังใจครับ อย่าเพิ่งปล่อยมือกันไป ถ้าเรายังรักกัน  YNWA ครับทุกคน




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด