:::     :::

1 ทศวรรษที่สิ้นสุดการรอคอยของ "ราชันโคขาว"

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,752
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ใครที่เป็นแฟนบอลลีกรากหญ้า ย่อมรู้ดีเกี่ยวกับความสำคัญของทีมต่างจังหวัด ซึ่งแฟนบอลท้องถิ่นพร้อมมอบใจให้ เนื่องจากเป็นทีมบ้านเกิดของพวกเขา และมีเด็กท้องถิ่นตามอำเภอต่างๆ เข้ามาเล่นให้แบบถวายหัว

ถ้าพูดถึงทีมต่างจังหวัดแล้ว คงจะต้องนึกรวมไปถึง "ลำพูน วอริเออร์" แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่อยู่ห่างจาก จ.เชียงใหม่ เพียงแค่ 30 นาที แต่ที่นี่ถือว่ามีความพิเศษอย่างมาก 

โดยเฉพาะเป็นบ้านเกิดของ "โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคสโมสร ชลบุรี เอฟซี แม้ว่าจะไม่เคยเล่นให้ที่นี่ แต่เขาก็เป็นความภาคภูมิใจในนามลูกหลานชาวหละปูน และเคยเป็นที่ปรึกษาทีมในช่วงเริ่มก่อตั้งทีมใหม่ๆ เมื่อปี 2554 ด้วย นอกจากจะเป็นถึงแข้งระดับทีมชาติไทยแล้ว เขาเองก็ยังเคยออกไปเล่นลีกเยอรมัน อย่าง บุนเดสลีกา กับ แฮร์ธา เบอร์ลิน

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ลำพูน วอริเออร์ ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับส่งทีมแข่งขันในในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ซึ่งพวกเขาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะปีแรกสามารถคว้ารองแชมป์ของโซนเหนือ เข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝัน เนื่องจากตกรอบดังกล่าว

หลังจากนั้นฐานแฟนบอลก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะยามเล่นเป็นทีมเหย้า ทุกๆ นัดคนดูแทบจะทะลุความจุของสนามแม่กวง สเตเดี้ยม ด้วยซ้ำ ทว่าต่อมาพวกเขาเริ่มอยู่ในช่วงขาลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าสุดท้ายจะมีดาวรุ่งที่แจ้งเกิดให้คนแถวภาคเหนือได้ฮือฮา นามว่า "ฟาร์ม" สหรัฐ กันยะโรจน์

"เมสซี่ฟาร์ม" หรือ "เมสซีลำพูน" ที่แฟนบอลเรียกกันนั้น ถือเป็นเพชรเม็ดงามของทีมก็ว่าได้ หลังแจ้งเกิดด้วยการเล่นฟุตซอล แม้ว่าจะตัวเล็กและผอมบาง แต่ทดแทนด้วยความเร็ว และเทคนิคส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะถูกดันมาเล่นฟุตบอลสนามใหญ่ให้กับทีมในวัย 16 ปี กระทั่งปี 2015 เจ้าฟาร์มจำต้องโบกมืออำลาบ้านเกิดเมืองนอน โยกซบ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในเวทีที่ใหญ่ขึ้นอย่างศึกไทยลีก

แม้จะปั้นดาวรุ่งขึ้นมาและสุดท้ายต้องลาจากทีม  "ราชันโคขาว" ต้องพยายามหาจุดเปลี่ยน จนกระทั่งการเข้ามาของ "พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก" หรือ "เสี่ยตาล" ที่เข้ามาเป็นประธานสโมสร พร้อมกับทุ่มงบประมาณดึงตัวผู้เล่นชั้นยอดเข้ามายกระดับให้กับทีม


"เสี่ยตาล" เป็นที่รู้จักอย่างมาก หลังสร้างความฮือฮาด้วยการกประมูลชุดแข่ง โยโกฮามา เอฟ มารินอส แชมป์เจ ลีก 2019 ของ ธีราทร บุญมาทัน ไปด้วยเม็ดเงิน 510,000 บาท เพื่อช่วย จ.ส.อ.เสน่ห์ โพนมณีศักดิ์ อดีตสตาฟฟ์ทีมชาติไทย ที่จะนำเงินไปรักษาโรคมะเร็ง 

จากนั้นเป็นต้นมา "โก๋อุ้ม" ก็คอยซัพพอร์ทซึ่งกันและกันกับ "เสี่ยตาล" มาตลอด โดยเฉพาะการที่เขาพยายามหานักเตะเข้ามาป้อนให้กับทีม อย่างที่เห็นชัดๆ คือ อดุล หละโสะ อดีตฮาร์ดแมนทีมชาติไทย แม้ว่าจะอยู่ในวัย 34 ปี แต่เขายังดูแลรักษาสภาพร่ายกายได้อย่างยอดเยี่ยม


การคว้าดาวเตะจากแดนปักษ์ใต้มาร่วมทีม ทำให้เขาได้นำทัศนคติ วิสัยทัศน์ และความเป็นมืออาชีพมาถ่ายทอดให้กับน้องๆ นอกจากั้น ธีราทร บุญมาทัน ยังเป็นสื่อกลางในการแนะนำอดีตเพื่อนร่วมทีมอัสสัมชัญ ธนบุรี อย่าง  ศราวุธ สินธุปัน เข้ามาร่วมทีม 

แต่ที่สร้างความฮือฮาแบบสุดๆ ก็คือ การได้ “โฟแบร์” อนันต์ ยอดสังวาลย์ ดาวรุ่งวัย 19 ปี มาร่วมทัพ หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นในฟุตบอลเดินสาย 7 คน ด้วยการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์เดินสายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่าง FunMagzzcup ครั้งที่ 4 


นั่นทำให้ ชื่อของ "ลำพูน วอริเออร์" โด่งดังและถูกจับตามองอย่างมาก จนสามารถคว้าแชมป์โซนเหนือในปีนี้มาครองได้ ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชปอนด์" จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย ซึ่งเคยพา เชียงใหม่ เอฟซี จากลีกรากหญ้าเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 (ชื่อเดิม) มาแล้ว

การลงสนามของพลพรรค "ราชันโคขาว" ในรอบชิงแชมป์ประเทศ พวกเขาถูกจับไปอยู่ในโซนบน ร่วมกับ พิษณุโลก เอฟซี (รองแชมป์โซนเหนือ), ปลวกแดง ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออก), ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี (รองแชมป์โซนตะวันออก), อุดร ยูไนเต็ด (แชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ), เมืองเลย ยูไนเต็ด (รองแชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

โดยพวกเขาเป็นทีมแรกที่เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 จากการลงสนามไปเพียงแค่ 4 นัด ด้วยการคว้าชัยชนะได้ทั้งหมด ก่อนที่จะไปเจอกับ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่เลื่อนชั้นไปสู่ไทยลีก 2 เช่นกัน หลังเป็นแชมป์ในโซนล่าง ซึ่งรอบชิงแชมป์ประเทศ จะแข่ง 2 นัดเหย้า-เยือนนัดแรกในวันที่ 14 มีนาคม นัดที่ 2 วันที่ 21 มีนาคม ซึ่ง ลำพูน วอริเออร์ จะเป็นเจ้าบ้านก่อนในฐานะแชมป์กลุ่มบน 


เสี่ยตาล"พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ยังมีอีกโปรเจคต์ที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ การสร้างสนามใหม่แบบ "ซ็อคเกอร์ สเตเดี้ยม" ที่จะมีความคล้ายกับ ช้าง อารีนา ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวนความจุ 5,000 คน วางเป้าหมายเสร็จการก่อสร้างให้ทันการเลื่อนสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2022 

นั่นหมายความว่า ในซีซั่นนี้ใหม่ของไทยลีก 2 ลำพูน วอริเออร์ ปักธงขอจองตั๋วที่จะเลื่อนชั้นเอาไว้แล้ว เรียกได้ว่าการรอคอยขึ้นลีกรองของพวกเขา มันต่อยอดหลายอย่าง โดยเฉพาะเป้าหมายสู่การทะยานสู่ลีกสูงสุดเมืองไทยภายในฤดูกาลเดียว

เป้าหมายนี้จะบรรลุผลหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการหาคำตอบ แต่ต้องขอยอมใจอย่างหนึ่งว่า เขาคือคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เอาจริงเอาจังในการทำทีมลูกหนังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมนี้ซึ่งเป็นทีมบ้านเกิด ในฐานะลูกหลานแห่งอาณาจักรหริภุญชัยคนหนึ่ง

มั่นใจได้เลยว่า "ราชันโคขาว" ทีมนี้ได้เข้าไปอยู่กลางห้องหัวใจของชาวหละปูนเรียบร้อยแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})