:::     :::

ใครจะเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันคนต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,688
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ราล์ฟ รังนิก กับ สเตฟาน คุนท์ซ มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์คนต่อไปของทีมชาติเยอรมัน หลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดตัวเองออกจากการเป็นตัวเลือกของ เดเอฟเบ

สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน หรือ เดเอฟเบ ต้องปรับแผนงานในการสรรหาเทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็กคนใหม่เร็วกว่ากำหนด 2 ปี หลัง โยอาคิม เลิฟ กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจในศึกยูโรรอบสุดท้ายช่วงกลางปีนี้ แม้ว่ายังมีสัญญาจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ก็ตาม 

เลิฟ ทำงานกับ เดเอฟเบ ตั้งแต่ปี 2004 ฐานะผู้ช่วยของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่เต็มตัวหลัง 'พี่หลาม' อำลาตำแหน่งหลังศึกฟุตบอลโลก 2006 

เทรนเนอร์วัย 61 ปี ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม เขานำทัพอินทรีเหล็กทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกยูโร 2008 แต่อกหักได้เพียงรองแชมป์หลัง เฟร์นานโด ตอร์เรส ทำประตูโทนนำ สเปน เบียดคว้าชัยด้วยสกอร์ 1-0 


สเปน ยังคงเป็นหนามยอกอก เลิฟ อีกครั้งจนทำให้ทีมอินทรีเหล็กสิ้นสุดเส้นทางเพียงรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2010 จากการทำประตูชัยในช่วงกลางครึ่งหลังของ การ์เลส ปูโยล ก่อนทัพกระทิงจะเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วน เยอรมัน คว้าอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์ปลอบใจหลังการสยบ อุรุกวัย 3-2

เยอรมัน ยังไปไม่ถึงดวงดาวในศึกยูโร 2012 หลังการปราชัยต่อ อิตาลี 1-2 ในรอบรองชนะเลิศ จนกระทั่งวันที่แฟนบอลชาวเยอรมันรอคอยก็มาถึง เมื่อ เลิฟ นำโทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 คืนสู่เมืองเบียร์สำเร็จ หลังการเอาชนะ อาร์เจนตินา 1-0 จากการทำประตูชัยของ มาริโอ เกิตเซ่ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ


ทีมอินทรีเหล็กหยุดเส้นทางในศึกยูโร 2016 เพียงรอบรองชนะเลิศหลังการปราชัยต่อเจ้าภาพ ฝรั่งเศส 0-2 แต่มันยังไม่ละลายเครดิตของ เลิฟ มากเท่ากับผลงานบนเวทีฟุตบอลโลก 2018 หลัง เยอรมัน ตกรอบแรกแบบหมดสภาพแชมป์เก่า มันเป็นการตกรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1938 พวกเขาแพ้แม้กระทั่งทีมรองบ่อนอย่าง เกาหลีใต้ 0-2

เยอรมัน ยังฟอร์มต่อเนื่อง ทีมอินทรีเหล็กถูกลดชั้นจาก เนชั่น ลีก เอ หลังปิดฉากอันดับบ๊วยของ กลุ่ม เอ1 ร่วมกับ ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ส ทว่าพวกเขายังคงอยู่ ลีก เอ ต่อไปเนื่องจาก ยูฟ่า ตัดสินใจเพิ่มทีมในลีกแต่ละระดับ ทว่า เลิฟ ยังทำอับอายขายหน้าในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021 รอบแบ่งกลุ่มจากการพ่ายต่อ สเปน 0-2 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2020 

มันเป็นการปราชัยย่อยยับสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 1931 ตอนที่พวกเขาพ่ายคารังต่อ ออสเตรีย ด้วยสกอร์เดียวกัน 

จากผลงานดังกล่าวทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับอนาคตของ เลิฟ แม้ว่่า เดเอฟเบ จะการขยายสัญญาบุนเดสเทรนเนอร์ไปจนวันที่ 30 มิถุนายน 2022 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 ก็ตาม 


อย่างไรก็ดี เลิฟ สร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนด้วยการประกาศข่าวเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันหลังเสร็จสิ้นภารกิจในศึกยูโรรอบสุดท้ายช่วงกลางปีนี้ 

'ผมตัดสินใจด้วยความรอบคอบ เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและซาบซึ้งใจอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันยังคงมีแรงกระตุ้นอย่างมากสำหรับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ยุโรปที่กำลังจะมาถึง'

'ความภูมิใจเพราะเป็นสิ่งพิเศษมาก และมันเป็นเกียรติสำหรับผมที่ได้มีส่วนร่วมกับประเทศของผม และเพราะผมได้ร่วมงานกับนักฟุตบอลดีที่สุดหลายคนในประเทศตลอด 17 ปี และช่วยพัฒนาฝีเท้าพวกเขาให้ดีขึ้น'

'ผมมีชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ร่วมกับพวกเขา และเผชิญความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดร่วมกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือช่วงเวลาวิเศษและมหัศจรรย์ ไม่ใช่แค่การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเท่านั้น' 

'ผมขอบคุณสหพันธ์ฟุตบอลที่ทำให้ผมและทีมมีสภาพแวดล้อมในการทำงานดีที่สุดเสมอมา' เลิฟ ยืนยันการตัดสินใจของเขา


ด้าน ฟริตซ์ เคลเลอร์ ประธาน เดเอฟเบ ยอมรับการตัดสินใจของเทรนเนอร์วัย 61 ปี 'ผมเคารพการตัดสินใจของ โยอาคิม เลิฟ, เดเอฟเบ รู้ดีว่าว่ามี โยกี้ มีอะไรในตัวเขา เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่ยิ่งใหญ่สุดในโลกฟุตบอล'

'โยกี้ เลิฟ มีความเป็นฟุตบอลเยอรมันที่ไม่เหมือนใครมาหลายปีแล้ว ไม่เพียงเพราะความสำเร็จด้านกีฬาของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความเอาใจใส่และความเป็นมนุษย์ของเขาด้วย'

'การที่เขาแจ้งให้เราทราบถึงการตัดสินใจของเขาตั้งแต่เนิ่นๆนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก เขาให้เวลาที่จำเป็นแก่ เดเอฟเบ เรายังใจเย็นและเริ่มต้นพิจารณาผู้ที่จะเข้ามาสืบทอดต่อจากเขา' 

การตัดสินใจของ เลิฟ ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามต่อมาว่า เดเอฟเบ จะเลือกใครมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็กคนต่อไป โดยมีชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดดเด่นเหนือกว่าคนอื่น ทว่ามันอาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเทรนเนอร์วัย 53 ปี เนื่องจากเขายังมีสัญญากับ ลิเวอร์พูล จนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2024 ก่อน คล็อปป์ จะตัดโอกาสของตนเองด้วยเช่นกัน


'ผมจะไม่เป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ของทีมชาติเยอรมัน ทั้งในช่วงซัมเมอร์นี้หรือหลังจากนั้น ผมยังมีสัญญา 3 ปีกับ ลิเวอร์พูล มันเป็นสถานการณ์ที่เข้าใจง่ายๆ คุณมีสัญญาและคุณพยายามยึดมั่นกับเรื่องนั้น' 

'โยกี้ เลิฟ ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นหนึ่งใน (โค้ชเยอรมัน) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ผมเข้าใจว่าเขาต้องการเน้นเต็มที่สำหรับยูโรครั้งนี้ และหลังจากนั้นคนอื่นจะเข้ามาทำหน้าที่นี้ มีโค้ชชาวเยอรมันที่เก่งๆ อีกหลายคน' คล็อปป์ กล่าว

ขณะที่ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์คนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของ เดเอฟเบ เช่นเดียวกัน จากการเปิดเผยผ่านสื่อของ เบียร์โฮฟ ก่อนซีอีโอ คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ จะแสดงท่าทีชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยเทรนเนอร์วัย 56 ปีออกจากสโมสรเด็ดขาด 


ดังนั้น เดเอฟเบ จึงต้องมองหาตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมสำหรับการสืบทอดอำนาจต่อจาก โยอาคิม เลิฟ ซึ่งมีหลายชื่อที่สื่ออ้างถึงทั้ง ยูเลียน นาเกลส์มันน์ หรือ โธมัส ทูเคิ่ล แต่ทั้งคู่ยังมีสัญญากับ แอร์เบ ไลป์ซิก และ เชลซี 

ส่วน ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล ของ เซาธ์แฮมป์ตัน หรือแม้แต่ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือคนดังของ อาร์เซน่อล ที่มีชื่อเป็นตัวเลือกของสื่อหลายสำนักคงจะตัดโอกาสทิ้งเนื่องจาก เยอรมัน ไม่มีความจำเป็นจะต้องเลือกโค้ชต่างชาติมากุมบังเหียนทีมอินทรีเหล็ก 

สองตัวเลือกของ เดเอฟเบ ที่มีความเป็นไปได้มากสุด นั่นคนคือในอย่าง สเตฟาน คุนท์ซ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันชุดยู-21 ปี และ ราล์ฟ รังนิก อดีตเทรนเนอร์ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่กำลังว่างงานในปัจจุบัน


คุนท์ซ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันวัย 58 ปี ทำงานกับ เดเอฟเบ มาตั้งแต่ปี 2016 และยังมีสัญญาจนถึงปี 2023 และยังเคยนำทีมชาติเยอรมันชุดยู-21 คว้าแชมป์ยุโรปเมื่อปี 2017 เขาอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการคั่นเวลารอ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในอนาคต

ส่วน รังนิก อดีตเทรนเนอร์ แอร์เบ ไลป์ซิก วัย 62 ปี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน และแน่นอน รังนิก ไม่ปิดกั้นโอกาสรับงานต่อจาก เลิฟ ในช่วงซัมเมอร์นี้เช่นกัน


'ถ้าตอนนั้นผมยังมีอิสระ แน่นอน (ผมสนใจ)' รังนิก เผย

'อย่างไรก็ตามมันเป็นคำถามเกี่ยวกับความเคารพ ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือตำแหน่งที่ไม่มีใครสามารถเย็นชาในฐานะโค้ชในเยอรมัน ผมจะเตรียมพร้อมและรอฟัง (โทรศัพท์จาก เดเอฟเบ)' 

'โดยทั่วไป ผมสามารถจินตนาการได้หลายอย่าง มันเป็นคำถามเกี่ยวกับเวลา ณ ตอนนี้ผมมีอิสระ แต่มิสเตอร์ เคลเลอร์ (ประธาน เดเอฟเบ) ต้องการใช้เวลาของเขา (สำหรับการแต่งตั้งเทรนเนอร์คนใหม่' 

'ตอนนี้เราต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า' รังนิก กล่าว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด