:::     :::

ชัยชนะและความกังวลที่ซุกซ่อนอยู่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล มีโอกาสที่ดีมากในการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูโรปา ลีก ปีนี้หลังบุกชนะ โอลิมเปียกอส ได้ถึง 3-1 ในนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เป็นผลการแข่งขันอันยอดเยี่ยมทั้งการชนะนอกบ้านด้วยความห่าง 2 ประตู และอะเวย์โกล 3 ลูก 

เทียบกับปีก่อนที่เคยโดน โอลิมเปียกอส บุกมาเขี่ยตกรอบคาบ้านทั้งที่นัดแรก มิเกล อาร์เตต้า พาลูกทีมบุกชนะได้แล้ว 1-0 สถานการณ์ในปีนี้ดีกว่าชัดเจน และทำให้อุ่นใจได้พอสมควรก่อนลงสนามนัดสองสัปดาห์หน้า

ผ่านไปหนึ่งปีหลังเคยเจอกันครั้งล่าสุดในรอบ 32 ทีมสุดท้ายปีที่แล้ว อาร์เซน่อล และ โอลิมเปียกอส เปลี่ยนทีมไปไม่มากนัก 

เจ้าถิ่น โอลิมเปียกอส ยังคุมทีมโดย เปโดร มาร์ตินส์ ชาวโปรตุกีส แกนหลักหลายคนที่เป็นตัวจริงปีก่อนยังคงลงตัวจริงอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น ยุสเซฟ เอล-อราบี หัวหอกตัวเก่ง, มาติเยอ วัลบูเอน่า ปีกจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส, สองกองกลาง มาดี้ กามาร่า และ อันเดรียส บูชาลาคิส รวมไปถึงผู้รักษาประตู โชเซ่ ซา

มีเข้ามาเพิ่มคือ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส ที่เพิ่งย้ายจาก อาร์เซน่อล ไปร่วมทีมในตลาดหน้าหนาวล่าสุด และ ยันน์ เอ็มวีล่า อีกหนึ่งแข้งเก๋าฝรั่งเศสที่ถูกถอยลงไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ 

ส่วนตัวจริง อาร์เซน่อล ที่เคยอกหักคาบ้านเมื่อปีที่แล้ว ได้ลงแก้ตัวนัดนี้กันหลายคนไม่ว่าจะป็น ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง, กรานิต ชาคา, บูคาโย่ ซาก้า, เอ็คตอร์ เบเยริน, ดาวิด ลุยซ์, แบร์นด์ เลโน่ รวมถึง ดานี่ เซบายอส, อเล็กซองเดร์ ลากาเซ็ตต์ และ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ลงเป็นสำรองนัดนี้ แต่เป็นตัวจริงครั้งก่อน 

ในภาพรวมนัดนี้ อาร์เซน่อล คู่ควรกับชัยชนะ 3-1 และเป็นการชนะที่สนาม สตาดิโอ จอร์จอส คาไรสคากี้ 4 นัดติดต่อกัน โดยที่ 3 นัดหลังสุดเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงปีเดียวเพราะในรอบก่อนหน้านี้ที่ผ่าน เบนฟิก้า มาได้ ก็เล่น ณ สังเวียนแห่งนี้ที่ถูกเลือกให้เป็นสนามกลางในนัดสอง 

แข้งปืนใหญ่เป็นฝ่ายคอนโทรลเกมและสร้างโอกาสได้ดีกว่าชัดเจนโดยเฉพาะครึ่งแรกที่ได้ลุ้นทั้งการขึ้นเกมซ้าย-ขวา รวมไปถึงจังหวะฟรีคิกอีก 3 ครั้งที่เข้ากรอบ 2 ครั้ง 

ประตูเดียวของทีมในครึ่งแรกมาจากการยิงไกลของ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ต้องให้เครดิตเป็นพิเศษเพราะซัดได้เข้าข้ออย่างยิ่ง บอลพุ่งแรงและส่ายนิดๆ ทำให้ โชเซ่ ซา เสียท่าโดนยิงแสกหน้าดื้อๆ 


แต่ในรูปเกมที่ดีกว่า อาร์เซน่อล ยังคงก่อความผิดพลาดในแบบเดิมๆ จนมอบโอกาสให้ โอลิมเปียกอส หลายครั้ง 

ครั้งแรกเกิดขึ้นในนาที 21 มาร์ติน โอเดการ์ด โดนบีบจึงจ่ายเข้าในไปหน้าเขตโทษ บรูม่า ปีกของเจ้าถิ่นฉกได้ก่อนก่อนยิงด้วยขวา แต่ไม่ห่างตัว แบรนด์ เลโน่ มากนักทำให้ป้องกันไว้ได้ 

โอเดการ์ด พลาดอีกครั้งในนาที 39 จากจังหวะแตะบอลเบาไปนิดไม่ถึง บูคาโย่ ซาก้า ทำให้โดน บรูม่า คนเดิมแย่งได้ก่อนลากจี้แล้วจ่ายให้ ยุสเซฟ เอล-อราบี ยิงในเขตโทษติดบล็อก

ที่น่าจะเสียประตูที่สุดเกิดขึ้นไม่กี่อึดใจถัดมา แบรนด์ เลโน่ เคาะบอลเล่นกับ ดาวิด ลุยซ์ ที่ล็อกเข้าในอีกรอบแล้วเปิดด้วยซ้ายติดบล็อก จอร์จอส มาซูราส ที่ดักรออยู่แล้ว ทว่าแข้ง โอลิมเปียกอส ไม่คมเองซัดหลุดเสาไกลออกหลังไป ลุยส์ และ อาร์เซน่อล รอดตัวหวุดหวิด

ในที่สุด โอลิมเปียกอส ก็ฉกฉวยประโยชน์จากความผิดพลาดของ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จในครึ่งหลัง ดานี่ เซบายอส ที่ลงสำรองมาแทน โธมัส ปาร์เตย์ เล่นประมาทล็อกบอลหน้าเขตโทษแล้วโดน ยุสเซฟ เอล-อราบี ดักได้ หัวหอกโมร็อกโกจึงแต่งหาจังหวะยิงโล่งๆ เข้าประตูในทันที

ภาพเดิมๆ หลอกหลอนแฟนบอลปืนใหญ่อีกครั้ง 

4 ประตูหลังสุดที่ อาร์เซน่อล เสียให้คู่แข่งล้วนมาจากความผิดพลาดของตัวเองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ดานี่ เซบายอส คนเดิมนี่แหละโหม่งคืนหลังไม่ดีจนเสียประตูในเกมกับ เบนฟิก้า จากนั้น กรานิต ชาคา ขอโชว์ (ลั่น) บ้าง 2 นัดติดในเกมกับ เลสเตอร์ และ เบิร์นลีย์ ก่อนวนมาที่ เซบายอส อีกครั้ง

นับเฉพาะในยูโรปา ลีก แข้งปืนโตสลับกันผิดพลาดจนเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้ยิงไปถึง 8 ครั้ง มากกว่าทุกทีมในรายการนี้ 

เสียประตูตีเสมอแบบนี้ทำให้ อาร์เซน่อล ชะงักไปทันทีไม่ต่างจากนัดล่าสุดในลีกกับ เบิร์นลีย์ พวกเขาออกอาการชัดเจนจนเกือบโดน โอลิมเปียกอส ยิงแซงในไม่กี่นาทีต่อมาจากโอกาสที่ โอลิมเปียกอส สร้างสรรค์เกมเองจริงๆ ทางฝั่งขวาก่อนจบที่การแปเน้นๆ 10 หลาของ เอล-อราบี ทว่าหลุดเสาออกหลังแบบน่าหวาดเสียวสุด


โมเมนตัมตอนนั้นเริ่มเทไปทางฝั่ง โอลิมเปียกอส ที่ดูมั่นใจขึ้นมาทันที ทว่าจู่ๆ กาเบรียล มากัลเญส ก็เติมสูงขึ้นมาเล่นลูกเตะมุมแล้วโหม่งลูกเปิดของ วิลเลี่ยน ย้อนเข้าเสาแรกอย่างสวยงาม 

ประตูที่สามในสีเสื้อปืนใหญ่ของ กาเบรียล สำคัญอย่างยิ่งเพราะเหมือนทะลายความกดดันที่เริ่มก่อตัวขึ้นในทีมลงได้ ก่อนที่อีก 5 นาทีถัดมา โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่เพิ่งลงสำรองมาซัดไกลนอกเขตโทษปิดท้ายให้ทีมคว้าชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

สองประตูช่วงท้ายเกมของ กาเบรียล และ เอลเนนี่ เปลี่ยนโมเมนตัมของเกมกลับมาอยู่ฝั่ง อาร์เซน่อล ทันที เช่นเดียวกับโอกาสกรุยทางสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย 

มิเกล อาร์เตต้า สรุปผลงานนัดนี้เอาไว้ว่า "พวกเราพอใจกับผลการแข่งขันนัดนี้อย่างยิ่ง พอใจกับการทำประตู และแนวทางการเล่นในช่วงเวลาสำคัญ"

"แต่เราก็ต้องชัดเจนและซื่อตรงกับตัวเองด้วย  เรามอบโอกาสทำประตูให้คู่แข่งไป 3 ครั้ง พวกเขาคว้าเอาไว้ได้ 1 ประตู ในเกมระดับนี้พวกเขาพร้อมลงโทษคุณอยู่แล้ว" 

"หากเราอยากก้าวขึ้นไปอีกขั้น เราต้องหยุดทำอะไรแบบนี้และมีความเฉียบมากขึ้น เมื่อคุณครองเกมเหนือกว่าและเล่นได้ดีขนาดนั้น ต้องยิงปิดเกมให้ได้"

หากไม่มี 2 ประตูท้ายเกม บทสรุปนัดนี้ก็อาจลงเอยเหมือนเกมลีกสุดสัปดาห์ที่มีโอกาสมากมายในการเก็บชัยชนะไม่ยาก ทว่ากลับได้เพียงเสมอเพราะความผิดพลาดของตัวเอง 

อาร์เซน่อล ได้ผลการแข่งขันที่ดีมากสำหรับโอกาสเข้ารอบและรักษาความหวังในการคว้าแชมป์อันเป็นใบเบิกทางนำไปสู่การได้เล่นถ้วยใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า 


แต่สิ่งที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญยิ่งกว่าเดิมคือ ความผิดพลาดของตัวเองที่เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อนทั้งในลีกและบอลถ้วย 

หากไม่แก้ไขให้หมดไป หรือไม่เคยเข็ดหลาบกับบทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า โอกาสไปถึงเป้าหมายในวางเอาไว้ก็เป็นไปได้ยาก และทุกความผิดพลาดที่มาจากตัวเองก็น่าปวดใจมากกว่าสิ่งใด


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด