:::     :::

สถิติเกมรับไทยลีกกำลังจะถูกทำลาย

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,490
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เหลืออีกไม่กี่เกมแล้วที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะสร้างสถิติขึ้นมาใหม่ขึ้นมาอีก 1 สถิติ ในการเสียประตูน้อยที่สุด ซึ่งหลังจบเกมบุกเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-0 ทำให้เวลานี้พวกเขาเสียไปแค่ 12 ลูกเท่านั้น เราจะพาทุกท่านไปชมกันว่า ไทยลีก ช่วงที่มีการฟาดแข้ง 16 ทีมนั้น ทีมใดเสียประตูน้อยที่สุด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะสามารถทำลายสิ่งนี้ได้หรือไม่ หลังจากเดินหน้าเก็บคะแนนเป็นกอบเป็นกำ


ธ.กรุงไทย (ปี 2007, เสีย 24 ประตู)

ในปี 2007 เป็นครั้งแรกที่ ไทยลีก ปรับจาก 12 ทีมขึ้นมาเป็น 16 ทีม ซึ่งคราวนั้น ธ.กรุงไทย ก่อนจะมาเป็น บางกอกล๊าส เอฟซี ในปี 2009 และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่น 2018 เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด ด้วยจำนวน 24 ลูก ทว่าแชมป์เก่าในฤดูกาล 2002/03, 2003–04 กลับไม่ได้เถลิงบัลลังก์

ช่วงต้องยอมรับความเก่งกาจของ ชลบุรี เอฟซี ที่ก้าวจากทีมระดับภูธรมขึ้นาเป็นแชมป์ ในเกมตัดสินแชมป์กับ ธ.กรุงไทย ที่กลายเป็นคลิปอันแพร่หลายบนโลกโซเชียล โดยเกมดังกล่าวมีข้อแม้ไว้ว่า หาก "ฉลามชล" เอาชนะได้จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดในทันที

ก่อนที่ลูกทีมของ จเด็จ มีลาภ จะเอาชนะ นกวายุภักษ์ ของ อรรถพล บุษปาคม ไปได้ 3-2 จากการทำประตูของ อาทิตย์ สุนทรพิธ, ศราวุฒิ จันทพันธ์ และ พิภพ อ่อนโม้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ไทยลีกเวลานั้น แต่พวกเขาโดนทำสกอร์ไปถึง 25 ประตูด้วยกัน


ชลบุรี เอฟซี (ปี 2008, เสีย 14 ประตู)

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า ชลบุรี เอฟซี ไม่สามารถรักษามาตรฐานของพวกเขาในการป้องกันแชมป์เอาไว้ เพราะในซีซั่น 2008 จบตำแหน่งการเป็นรองแชมป์ แต่ ปีดังกล่าว "ฉลามชล" เสียไปเพียงแค่ 14 ประตู ซึ่งดีกว่า การไฟฟ้า อยุธยา 1 เม็ด

ทั้งๆที่ "จอมช็อต" ภายใต้การคุมทีมของ "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช มีแนวรับแน่นปึ๊ก ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน ดาวรุ่งในเวลานั้น ภานุพงษ์ วงศ์ษา ก่อน 2 ปีต่อมาไปเล่นให้ เอสซีจี เมืองทองฯ, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กัปตันนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี คนปัจจุบัน, อภิเชษฐ์ พุฒตาล แบ็คขวาจอมบุก และ อองรี โจเอล

ทว่าอาจจะด้วยโปรแกรมที่แน่นปึ๊ก เพราะมีทั้ง ไทยลีก และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทำให้พวกเขาต้องเดินทางบ่อยครั้ง นั่นก่อให้เกิดอาการล้า เท่ากับว่าในเกมที่เหลือ ถ้า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เสียน้อยกว่า 14 ประตู พวกเขาจะทำลายสถิติขึ้นมาใหม่ในไทยลีก เวอร์ชั่นที่มี 16 ทีมทันที


เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ปี 2009, 20 ประตู)

การเลื่อนชั้นมาจากดิวิชั่น 1 (ชื่อเดิม) ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เวลานั้น พวกเขาสร้างปรากฏการณ์หลายอย่างมากมาย โดยเฉพาะการทุ่มเงินซื้อสตาร์ระดับทีมชาติไทย เข้ามาเป็นแกนหลัก และเป็นแม่เหล็กชั่นเลิศที่ดึงดูดแฟนบอลให้ตบเท้าเข้าสนาม แม้ว่าตอนแรกจะมีอัฒจันทร์ฝั่งปูนด้านเดียวก็ตาม

ชื่อของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดัสกร ทองเหลา ถูกดึงเข้ามาเสริมแกร่งในแดนกลาง ส่วนแนวรับจัดการทุ่มเงินกระชาก ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ มาจาก ชลบุรี เอฟซี พร้อมด้วย เจษฏา จิตสวัสดิ์ ที่เคยได้แชมป์ด้วยกันกับพนักงานยาสูบ นอกจากนี้ยังมีฟูลแบ็กอย่าง ปิยะชาติ ถามะพันธ์ กับ ปกาษิต แสนสุข วิ่งขึ้นลงอย่างสุดมันส์

ผลที่ออกมาก็คือ พวกเขาเข้าป้ายด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก หนแรก ของประวัติศาสตร์สโมสรในทันที พร้อมกับเป็นที่ที่เสียประตูน้อยที่สุด คือ 20 ลูก นั่นเป็นคำตอบที่ดีว่าทำไมพวกเขาถึงยอมทุ่มทุนสร้าง เพื่อแลกมากับการเถลิงบัลลังก์อันยิ่งใหญ่


เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ปี 2010, 19 ประตู)

"กิเลนผยอง" ต่อเนื่องความสุดยอด จากการคว้าแชมป์ในปี 2010 ด้วยการดึง ภานุพงษ์ วงศ์ษา เซนเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งในเวลานั้น มาจาก การไฟฟ้า อยุธยา ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ให้เกมรับแข็งโป๊กจริงๆ ก่อนที่จะโดนยิงไปเพียงแค่ 19 ประตูเท่านั้น

เหนือสิ่งอื่นใด ทีมที่เกิดใหม่จาก "จอมช็อต" มาเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ จากการเทคโอเวอร์ของ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ทำให้ทีมกลายสภาพขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว แม้ว่าในเวลานั้นจะยังไม่บรรลุผลก็ตาม แต่ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์หลายอย่าง ต่อเนื่องมาถึงวันนี้

อย่างไรก็ตาม "ปราสาทสายฟ้า" เสียไปเพียงแค่ 19 ประตูเท่านั้น เท่ากันกับ เอสซีจี เมืองทองฯ นั่นแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งในแนวรับที่มาจาก การไฟฟ้า อยุธยา ตัวผู้เล่นทุกคนยังสามารถต่อยอดได้อย่างเยี่ยมจริงๆ แต่ว่าปี 2011 ไทยลีกได้ปรับรูปโฉมใหม่ เพิ่มขึ้นมาเป็น 18 ทีมในที่สุด


บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ปี 2019, 25 ประตู)

ย้อนกลับปี 2018 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าการ ไทยลีก จะลดจำนวนทีมในฤดูกาล 2019 เหลือ 16 ทีม เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมา มีการแข่งขันถึง 37 สัปดาห์ (เดือน กพ.-พย.) ขณะที่ จำนวนสัปดาห์แข่งขันของสโมสร รวมบอลถ้วยมีทั้งหมด 44 นัด

ไหนจะสโมสรที่เล่นในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก จะลงเล่นเพิ่มขึ้น 12 นัด รวม 56 นัด และหากเป็นนักกีฬาที่ติดทีมชาติ จะลงเล่นเพิ่มอีก 12 นัดเช่นกัน รวม 56 นัด (ฟีฟ่าเดย์, ซูซูกิคัพ ฯลฯ) แต่ถ้าติดทีมชาติด้วยและเล่น ACL ด้วย จะต้องลงเล่นรวมทั้งหมดถึง 68 นัด ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้ามากๆ

นั่นทำให้ปี 2018 ต้องขับเคี่ยวกันสุดฤทธิ์ในการหา 5 ทีมตกชั้น ก่อนได้บทสรุปเป็น แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล, อุบล ยูไนเต็ด, ราชนาวี, โปลิศ เทโร และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ร่วงหล่น ซึ่งการต่อสู้ในปี 2019 เข้มข้นแบบลุ้นถึงนัดสุดท้าย ก่อนเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เข้าป้ายคว้าทีมที่เสียประตูน้อยสุด 25 ลูก

แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นแชมป์ไทยลีก เนื่องจาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เข้าป้ายไปตำแหน่งนี้ในรอบ 11 ปีแห่งการก่อตั้งสโมสร เพราะการมี 58 คะแนนเท่ากับ "ปราสาทสายฟ้า" แต่ว่าเฮดทูเฮดดีกว่านั่นเอง จากผลงานที่เลกแรกบุกไป เสมอ 0-0 จากนั้นในเลกสองเปิดบ้านเอาชนะ 3-0


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด