โลธ่าร์ มัทเธอุส อดีตแข้งทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของศึกบุนเดสลีกาที่กำลังเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์เหลือโปรแกรมลงสนามอีก 9 นัด ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค เจ้าของแชมป์ 8 สมัยล่าสุดยังคงเป็นนำจ่าฝูงลีกเมืองเบียร์ โดยมี แอร์เบ ไลป์ซิก ตามมาเป็นอันดับ 2 ไล่หลังทีมเสือใต้เพียง 4 คะแนน 

นอกจากนี้อดีตกัปตันทีมอินทรีเหล็กยังแสดงความมั่นใจเต็มร้อยว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค จะสร้างประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกาด้วยการทำลายสถิติที่อยู่มานานร่วมครึ่งศตวรรษของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานกองหน้าทีมเสือใต้ที่เคยทำสถิติกระทุ้ง 40 ประตูในฤดูกาล 1971-1972

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงไม่หยุดแบบนี้ คุณคิดว่าเขาจะทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ในซีซั่นนี้หรือไม่?

'ผมเดิมพันหมดหน้าตักเลยว่าเขาจะทำลายสถิตินั้น ไม่เพียงเพราะคุณภาพของ เลวานดอฟสกี้ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสไตล์การเล่นของ บาเยิร์น ด้วย เมื่อคุณเล่นกับ บาเยิร์น และทีมทำเฉลี่ย 4 ประตูต่อเกมบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกและในบุนเดสลีกา คุณจะอยู่ในกลุ่มนักเตะที่ทำประตูโดยอัตโนมัติในฐานะกองหน้า'

'แม้ว่าพวกเขาจะยิงได้ 3 ประตูต่อเกม แต่กองหน้าจะทำหนึ่งในนั้น ดังนั้นเขาจะมีโอกาสเสมอ เลวานดอฟสกี้ สับไก 9 ครั้งในเกมกับ ดอร์ทมุนด์ และมันเป็น 3 ประตู มันบ้ามากกับสิ่งที่เขากำลังทำและมันไม่เหมือนกับว่าเขายิงจากระยะ 30 เมตรเพียงเพื่อพยายามทำประตู เมื่อ เลวานดอฟสกี้ ยิงประตู มันอันตรายมากสำหรับคู่แข่ง เขายังรับหน้าที่สังหารลูกจุดโทษด้วย'

'ดังนั้นผมสามารถพูดได้ว่า เลวานดอฟสกี้ จะยิงอย่างน้อย 41 ประตูในฤดูกาลนี้และทำลายสถิติของ มุลเลอร์' 

แอร์เบ ไลป์ซิก มีส่วนร่วมกับการลุ้นแย่งแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่นนี้ คุณคิดว่าพวกเขาจะก้าวทัน บาเยิร์น ได้อย่างไร?

'นักเตะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรามักจะพูดว่า บาเยิร์น มี เลวานดอฟสกี้ และ นอยเออร์ แต่ ไลป์ซิก นำผู้เล่นต่างชาติเข้ามา มีนักเตะเยอรมันน้อยมากในขุมกำลังตัวจริง แต่พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นผู้เล่นที่สร้างผลกระทบได้เช่นกัน อย่าง วิลลี่ ออร์บัน หรือ โดมินิค โซบอสซไล จากฮังการี, มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จากออสเตรีย, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก จากสวีเดน, ยูฟซุฟ โพลเซ่น จากเดนมาร์ก และกลุ่มนักเตะฝรั่งเศส นั่นคือคุณภาพระดับสูงที่นั่น'

'พวกเขามีโค้ชที่ทะเยอทะยาน พวกเขามีระบบที่แตกต่างกันที่พวกเขาสามารถเล่นได้ทั้งการป้องกันและเกมรุก นั่นเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมและทำงานอย่างเต็มกำลัง ผนวกกับพวกเขามีขุมกำลังสำรองที่แข็งแกร่งในเชิงลึกดีกว่า บาเยิร์น, ไลป์ซิก เริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและแข่งขันเพื่อตำแหน่งแชมป์ รวมถึงความท้าทายอื่นๆของพวกเขาด้วย'

'ไลป์ซิก สมควรอยู่ในตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ในลีก, อันดับสองรองจาก บาเยิร์น และถ้าคุณกล้าได้กล้าเสีย คุณสามารถประเมินได้ว่าหากพวกเขาชนะ 9 เกมถัดไป พวกเขาจะเป็นแชมป์ พวกเขามีเกมกับ บาเยิร์น และตามหลังเพียง 4 คะแนน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชนะทั้ง 9 นัด แต่พวกเขาเป็นคู่แข่งที่แท้จริงและ บาเยิร์น ทราบเรื่องนั้นดี'

อะไรเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันแย่งตำแหน่งแชมป์ซีซั่นนี้จนยืดเยื้อไปจนจบฤดูกาล?

'ผมลืมพูดไปก่อนหน้านี้ ไลป์ซิก ยังมีผลงานจากซีซั่นที่แล้ว พวกเขาเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศของศึก เดเอฟเบ คัพ (ปี 2019) และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเป็นสิ่งสำคัญทางจิตใจสำหรับนักเตะที่จะประสบความสำเร็จแบบนั้น พวกเขายังไม่เคยคว้าแชมป์ แต่การไปถึงระดบเหล่านั้น สำหรับสโมสรพลังหนุ่มเช่นนี้จะต้องทำให้ผู้เล่นมีความมั่นใจในตัวเอง'

'เราอยู่ใกล้ บาเยิร์น มาก เราแพ้ในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบตัดเชือกต่อ ปารีส ไม่ใช่ บาเยิร์น แต่ถ้าพวกเขาคว้าแชมป์นั้นและรายการ เยอรมัน คัพ และเราขยับเข้าใกล้พวกเขา ผมเชื่อว่า ไลป์ซิก มีคุณภาพระดับสูงสุดและผลลัพธ์เหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นทุกคนแข็งแกร่งขึ้น'

มีโอกาสที่จะโค่น บาเยิร์น หรือไม่?

'ใช่ มีโอกาสอยู่ที่นั่น ไลป์ซิก ไม่สามารถก่อความผิดพลาดใดๆได้ พวกเขาจัดการกับทีมแสบอย่าง ไฟร์บวร์ก ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นทีมที่สร้างความยากลำบากให้กับชีวิตของพวกเขามาก และทำให้พวกเขาต้องเสียคะแนน สิ่งสำคัญคือคุณต้องการเอาชนะทีมอย่าง บาเยิร์น ในลีก คุณมีโอกาสเผชิญหน้ากับพวกเขาในหนึ่งเกม แต่ลีกยังอีกยาวไกล'

'เมื่อคุณต้องการเอาชนะมัน คุณต้องบีบช่องว่างเพื่อกดดัน บาเยิร์น พวกเขาเสียสองคะแนนในเกมกับ บีเลเฟลด์ (เสมอ 3-3) แต่พวกเขาเพิ่งกลับมาจากรายการ คลับ เวิลด์ คัพ ที่โดฮาร์ การปราชัยต่อ แฟร้งค์เฟิร์ต สามารถเกิดขึ้นได้จากแนวทางการเล่นของพวกเขา คุณต้องพร้อมที่จะฉกฉวยและ ไลป์ซิก มีโอกาส พวกเขามีช่วงเวลาที่ บาเยิร์น เก็บได้เพียงหนึ่งคะแนนจาก 2 เกม ขณะที่ ไลป์ซิก เก็บ 6 แต้ม นั่นคือประเด็นที่ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ตระหนักว่าพวกเขามีคู่แข่ง'

'มันยอดเยี่ยมมากสำหรับบุนเดสลีกาและแฟนๆ ที่เรามีการแข่งขันแย่งคำแหน่งแชมป์และผมเชื่อว่าเนื่องจากคุณภาพที่ ไลป์ซิก นำมา ไม่แค่เฉพาะตัวจริงแต่ยังรวมถึงขุมกำลังสำรองด้วย พวกเขาเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงของสโมสรใหญ่อื่นๆสำหรับการลุ้นแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก'

'แต่พวกเขายังสามารถสั่นคลอนบัลลังก์ของ บาเยิร์น ได้อีกด้วย ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ จะย้ายจาก ไลป์ซิก ไป บาเยิร์น ซึ่งมักจะเป็นเช่นนั้น แต่ บาเยิร์น จะเลือกผู้เล่นจากที่ไหนล่ะ? ถ้าไม่ใช่จากคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่สุดในบุนเดสลีกของพวกเขา มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ดีขึ้น มันเป็นสถานการณ์ 'วิน-วิน' สำหรับ บาเยิร์น เนื่องจากพวกเขาไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งด้วยผู้เล่นยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังทำให้คู่แข่งสำคัญของพวกเขาอ่อนแอลงด้วย'

ตอนนี้ในบุนเดสลีกามีผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมหลายคนทั้ง มานูเอล นอยเออร์, ปีเตอร์ กูลาชชี่, ยานน์ ซอมเมอร์ และ ลูคัส ฮราเดชกี้ ใครทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นมากที่สุด? 

'ถ้าผมต้องเลือกจา 4 คนนี้ ผมจะเลือก นอยเออร์ ถ้าผมมี มานูเอล นอยเออร์ อยู่ในทีมผม ผมไม่ต้องการอีกสามคนที่เหลือ มันเหมือนกับ โอลิเวอร์ คาห์น ในอดีต มันจะไม่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด มานูเอล ดีที่สุดและคนอื่นๆก็รู้เช่นกัน ไม่มีความลับและไม่มีอะไรต่อต้านคนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้ทีมของพวกเขาคว้าชัยชนะมากมาย ได้รับคะแนนจำนวนมากจากการเซฟที่ยอดเยี่ยม'

'แต่เมื่อมี มานูเอล นอยเออร์ อยู่ข้างหลังคุณ คล้ายกับ โอลิเวอร์ คาห์น คุณรู้ในฐานะผู้เล่นเกมป้องกันว่าถ้าคุณก่อความผิดพลาด เขามีแนวโน้มที่จะช่วยคุณได้ ตอนนี้เขาอาจเสียประตูจำนวนมาก แต่ยังสร้างผลงานระดับ 'เวิลด์-คลาส' มันขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของ บาเยิร์น ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ นอยเออร์ ยังไม่สามารถหยุดการเสีย 35 ประตูที่พวกเขาเสียมาจนถึงปัจจุบัน'

คุณคิดถึงอะไรเมื่อคุณเห็น อัลฟอนโซ่ เดวิส?

'ความเร็วสูง, นักเตะอายุน้อยที่ถูกย้ายจากตัวรุกถอยลงต่ำและทำได้ดีในสนาม เหมือนกับตอนที่ผมอยู่ที่ มึนเช่นกลัดบัค ในปี 1979 โอเค, ผมอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 หรือ 4 แต่ผมเปลี่ยนจากศูนย์หน้ามาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับในทันที มันง่ายกว่าสำหรับผู้เล่นอายุน้อยเพราะคุณสามารถตอบสนองได้เมื่อคุณมีความเร็วขนาดนั้น'

'อัลฟอนโซ่ เดวิส มีปัญหาเรื่องแท็คติก เขาไม่ใช่อยู่ในตำแหน่งเสมอไป เขาจะไม่เล่นในสนามด้วยความสมบูรณ์แบบเสมอไป เหมือน ดาวิด อลาบา และ โยชัว คิมมิค ที่ในช่วง 3 หรือ 4 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเขายังมีข้อได้เปรียบอย่างมาก เมื่อเขาทำผิดพลาดหรืออยู่ผิดตำแหน่ง เขาเร็วมากจนกำจัดความผิดพลาดด้วยความเร็วของเขา'

'ประมาณ 18 เดือนที่แล้ว ผมอยู่ในการทัวร์อเมริกาตอนที่ บาเยิร์น เล่นกับ เอซี มิลาน และ เดวิส ยังไม่ได้ลงหลักปักฐานในตอนนั้น เขาส่งบอลผิดพลาด 3 ครั้งในครึ่งแรก ทั้งหมดในการเล่นแบบต่อเนื่องในระยะหนึ่งช่วงตัวของเขา แต่เขาวิ่งไล่ตามบอลด้วยความเร็วของเขา มันใช้ไม่ได้กับทุกสถานการณ์หรือทุกเกม'

'แต่เขาพัฒนาขึ้นในการสร้างการเล่นของเขา เขาไม่ได้ส่งบอลให้คู่แข่งโดยตรงอีกต่อไป เขากำลังเรียนรู้และผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับผู้เล่นอายุน้อยที่จะเรียนรู้จากสิ่งนี้และสร้างมันขึ้นมา'

'เขาเป็นทรัพย์สินสำหรับบุนเดสลีกา เขามีปีที่ยอดเยี่ยม จากคนไร้ตัวตนเป็นผู้ชนะ 'ทริเปิ้ลแชมป์' และติดทีมยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนส์ลีก เขาทำได้จากฟอร์มการเล่นในฐานะแบ็กซ้าย ไม่ใช่แค่การเล่นเกมรับเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการเล่นเกมรุกเพราะเขาสร้างแรงกดดันมากมาย นี่เป็นประสบการณ์ของเขาในฐานะตัวรุก ซึ่งเขานำมาสู่เกมในตำแหน่งใหม่ของเขา'

'มันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำเพราะมันเป็นสไตล์ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่จะมีผู้เล่นวิงแบ็กเหล่านี้ ก่อน เดวิส มันเป็น อลาบา และ คิมมิค อีกฟากหนึ่งของสนาม ตอนนี้เป็น ปาวาร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพราะเขามีความสามารถในการเล่นเกมป้องกันจากประสบการณ์ของเขากับทีมชาติฝรั่งเศส'

'แต่คุณคาดหวังว่า คิมมิค และ อลาบา จะก้าวไปข้างหน้าในฐานะปีก คิมมิค ยังทำแอสซิสต์จำนวนมาก เดวิส เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ทางฝั่งซ้ายด้วยความเร็วของเขา แต่เขาทำได้ไม่ดีนักกับการเปิดบอลของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอย่าง ฟิลิป คอสติช (แฟร้งค์เฟิร์ต) หรือการจบสกอร์ของเขาเมื่อเทียบกับ อังเคลินโญ่ (แอร์เบ ไลป์ซิก)'

'เขาต้องการเวลามากกว่านี้ แต่เขาเพิ่งอายุ 20 ปี คุณไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากกว่านี้จากเด็กอายุ 20 ปี เขาจะพัฒนาขึ้น เขาจะเปิดบอลได้ดีขึ้น เขาจะทำประตูบ่อยขึ้น เขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมและมีความสามารถที่พระเจ้ามอบให้กับความเร็วของเขา'