:::     :::

ผลงานต่อจากนี้ ...

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2560 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
4,618
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยลง เตี้ยงลง สาละวันเตี้ยลง

จะอะไรสักอีกล่ะก็ผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านน่ะสิ ที่มีแต่ถอยหลังเข้าคลอง ทำเอาแฟนบอลส่ายหัวและผิดหวังแทบทุกสัปดาห์

จากทีมที่แนวรุกดุดันในช่วงต้นฤดูกาล บุกกดดันคู่แข่งชนิดที่พายุยังเรียกพี่ จังหวะจบคมกริบ และยิงฝ่ายตรงข้ามแบบกระจุยกระจาย แต่ดูตอนนี้สิ 'ฝืดซะไม่มี'

ถือเป็นปัญหาใหญ่และเรื่องสำคัญของทีมลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะในลีกอังกฤษ ที่แนวรุกถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพาทีมคว้าชัยและ 3 คะแนน

ย้อนกลับไปในอดีต แดนหน้า (รวมไปถึงแนวรุกตำแหน่งอื่นๆ) ของปิศาจแดง จะดุดันและเล่นได้อย่างมันเท้า กดดันคู่แข่งอย่างเมามัน มีบ้างที่ฝืดเคืองหรือติดๆขัดๆ แต่ท้ายที่สุดก็ยังเอาตัวรอดออกมาได้

ยิ่งฟุตบอลพัฒนาไปมากกว่าเมื่อก่อน ทีมเล็กๆต่างดีดตัวเองให้ก้าวขึ้นมาอีกขั้น บางทีมที่เคยเป็นหมูในอวย กลับกลายสภาพเป็นหมูเขี้ยวตัน พร้อมแว้งกันทีมใหญ่ๆ

ตัวอย่างที่ว่าเห็นได้ชัดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงหลัง เพราะเมื่อก่อนเจอทีมระดับล่างหรืออันดับต่ำกว่าครึ่งตาราง พลพรรคผีแดงมักจะเก็บชัยตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม

เหมือนอย่างที่ รอย คีน เคยออกมาแซะทีมเก่านั่นแหละว่า มนต์เสน่ห์ ของ ปิศาจแดง นับวันยิ่งหายไป

จากทีมที่เคยแข็งแกร่ง, ดุดัน และเป็นที่เกรงกลัวของผู้มาเยือน ทว่าทุกวันนี้สิ่งต่างๆเหล่านั้นจางหายไปแล้ว และไม่มีทีมไหนรู้สึกพรั่นพรึงยามที่ต้องเดินลงสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด



'คีโน่' เคยบอกด้วยว่า จากประสบการณ์ของตนที่เคยนำลูกทีม ยูไนเต็ด ลงสนามในฐานะกัปตันทีม บ่อยครั้งเขาจะเห็นสายตาอันสิ้นหวังของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนั่นป็นสัญญาณที่ส่งออกมา และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเขาเอง

แต่ตอนนี้นี่สิ สิ่งเหล่านั้นจางหายไป ความเข้มขลังและมนต์เสน่ห์ เหล่านั้นค่อยๆเลือนลางไปอย่างช้าๆ

แม้ว่า 3 นัดที่ผ่านมา (เสมอรวดทั้งหมด) รูปเกมของ ปิศาจแดง จะดีกว่า (ไม่มากก็น้อยตามสถานการณ์) แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคงหนีไม่พ้น แดนหน้า (แนวรุก) ที่เล่นกันผิดฟอร์มแทบทุกราย

มันเกิดอะไรขึ้น? จากทีมที่เคยกระหน่ำไล่กระทืบแนวรับคู่แข่ง กลับกลายต้องมาเจอปัญหาในการสอยตาข่ายฝ่ายตรงข้าม

อย่างที่เคยเรียนไปนั่นไง โรเมลู ลูกากู คือเป้าโจมตีเบอร์ 1 ที่หลีกหนีไม่พ้นกับคำวิจารณ์ที่พุ่งออกจากรูปากแฟนบอลและนักวิจารณ์ อาจจะรวมไปถึง เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ฟอร์มตกแบบน่าเกลียด ทั้งที่ต้นซีซั่นทั้งส่งทั้งจ่ายเป็นว่าเล่น

มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ไม่เว้น แม้จะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของทีมลูกกรอกคะนอง แต่ผลงานที่แสดงออกมาในช่วงหลังก็ทำให้โดนด่าไปเยอะ

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ถูกคาดหมายว่าจะกลับมาเติมเต็มในแนวรุกก็ยังไม่เข้าฝัก แถมล่าสุด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกมาเปิดเผยด้วยว่า 'เฮียหลา' จะหายหน้าไปอีก 1 เดือน

คงไม่แปลกหากจะบอกว่านี่คือ 'ปัญหาในแดนหน้า' จะว่าไปอาจจะใช้คำว่า 'วิกฤติ' เลยก็ได้ แม้ก่อนเกมเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 ทีมจะยิงคู่แข่งได้ตลอด แต่หากดูจากรายละเอียดแล้วทุกคนคงเห็นภาพรวมที่ชัดเจน




การเข้าทำที่ติดขัด - การสร้างโอกาสที่ดูจะขาดๆเกินๆ - การประสานงานที่ไม่ลงตัว หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ความลื่นไหลของบรรดาแนวรุกติดขัด 

หรืออาจจะเป็นเรื่องของ 'ควาเหนื่อยล้าสะสม' ตามที่ มูรินโญ่ ชอบออกมาให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยๆในช่วงหลัง

หากดูจากโปรแกรมการลงสนามที่ผ่านมา ก็อาจจะมีส่วนและเป็นเหตุผลรองรับ แต่ถ้าเราไปดูคู่แข่งแล้วล่ะก็ พวกเขาเหล่านั้นก็ลงสนามเกือบจะเท่ากัน แต่ทำไมยังยิงได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เขลซี หรือ ลิเวอร์พูล

มันทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆว่า แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับแดนหน้าของ ปิศาจแดง - ซึ่งจะให้พูดตรงๆและเข้าใจง่ายๆก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ 'ฟอร์ม' ที่นัดกันหล่นวูบกันทุกราย

คนที่ปวดหัวกว่าแฟนบอลคงหนีไม่พ้น โชเซ่ มูรินโญ่ แม้ว่าต่อหน้าสื่อเขายังคงปากแข็งและยืนยันว่าทีมยังคงเล่นได้ดี แต่เชื่อเถอะว่าในใจลึกๆแล้ว มูรินโญ่ กำลังร้อนใจและไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ยิ่งนัดต่อไปทีมจะไม่มีสองกองหน้าตัวเป้าทั้ง ลูกากู และ ซลาตัน ที่บาดเจ็บ ทำให้เขาต้องอาจจะเลือกหุบ แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล คนใดคนหนึ่งเข้ามายืนเป็นกองหน้าตัวกลาง



ทางเลือกอื่นๆ มีอีกหรือไม่?

ก็พอจะมี ในการดันดาวรุ่งขึ้นมา ชื่อของ เจมส์ วิลสัน อาจจะโผล่ขึ้นมาก็เป็นไปได้ หรืออย่าง อังเคล โกเมส (แม้ตามตำแหน่งจะเป็นเพลย์เมกเกอร์) ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์อีกครั้ง 

กับผลงานที่ตกลงมา แม้จะไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่ผลเสมอ 3 นัดติดต่อกันก็ทำให้แฟนบอลไม่พอใจอย่างมาก เพราะอย่าลืมว่า 2 ใน 3 คือการเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แถมเกมออกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เหลือ 10 คน กลับมาโดนตีเสมอในนาทีสุดท้าย

ความผิดหวังเริ่มก่อตัว ไม่แปลกที่จะมีเสียงบ่นออกจากแฟนบอล หรือเสียงโห่ที่ดังระงม โรงละครแห่งความฝัน หลังจบเกมนัดล่าสุด

นัดต่อไปต้องออกไปเยือนในแถบ เมอร์ซี่ย์ไซด์ ซึ่งถือเป็นงานหนักเพราะ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การนำของ แซม อัลลาไดซ์ จะเป็นทีมที่เล่นด้วยยากอย่างแน่นอน

กับสภาพทีมที่พิการ (อีกแล้ว) แถมผลงานก็ยังดิ่งเหว ทำให้ มูรินโญ่ ต้องเจองานหนักแบบไม่ต้องสงสัย

3 คะแนน คือสิ่งที่แฟนบอลคาดหวัง แม้จะออกไปเยือน แต่ผลลัพธ์ที่พวกเขาอยากได้คือชัยชนะ

เหมือนกับทางแยกของการเดินทาง หากทีมสามารถบุกคว้าชัยที่ กูดิสัน พาร์ค ต่อด้วยการตบเท้าเข้ารอบ เอฟเอ คัพ ที่จะลงสนามในวันศุกร์ที่กำลังจะถึงนี้กับ ดาร์บี้ อะไรๆก็คงจะดีขึ้นมา (พอสมควร)

แต่ถ้ายังคงตุปัดตุเป๋ ไม่เป็นท่าต่อไป เชื่อขนมกินได้เลยว่า เสียงวิจารณ์จะถาโถมและรุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})