:::     :::

'เบ็คแฮมของทีมม้าขาว' บอร์นา โซซ่า

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,940
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บอร์น่า โซซ่า แบ็กซ้ายของ สตุ๊ตการ์ท ที่ถูก สเวน มิสลินทาต ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีมม้าขาวนำไปเปรียบเทียบกับ เดวิด เบ็คแฮม ตำนานลูกหนังชาวอังกฤษโดยเฉพาะการเปิดบอลจากริมเส้น

บอร์น่า โซซ่า แบ็กซ้ายชาวโครแอตวัย 23 ปีของ สตุ๊ตการ์ท เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จและถูกจับตามองในซีซั่นนี้จากผลงานคงเส้นคงวาของเขาและการเติมเกมรุกทางกราบซ้ายจนช่วยทีมม้าขายปรับสถานะจากทีมที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นขึ้นมาเป็นสโมสรที่ลุ้นแย่งตั๋วเล่นฟุตบอลยุโรป

โซซ่า ย้ายจาก ดินาโม ซาเกร็บ มาค้าแข้งกับ สตุ๊ตการ์ท ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เขาใช้เวลาปรับตัวและเรียนรู้ในช่วง 2 ปีแรกจนกระทั่งก้าวขึ้นมาสร้างความโดดเด่นในฤดูกาลนี้ภายใต้การทำงานร่วมกับ เปลเลกรีโน่ มาตาราซโซ่ เทรนเนอร์ชาวมะกันวัย 43 ปี รวมถึงการประสานงานกับ ซาช่า คาลาดชิช หัวหอกหุ่นเสาโทรเลขเชื้อสายเซิร์บวัย 23 ปี 


ทุกคนต่างพูดถึงและชื่นชมฟุตบอลที่น่าดึงดูดของ สตุ๊ตการ์ท ที่กำลังเล่นอยู่ในขณะนี้ คุณคิดอย่างไรกับมัน?


'เรามักจะได้รับคำชมสำหรับการเล่นของเราจากนักเตะคู่แข่งจำนวนมากหลังจบเกม พวกเขาบอกว่าเราเล่นได้ดีมาก เรายังได้รับคำชมจากนักเตะ บาเยิร์น มิวนิค ว่าเราเล่นได้ดีมากและเราควรจะรักษามันไว้ต่อไป'

'เมื่อคุณได้ยินสิ่งนั้นจากฝ่ายตรงข้าม คุณจะรู้ว่าคุณทำผลงานได้ดีและเล่นดีจริงๆ อาจจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับบางคน, นักเตะ, โค้ช เพราะไม่มีใครคาดคิดถึงสิ่งนั้นจากเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามาจากลีกาสอง เราเล่นอย่างดุดัน, มีความเสี่ยงมากและกลับมาอยู่ในสถานการณ์แบบตัวต่อตัว'

'สำหรับผม มันเป็นสไตล์ฟุตบอลที่ทันสมัยมากในเวลานี้ ผมคิดว่าเรามาถูกทางแล้วและท้ายที่สุดผลการแข่งขันเป็นหลักฐานดีที่สุดของเรื่องนั้น'

อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จหลังเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกาสอง?

'หนึ่งในเหตุผลคือไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ผมไม่อยากจะบอกว่าหลายทีมประเมินเราต่ำเกินไปในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่พวกเขาคิดว่ามันจะไม่ยากในการเผชิญหน้ากับพวกเราอย่างที่เป็นจริงแน่นอน'

'จากนั้นเราโค่น ดอร์ทมุนด์ 5-1 ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นถ้าเราเล่นกับพวกเขาเร็วๆนี้ นั่นคือเหตุผลที่แน่นอนว่าทำไมเราถึงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้ดี เพราะเรามีนักเตะอายุน้อยจำนวนมากที่ไม่มีใครให้เกียรติใครและใครก็ตามที่เพิ่งไปหามันราวกับว่าพวกเขาถูกปลดสายจูงเพราะพวกเขามีพลังงานมหาศาล พวกเขาต้องการพิสูจน์ตัวเอง พวกเขาต้องการแสดงตัวพวกเขา'

'รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ผสมผสานกับเทรนเนอร์หนุ่มที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองที่ต้องการถ่ายทอดความคิดทั้งหมดของเขาให้เรา และทั้งหมดนั้นเข้ากันได้ดีและกลายเป็นสิ่งที่เรามีในตอนนี้'

คุณมีความสุขแค่ไหนกับพัฒนาการของคุณในทีมนี้?

'ผมคิดอะไรไม่ออกตอนนี้ ผมไม่ควรยินดีกับมันด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผมในระบบ 3-5-2 ซึ่งผมไม่เคยเล่นมาก่อน แต่ตอนนี้ผ่านมา 2 ปีและมันไม่ใช่ปัญหาของผมอีกต่อไป'

'โดยรวมแล้วผมคิดว่าผมมาถึงในระดับของสโมสรนี้ ซึ่งผมกลายเป็นส่วนสำคัญของทีม มีนักเตะหลายคนอยู่ในทีมที่ลงเล่นตัวจริงสม่ำเสมอและนั่นเป็นเรื่องที่ดีมากเมื่อคุณประสบความสำเร็จในสถานะดังกล่าวที่สโมสร และนั่นเป็นย่างก้าวที่ยิ่งใหญ่แน่นอน นั่นเป็นกรณีของ (สโมสรเก่า) ดินาโม ซาเกร็บ จากนั้นผมไม่มีมันมา 2 ปี แต่ตอนนี้ผมสนุกกับสถานการณ์ที่นี่'

กับการทำ 8 แอสซิสต์ทำให้คุณเป็นหนึ่งในนักเตะผู้เล่นดีสุดของลีก คุณทำถึง 7 แอสซิสต์จาก 9 เกมหลัง คุณประหลาดใจกับตัวเลขเหล่านี้และความโดดเด่นของคุณหรือไม่?

'ผมจะบอกว่าผมไม่แปลกใจกับจำนวนแอสซิสต์เลยเพราะพวกมันเป็นส่วนสำคัญในเกมของผมตลอดอาชีพผม ผมมีมันใจฤดูกาลที่แล้วและซีซั่นนี้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าคุณสามารถพูดได้ว่าผมสามารถทำได้มากกว่านี้ในซีซั่นนี้ แต่ผมไม่ได้โชคดีในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลเหมือนที่ผมมีในตอนนี้'

'บ่อยครั้งที่บอลชนคานหรือผู้รักษาประตูเซฟได้ดีและอื่นๆ มันโชคร้ายจริงๆที่ผมไม่มีแอสซิสต์มากกว่านี้ แต่ตอนนี้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล เขื่อนแตกแล้วและทันใดนั้นผมทำ 7 แอสซิสต์ในการลงเล่น 9 นัด ผมมีความสุขกับเรื่องนี้แน่นอนและมันเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้เสมอว่าจะต้องช่วยแอสซิสต์ให้มากสุดเท่าที่สามารถทำได้เพื่อช่วยทีม'

วิธีที่คุณและ ซาช่า คาลาดชิช ทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง เหตุใดมันจึงได้ผลดี?

'ผมคิดว่า ซาช่า เป็นคนฉลาดมากและในฤดูกาลที่แล้วเขาได้ดูว่า มาริโอ โกเมซ กับผมทำงานร่วมกันอย่างไร หรือ นิโกลัส กอนซาเลซ และผมทำอย่างไร และเขาเรียนรู้จากมันและพบวิธีการปรับตัวเอง เขากับผมคุยกันบ่อยมากเพราะในช่วงแรกของการสร้างปฎิสัมพันธ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นั่นมาพร้อมกับเวลา คุณต้องทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีมและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องใช้เวลาร่วมกันสักพักในการทำความคุ้นเคยกัน แต่ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าพวกเราทำได้ดีแค่ไหนและทำให้ทีมเก็บคะแนนมากมาย นั่นเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับเรา ผมคิดว่าทุกอย่างได้ผลดีอย่างที่เราต้องการทำมัน'

อะไรเป็นจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ?

'เท่าที่ผมจำได้จุดแข็งของผมมาตลอดคือความเร็วและเท้าซ้ายของผม ไม่ใช่แค่การเปิดบอล แต่โดยทั่วไป การผ่านบอล, การยิงประตู, ฟรีคิก, เตะมุม และอื่นๆ ไม่ว่ากับทีมใดที่ผมลงเล่น ผมเป็นนักเตะเร็วที่สุดในการทดสอบ นี่เป็นกรณีนี้เช่นเดียวกับที่นี่ใน สตุ๊ตการ์ท ดังนั้นผมจะแยกสิ่งเหล่านี้ออกมาเป็นจุดแข็งของผม'

'สิ่งที่คุณอาจเรียกว่าจุดอ่อน ผมจะไม่บอกว่ามันเป็นจุดอ่อน แต่เพราะผมไม่ได้ทำมันมากนักคือการเล่นเกมป้องกัน เพราะผมเติบโตมาจากการเล่นฟุตบอลที่ ดินาโม และเรามักจะเล่นเกมรุก, คว้าชัยชนะเสมอ ในทุกเกม ดังนั้นคุณจะมีงานป้องกันน้อยลงโดยอัตโนมัติ แต่ผมอยู่ที่นี่มา 3 ปีแล้ว ซึ่งมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงและผมได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นในส่วนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผม แต่ถ้าคุณถามผมเกี่ยวกับแคแร็กเตอร์ของผม มันคือความเร็วและเท้าซ้าย'

สเวน มิสลินทาต ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ สตุ๊ตการ์ท เปรียบเทียบคุณกับ เดวิด เบ็คแฮม คุณเห็นด้วยหรือไม่?

'ผมยากสำหรับผมตอนนี้ที่ผมจะบอกว่าผมเห็นด้วยเพราะ เดวิด เบ็คแฮม มีอาชีพค้าแข้งที่น่าทึ่งและวิธีที่เขาทำ มันยากที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับตำนานฟุตบอล แต่มันดีที่ได้ยินอะไรแบบนั้น มันเป็นเรื่องปกติ และเรามีอะไรที่คล้ายกันในการเปิดบอลของเราหรือไม่? พวกเราทำ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้ ไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ ผมชอบที่จะได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ แต่ผมยังไม่อยากเปรียบเทียบตัวเองกับเขาเพราะเขาเป็นตำนานฟุตบอลและผมยังมีเส้นทางอีกยาวไกล แต่มันดีสำหรับผมที่ได้ยินอะไรแบบนั้น'

ใครเป็นไอดอลฟุตบอลของคุณ?

'ไอดอล? ตอนที่ผมยังเด็ก ดาวิด อลาบา เป็นไอดอลของผม ผมเคยพูดในบทสัมภาษณ์ของผมเมื่อ 10 ปีก่อน ดาวิด อลาบา เป็นนักเตะที่ผมชอบมากสุดในตำแหน่งของผม เพราะในตอนนั้นเขาเล่นแบ็กซ้าย วันนี้เขาเล่นเซนเตอร์แบ็ก เขาเป็นนักเตะคนโปรดในตำแหน่งของผม แต่โดยรวมแล้วไอดอลของผมคือ ลิโอเนล เมสซี่'

เมื่อคุณเผชิญหน้ากับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในฐานะคู่แข่ง คุณคิดอย่างไร? เหตุใดจึงเป็นเรื่องยากในการป้องกันเขา?

'บอกตามตรง มันไม่ยากในการป้องกันเท่าที่เขาเป็นในตอนนี้ นักเตะทุกคนมีโอกาสครั้งเดียว, ครึ่งโอกาสหรือน้อยกว่านั้นในเกม ซึ่งเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน สิ่งนี้คือเขาใช้ทุกโอกาสและคุณไม่สามารถควบคุมสิ่งนั้นได้ โอกาสมีอยู่เสมอ ไม่มีเกมในที่ไม่มีโอกาสทำประตู'

'แต่เขาแค่ใช้ทุกโอกาสที่เขาได้รับ แม้ไม่ใช่ทุกครั้ง แต่มีเปอร์เซ็นต์สูงกับโอกาสเหล่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกันเขาออกไปเพราะเขามีโอกาสที่ดีเกินไปในการเปลี่ยนเป็นสกอร์ และเมื่อเขามีวันของเขา ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ เลโอ เมสซี่ สิ่งที่คุณทำได้คือการภาวนาว่ามันจะไม่เป็นวันของเขา เพราะถ้ามันเป็นวันของเขา มันคงไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้'

'และมันก็เหมือนกับ เลวานดอฟสกี้ ถ้าเขาเข้าฝัก ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ และผมคิดว่ามันเป็นความจริงเพราะเมื่อผมมองไปที่เกมของ (บาเยิร์น) กับ ดอร์ทมุนด์ เขาทำประตูจากโอกาสครึ่งหนึ่ง นั่นคือความแตกต่างระหว่างเขากับกองหน้าคนอื่นๆ และทำไมเขาถึงเป็นอันดับ 1 และคนอื่นๆไม่ใช่'

คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของ สตุ๊ตการ์ท ในฐานะสโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่เวทีบุนเดสลีกา ซึ่งอยู่ห่างจากการลุ้นหนีตกชั้นและอยู่ในระยะที่ลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป สิ่งที่เป็นไปได้? มีเป้าหมายอย่างไร?

'แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเราจะพบตัวเราเองอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และมันเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับผู้คนจำนวนมาก ผมคิดว่าคงไม่มีใครคิดฝันว่าเราจะได้พูดถึงฟุตบอลยุโรป ซึ่งตอนนี้เราสามารถพูดถึงมันได้จริงๆ'

'ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเราและเราไม่มีความกดดันเพราะเรื่องนี้ แต่เราทุกคนมีความสุขมากๆที่เราอยู่ในตำแหน่งที่จะต่อสู้เพื่อพื้นที่ยุโรปทั้งหมด เพราะเรามีเกมยากรออยู่ข้างหน้าเราในตอนนี้กับบรรดาทีมที่อยู่ข้างหน้าเราในตาราง (ดอร์ทมุนด์, อูนิโอน เบอร์ลิน, โวล์ฟสบวร์ก และ ไลป์ซิก) ทุกคะแนนมีความหมายสำหรับเรา แต่ทั้งหมดนี้จะเป็นโบนัสจากสิ่งที่เราประสบความสำเร็จในตอนนี้'


'ผมไม่ได้พูดว่าเราไม่สามารถเก็บคะแนนจากทีมเหล่านี้ แต่ในแง่ของความเป็นจริงมีโอกาสที่เราจะไม่ได้คะแนนเลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่ต้องให้ความสำคัญกับการเล่นฟุตบอลยุโรปเลยเพราะบางครั้งคุณไม่ควรมองหาขนมปังเมื่อคุณมีขนมอยู่แล้ว'

'6 เดือนที่แล้วเราต้องการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและตอนนี้เป็นยุโรป? ถ้าอย่างนั้นเราจะเป็นพวกเสแสร้ง ผมคิดว่าเราทุกคนมีความสุขที่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้พวกเรารู้สึกกดดันแต่อย่างใด'

ปัจจุบัน สตุ๊ตการ์ท อยู่อันดับ 9 ของบุนเดสลีกา มี 36 คะแนนจากการลงเล่น 26 เกม ห่างจาก โคโลญจน์ ทีมอันดับ 16 ซึ่งอยู่ในโซนเพลย์ออฟตกชั้น-เลื่อนชั้นถึง 13 คะแนน และตามหลังอันดับ 6 เลเวอร์คูเซ่น เจ้าของโควตายูโรปาลีกใบสุดท้ายเพียง 4 คะแนน โดยเหลือโปรแกรมลงเตะอีก 8 เกมในฤดูกาลนี้ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด