ถาม : ขอเราเริ่มต้นถามคำถามคุณแบบติดตลกก่อนได้มั๊ย ? คุณเป็นยังไงบ้างกับกฏล้ำหน้าที่ทำให้คุณต้องพลาดการได้ประตูไปมากมายในฤดูกาลนี้  คุณกำลังต่อสู้กับมันอยู่ในหรือเปล่า ?  

โมราต้า : มันเป็นจังหวะการเล่นที่ว่ากันในเรื่องของตำแหน่ง เพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร ผมได้ยินมาว่าหากต่ำกว่านี้สัก 2-3 เซนฯ พวกเขาก็คงให้ประตูกับผมไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง ระยะแค่ 2-3 เซนติเมตรนั้น มันไม่ข่วยให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบอะไรเลย แต่มันก็เปล่าประโยชน์ที่จะบ่น สิ่งที่ทำได้คือทำให้ดีกว่าเดิม พยายามอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย 

ถาม : คุณจะพัฒนาจุดนี้ได้ยังไง ?

โมราต้า : ก็คงจะต้องออกตัวทีหลัง ซึ่งมันยากมากเพราะบางครั้งเท้าคุณ หรือบางทีก็หัวไหล่คุณอาจจะล้ำอยู่ ผมเข้าใจนะถ้าล้ำช่วงขา แต่บางทีแค่เล็บมือเท่านั้นที่อยู่เหนือกว่า ซึ่งมันไม่ใช่ข้อได้เปรียบอะไรเลย 

ถาม : ตอนนี้เส้นทางค้าแข้งของคุณอยู่ในช่วงเวลาแบบไหน ?

โมราต้า : ผมเติบโตขึ้นมาก เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการเล่นเป็นทีม ผมยิงไป 16 ประตู และทำไปอีก 11 แอสซิสต์ ซึ่งผมไม่เคยทำแอสซิสต์ได้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย เหตุผลมาจากผมปรับตัวเข้ากับการเล่นของผู้เล่นเก่งๆของ ยูเวนตุส ได้ดี  

ถาม : แสดงว่าเราอยู่กับ โมราต้า ที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วใช่มั๊ย ?

โมราต้า : แน่นอนที่สุด มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่การทำงานของเรา เรามักจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวในวัย 35-36 ซึ่งคุณแทบไม่มีพลังในการเล่นแล้ว ถ้าพวกเขาให้คุณลงเล่นตั้งแต่อายุ 18 แต่คุณมีความคิดของคนอายุ 35 แบบนั้นมันคงจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ  สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจก็คือการได้เห็นนักเตะหนุ่มแบบนี้ ได้เห็นพวกเขาลงเล่น ฝึกซ้อมแบบพวกจอมเก๋า ผมมองเห็นความแตกต่างตรงจุดนี้อย่างชัดเจนในตอนที่ผมอายุน้อยๆ 

ถาม : คุณพยายามที่จะเอ่ยถึงใครเป็นพิเศษหรือเปล่า ?

โมราต้า : ยกตัวอย่างเช่นตอนคุณเห็นนักเตะอย่าง เปดรี ลงฝึกซ้อม มันทำให้คุณทึ่ง ความสามารถในการมุ่งสมาธิฝึกซ้อมของเขา  คุณจะเห็นได้ว่าเขาต้องการสร้างประวัติศาสตร์ แล้วคุณก็จะพูดว่า “เฮ้ เยี่ยมเลย” 

ถาม : มีอะไรเสียใจมั๊ยกับเส้นทางค้าแข้งที่ผ่านมาของคุณ ?

โมราต้า : ไม่มี, ผมไม่เคยเสียใจอะไรเลย ทุกสิ่งที่ผมเคยทำลงไปมันนำพาผมมาอยู่ในจุดๆนี้ 

ถาม : ทำไมถึงมีช่วงเวลานึงที่คุณให้ความสนใจกับสิ่งที่คนอื่นๆพูดถึงคุณมากนักล่ะ ? 

โมราต้า : บางทีอาจเป็นเพราะมันเป็นส่วนนึงของความกดดัน และคุณคิดว่าจำเป็นต้องตอบโต้บ้าง มีความคาดหวังในตัวผมสูงอยู่เสมอ ตอนที่ผมย้ายไปอังกฤษ มันเป็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่มาก ผมอยู่ท่ามกลางความสนใจของผู้คน และที่นั่นที่ อังกฤษ เมื่อพวกเขามองนักเตะคนอื่นใน เชลซี แล้วรุ้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่ในระดับการเล่นที่สูงล่ะก็ พวกเขาพร้อมจะฆ่าคุณในทุกๆที่เลย 

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อผมอย่างมาก ความจริงจริงก็คือผมคิดว่ามันไม่ค่อยจะยุติธรรมนัก , แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็จะคิดได้ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ผมควรจะพยายามมีความสุขไปกับช่วงเวลานั้นให้มากที่สุด 

ถาม : ไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณได้ออกมาพูดเรื่องที่ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในวงการฟุตบอลแบบที่ไม่ค่อยมีใครพูดนัก นั่นคือเรื่องของการช่วยเหลือนักกีฬาที่กำลังป่วยด้านจิตใจ วันก่อนผมไม่แน่ใจว่าได้เห็น ส.ส.อินญิโก้ เอร์เรฆอน นำเรื่องนี้เข้ามาพูดในที่ประชุมสภาด้วยหรือไม่ โดยบอกว่าปัญหาทางด้านจิตใจตอนนี้กำลังเป็นปัญหาหนักในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คุณยังคิดว่าเรื่องนี้ยังคงได้รับความสนใจค่อนข้างน้อยอยู่หรือไม่ ? 

โมราต้า : ผมยังคงคิดแบบนั้น มันก็เหมือนกับการที่เราฝึกซ้อมในโรงยิม หรือในสนามซ้อมเพื่อพัฒนาเทคนิคและแท็คติกการเล่น ผมคิดว่าในหัวของเรามันก็สมควรที่จะต้องถูกฝึกด้วย  คุณ้องเตรียมความพร้อมกับเรื่องนี้ ซึ่งจะช่วยเหลือคุณได้มาก  

ในรอบหลายปีหลังมานี้ รวมถึงในเจนฯของเรา ยังคงมองว่าการเข้าพบกับจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยากว่าแท้จริงแล้วนั่นคือเรื่องปกติ มันจะมีวันนึงที่คุณจำเป็นจะต้องเข้าไปพบกับจิตแพทย์ มันเรื่มเป็นเรื่องปกติมากขึ้นทุกที 

มีคนที่ผ่านช่วงเวลาอันย่ำแย่โดยไม่มีความจำเป็น สำหรับถ้าหากว่ามีบุคคลใกล้ชิดหรือศาสตรจารย์ที่คอยให้ความช่วยเหลือในตอนที่อยู่กับ เชลซี ผมคงดีกว่านี้ เมื่อใดก็ตามที่ความคิดในหัวของคุณมีปัญหา คุณก็จะกลายเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวคุณเอง ในช่วงเวลานั้น คุณไม่แคร์ว่าตัวเองจะทำอะไร คุณจะต่อสู้กับความคิดของตัวเองเสมอ 

ถาม : ฟังแล้วดูหนักเอาการอยู่นะ ?

โมราต้า : มีหนังเรื่องนึงทาง Netflix ชื่อว่า Loco por ella (โลโก้ ปอร์ เอย่า) มันเป็นหนังโรแมนติกคอมเมนดี้ที่พูดถึงคนที่ป่วยทางจิต โรคซึมเศร้าคืออาการป่วย เช่นจู่ๆก็สามารถที่จะทำร้ายข้อเท้าตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นตอนคุณป่วยทางจิตก็คือผู้อื่นๆพูดกับคุณว่า “นายจะต้องมีความสุข” แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร ผมไม่เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นโรคซึมเศร้า และผมก็หวังว่าจะไม่ต้องเจอกับเรื่องนี้ แต่ผมเองรู้ตัวว่าผมเฉียดใกล้มันมาแล้ว ผมคิดว่าผู้คนยังคงไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าที่ควร 

ถาม : ตอนนี้คุณเข้าพบกับจิตแพทย์เป็นเรื่องปกติ คุณดีขึ้นมั๊ย ? มันช่วยให้คุณไม่ต้ิงกลับไปรู้สึกแบบเดิมอีกใช่มั๊ย ? 

โมราต้า : ใช่แล้ว, แต่ไม่ใช่การกลับไปเป็นหรือไม่กลับไปเป็นอีก แต่เป็นการไปพบบุคคลบุคคลนึงแล้วร่วมแบ่งปันมุมมองกับบุคคลนั้น คุณจะคุณจะได้รับการตอบสนองอย่างจริงในจ , ลองจินตนาการดู คุณไปที่นั่นแล้วก็พูดกับเขาว่า “ฟังนะ ผมค่อนข้างเป็นกังวลเกี่ยวกับผลการแข่งขันมากเลย” และเขาก็จะช่วยเหลือคุณ อธิบายให้คุณฟัง เพื่อที่จะดูว่ามันเป็นในแง่ของข้อเท็จจริงหรือมีอะไรมากกว่านั้น  

ผมกลัวมากที่จะต้องบินคนเดียวโดยไม่มีครอบครัวไปด้วย มันจะรู้สึกแย่มากๆ นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวคุณ ซึ่งคุณไม่รู้ว่าเพราะอะไร และอย่างไร ผมคิดว่าการพูดกับบุคคลนึง ที่เขาเข้าใจคุณ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก 

ถาม : กลับมาที่เรื่องฟุตบอล คุณคิดว่าที่ ยูเว่ คุณได้พบที่ที่เป็นของคุณแล้วหรือยัง ? เพราะอะไรทำไมคุณถึงย้ายทีมค่อนข้างบ่อย ? 

โมราต้า : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมหวังว่าที่นี่จะเป็นที่ของผมนะ  แต่มันก็เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถรับปากอะไรได้ เราคงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ผมมีความสุขดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะผมไม่ใช่เจ้าของ ยูเว่ 

ถาม : ขอสักประโยคให้อดีตต้นสังกัดคุณหน่อย...เชลซี ? 

โมราต้า : ความภูมิใจแห่งลอนดอน 

ถาม : เรอัล มาดริด 

โมราต้า : สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

ถาม : แอตเลติโก 

โมราต้า : ครอบครัว ที่ที่นักเตะทุกคนอยากไปอยู่ 

ถาม : คุณจะออกไปดื่มกับ ซิเมโอเน่ มั๊ย ?

โมราต้า : แน่นอนที่สุด เราต้องเข้าใจถึงความต่างเรื่องของกีฬา และความเป็นมืออาชีพ ในเรื่องกีฬาเราอาจต่างกันทางความคิด ส่วนในแง่ความเป็นมืออาชีพนั้น ซิเมโอเน่ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก และผมรู้สึกขอบคุณมาตลอด ผมยกย่องเขาในแง่ของการทำงาน นอกจากนี้ก็ยังเป็นเรื่องของความทุ่มเทเสียสละ แนวทางการใช้ชีวิต ด้วยเหตุผลนี้ แน่นอนว่าผมจะออกไปดื่มกับเขา แล้วก็ย่างบาร์บีคิวด้วยถ้ามันจำเป็น 

ถาม : คุณวางแผนจะมีลูกอีกคนมั๊ย ?

โมราต้า : ไม่ ไม่ ไม่, 3 คนตอนนี้โอเคแล้ว 

เจมส์ ลา ลีกา แปล&เรียบเรียง