:::     :::

มุมมองลูกหนังของรังนิก

วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,307
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ราล์ฟ รังนิก อดีตเทรนเนอร์ แอร์เบ ไลป์ซิก แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวงการลูกหนังปัจจุบันและยังพูดถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์กับ บาเยิร์น มิวนิค บนเวทีบุนเดสลีกาวันเสาร์นี้ด้วย

ราล์ฟ รังนิก อดีตนายใหญ่ของทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์วัย 62 ปี แสดงความคิดเห็นก่อนหน้าเกมสำคัญหรืออาจเป็นแมตช์ชี้ชะตาแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่นนี้จะลงเอยในรูปแบบใดหลังการเผชิญหน้ากันระหว่าง แอร์เบ ไลป์ซิก กับ บาเยิร์น มิวนิค วันเสาร์นี้ รวมถึงการเปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับพัฒนาการของวงการลูกหนังในปัจจุบันด้วย 


ในความคิดเห็นของคุณอะไรที่ทำให้ ไลป์ซิก แข็งแกร่ง? มันเป็นเพียงเกมป้องกันหรือมากกว่านั้น?

'ส่วนใหญ่ทีมเล่นด้วยกันมา 6 หรือ 7 ปี บางคนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ดิวิชั่น 3 และหลายคนเลื่อนชั้นขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 พร้อมกับผมในช่วงแรก นั่นหมายความว่าทีมรู้จักกันและรู้ว่าจะเล่นด้วยกันอย่างไร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้เล่นเติบโตเต็มที่และได้รับประสบการณ์และแน่นอนว่าพวกเขาได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น การทำงานหนักของโค้ชก็มีส่วนเช่นกัน'

'ยูเลียน (นาเกลส์มันน์) ได้ทำในสิ่งที่เราหวังไว้ นั่นเป็นเหตุผลที่เรารอเขามาหนึ่งปี มันเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์จากผมในตอนนั้นและได้รับผลตอบแทนอย่างสมบูรณ์ ยูเลียน ได้พัฒนาทีมขึ้นไปอีกขั้นในแง่ของฟุตบอลในช่วงปีครึ่ง ด้วยเหตุนี้ แอร์เบ จึงมีสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถทำได้ดี ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายครองบอลหรือฝ่ายตรงข้ามมีมันก็ตาม'

แมตช์เดย์ที่ 27 ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างสองทีมบนของตารางคะแนน แอร์เบ ไลป์ซิก กับ บาเยิร์น มิวนิค น่าจะเป็นเกมชี้ขาด คุณคาดหวังอะไรจากแมตช์นั้น?

'ผมคิดว่ามันจะเป็นเกมที่รัดกุมมาก เช่นเดียวกับ 2-3 เกมที่ผ่านมา ผมคิดว่า 3 เกมล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่างสองทีมเสมอกันทั้งหมดและในช่วงหลายปีก่อนเราเกือบจะเอาชนะพวกเขาได้ในบางครั้ง ผมจำเกมบอลถ้วยในตอนนั้นได้ด้วยข้อสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับการตัดสินที่ให้จุดโทษและใบแดง มันใกล้เคียงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและผมคาดหวังว่าจะมากขึ้นในตอนนี้'

'ผมคิดว่ามันจะเป็นเกมที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งจะมาจากปัจจัยเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นใครสามารถทำประตูขึ้นนำก่อนหรือใครสามารถควบคุมการลื่นไหลของเกมได้ ผมคิดว่ามันจะขึ้นอยู่กับฟอร์มเล็กน้อยเพราะเหตุนั้น ผมสามารถมองเห็นข้อดีบางอย่างจากม้านั่งสำรองเพราะผมเชื่อว่า แอร์เบ เป็นทีมที่มีคุณภาพเชิงลึกดีกว่า บาเยิร์น ในขณะนี้ ถึงกระนั้นเมื่อ บาเยิร์น มีทุกคนพร้อมและฟิตสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องยากในตอนนี้เนื่องจากการบาดเจ็บและไวรัสโคโรน่า พวกเขาเป็นบรรทัดฐานสำหรับทุกคน ในเกมเดียวทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้และผมคิดว่ามันมีโอกาสเสมอกันมาก ผมเห็นมันมีโอกาส 50/50'

ใครจะจบฤดูกาลในฐานะแชมเปี้ยนส์ของเยอรมันและทำไม?

'ผมคิดว่าเกมระหว่างทั้งสองทีมจะเป็นตัวตัดสิน มันไม่อาจไม่ทั้งหมดหรือเป็นจุดจบ แต่มันจะมีส่วนสำคัญ บาเยิร์น นำหน้าอยู่ 4 คะแนน ดังนั้น ไลป์ซิก จำเป็นต้องชนะพวกเขาจริงๆ แอร์เบ อยู่ในตำแหน่งที่พวกเขาต้องชนะเกมเพื่อจะอยู่ในการแข่งขันแย่งแชมป์ ซึ่งมันกำลังเอนเอียงไปทาง บาเยิร์น ในขณะนี้ แต่เกมนั้นจะเป็นการบ่งบอกสำคัญว่าใครจะคว้าแชมป์ ถ้ามันเสมอหรือถ้า แอร์เบ ชนะ มันอาจหมายถึงการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นไปจนกระทั่งวันสุดท้ายของฤดูกาล'

คุณเชื่อหรือไม่ว่า ไลป์ซิก สามารถก้าวขึ้นมาเทียบชั้นกับ บาเยิร์น ในฐานะทีมระดับท็อปของฟุตบอลเยอรมัน?

'เนื่องจากสถานะทางการเงินของ บาเยิร์น ซึ่งถูกประมาณการคร่าวๆว่ามีทรัพยากรทางการเงินในงบประมาณของพวกเขาที่เหนือกว่าทีมอื่น 2 เท่าจะเป็นผู้นำที่มีพลังในฟุตบอลเยอรมันจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ผมไม่เห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเช่นกัน แม้ว่าโอกาสดังกล่าวอาจการแสดงตัวของทีมอื่นขึ้นมาเป็นครั้งคราวหรืออาจจะเป็นฤดูกาลนี้'

'ตามที่เราเพิ่งคุยกันไป ในอนาคต แอร์เบ จะก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดต่อไปตราบเท่าที่พวกเขาไม่ทำผิดพลาดในการซื้อ-ขายนักเตะหรือการแต่งตั้งโค้ช ถ้า แอร์เบ ยึดมั่นในเส้นทางที่ทำให้พวกเขามาถึงจุดที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาจะแข็งแกร่งต่อไป ถึงกระนั้นมันก็ยากจะแซงหน้า บาเยิร์น ในอนาคตอันใกล้เนื่องจากความได้เปรียบทางการเงินที่พวกเขามี'

อะไรที่ทำให้ แอร์เบ แตกต่างในขณะนี้? จุดแข็งอยู่ที่การเล่นเกมป้องกันหรือไม่?

'ไลป์ซิก ยังคงโดดเด่นในการเล่นเกมสวนกลับ-เพรสซิ่งดุดันและเมื่อพวกเขาสามารถนำสิ่งนั้นลงสู่สนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาทำได้ดีในเกมล่าสุด ผมคิดว่าส่วนผสมทั้งสองอย่างมีความสำคัญ พวกเขามีทางออกที่ดีในการเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ตั้งรับลึก แต่เมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่า โดยเฉพาะคู่แข่งที่เล่นเกมรุกและท้าทายพวกเขา อย่างที่คุณเห็นในเกมกับ ไมนซ์ และตอนนี้ ลิเวอร์พูล และบางครั้งในการเผชิญหน้ากับ แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยเช่นกันที่สามารถสร้างปัญหาให้ ไลป์ซิก ผมคิดว่าความสมดุลเป็นกุญแจสำคัญ เมื่อความสมดุลระหว่างการครองบอลกับการเพรสซิ่งที่ดุดันและการโต้กลับลงตัวแล้ว ไลป์ซิก จะอยู่ในจุดดีที่สุดของพวกเขา'

ในความเห็นของคุณ ฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องแท็คติกอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา?

'จังหวะของเกมตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน การเพรสซิ่งและการโต้กลับเป็นมาตรฐานของหลายสโมสรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับท็อป นั่นคือสิ่งที่สโมสรดีที่สุดมีเหมือนกัน พวกเขาโจมตีสูง ไม่ว่าจะเป็น แมนฯซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล เมื่อพวกเขามีขุมกำลังฟิตสมบูรณ์เต็มที่ แอร์เบ ไลป์ซิก และ บาเยิร์น สามารถเพิ่มเข้าไปในส่วนนั้นได้ พวกเขาเล่นเกมโจมตีเร็วมาก โดยทั่วไปที่ถูกกล่าวถึงและสร้างความยุ่งยากให้ฝ่ายตรงข้ามด้วยการเล่น'เคาน์เตอร์-เพรส' เร็วสุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือสิ่งที่ได้รับการพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา'

'สิ่งที่เพิ่มเข้ามานั้นเป็นเรื่องของคู่แข่งโดยเฉพาะและการตั้งแท็คติกขั้นพื้นฐานเฉพาะเกมและการปรับเปลี่ยนระหว่างเกม การเปลี่ยนแปลงระหว่างการเล่นและสไตล์เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ความสามารถในการเล่นรูปแบบต่างๆในเกมเดียวกันซึ่งทำให้ทีมใหญ่สุดมีความแตกต่าง ยังคงมีความแตกต่างระหว่างสโมสร เราเคยพูดถึง ลิเวอร์พูล มาก่อน พวกเขาจะใช้แนวทางเดิมเป็นส่วนใหญ่ ในระบบ 4-3-3 และพยายามกำหนดสไตล์ของพวกเขากับฝ่ายตรงข้าม ขณะที่สโมสรอื่นๆมักจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า'

การวิเคราะห์ข้อมูลสมัยใหม่มีความสำคัญอย่างไรกับโค้ชยุคใหม่และการวางแท็คติกของพวกเขา?

'ผมคิดว่าคุณต้องแยกความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์วิดีโอและข้อมูลขนาดใหญ่ที่เริ่มขึ้นราวปี 2005 หรือ 2006 ผมจำได้ว่าย้อนกลับไปที่ ฮอฟเฟนไฮม์ กับ ลาร์ส คอร์เน็ตก้า เราได้สร้างสาขาธุรกิจนั้นขึ้นมา อย่างน้อย ลาร์ส คอร์เน็ตก้า เป็นนักวิเคราะห์วิดีโอเต็มเวลามืออาชีพคนแรกในเยอรมันและในความคิดผม เขายังเป็นหนึ่งในผู้นำเสนอที่มีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน'

'ในสนามยังมีการเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและทีมบุนเดสลีกาส่วนใหญ่มี 2 หรือ 3 ทีมในกรณีของ ไลป์ซิก มีนักวิเคราะห์วิดีโอทำงานเต็มเวลาที่ทำการวิเคราะห์ก่อนและหลังการแข่งขันและสนับสนุนเฮดโค้ช เมื่อคุณพูดถึงข้อมูลขนาดใหญ่ ผมเห็นว่าสถานการณ์แตกต่างกันเล็กน้อยเพราะความเสี่ยงที่คุณไม่นำข้อมูลนั้นไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นมีความสำคัญมาก'

'นั่นเป็นเพราะอัลกอริทึมมักจะไม่มีพลังในการทำนายที่เป็นประโยชน์กับทีมฟุตบอล นั่นเป็นเหตุผลสำหรับผมเพราะเดิมทีพวกเขาได้รับการพัฒนาโดยบริษัทรับพนันและผู้อำนวยการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของพวกเขา'

'เหตุผลของพวกเขาในการใช้ข้อมูลและเป้าหมายของพวกเขามักจะไม่สอดคล้องกับของโค้ชทีมฟุตบอล ดังนั้นผมจึงยังมีข้อสงสัยและระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่ในการสอดแนมคู่แข่ง ในอนาคต งานเหล่านั้นจะยังคงมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากข้อมูลเป็นข้อได้เปรียบ แต่คุณต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ข้อมูลเหล่านั้นมีส่วนช่วยสโมสรและทีมของคุณได้รับชัยชนะ'

คุณคิดว่าสโมสรใดมีความโดดเด่นเรื่องแท็คติกเป็นพิเศษ? 

'ผมคิดว่าเป็นสโมสรที่ครองแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและในปีนี้อีกครั้งถ้าคุณดูในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของปีนี้หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อปีก่อน มันชัดเจนว่าหากคุณต้องการประสบความสำเร็จแบบยั่งยืน คุณต้องดำเนินการในระดับสูงสุดทั้ง 5 ด้านที่เกี่ยวข้อง อย่างแรกคือจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณเป็นฝ่ายครอบครองบอล วิธีการที่คุณจะเล่นกับทีมที่ตั้งรับลึกหรือคู่แข่งที่เพรสซิ่งสูง คุณควรจะอยู่ระดับบนสุดในพื้นที่นั้นและมีแนวทางแก้ไขสำหรับสิ่งนั้น'

'จากนั้นก็สำคัญเช่นกันว่าทีมจะมีแผนรองรับเมื่อคู่แข่งเป็นฝ่ายครองบอลและแผนนั้นคืออะไร ผมจะครองบอลอย่างไรและผมจะพยายามใช้เทคนิคอะไรเมื่อคู่แข่งเป็นฝ่ายครองบอล?'

'การเปลี่ยนถ่ายระหว่างสองพื้นที่นั้นมีความสำคัญเช่นกัน คุณจะทำอะไรตอนที่คุณแย่งบอลสำเร็จหรือในทางกลับกันเมื่อคุณเสียบอล? หลักๆคือมีการ 'เคาน์เตอร์-เพรสซิ่ง' และการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว'

'ส่วนพื้นที่ที่ 5 คือการเล่นลูกตั้งเตะทั้ง ฟรีคิก, เตะมุม, จุดโทษ หรืออะไรก็ตาม การทำประตูมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์มาจากสถานการณ์เหล่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมีความเด็ดขาด อย่างในแชมเปี้ยนส์ลีกเร็วๆนี้และปีล่าสุดแสดงให้เห็นว่าคุณต้องทำให้ดีในทุกด้านหากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ถ้าคุณเห็นทีมที่อยู่ในรอบ 8 ทีมตอนนี้และเพิ่มอีก 1 หรือ 2 ทีมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อปีก่อนแล้วคุณจะเห็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างออกไปคือพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงมากทั้ง 5 ส่วนนี้'

สโมสรใดบ้าง?

'ถ้าคุณมองไปที่อังกฤษมันคือ แมนฯซิตี้ ในตอนนี้ ลิเวอร์พูล เช่นเดียวกัน แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่อยู่ในท็อปโฟร์ก็ตาม เชลซี ภายใต้ โธมัส ทูเคิ่ล อยู่ในเส้นทางที่ดีมากและนั่นเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของเฮดโค้ชหรือโค้ชฝึกสอน เมื่อคุณมองไปที่ เชลซี ตอนนี้และเปรียบเทียบกับช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีความแตกต่างกันมาก ผมคิดว่าพวกเขาเสียเพียง 2 ประตูใน 10 เกมที่ผ่านมา พวกเขาเล่นเกมรับอย่างมั่นคง'

'อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงเล่นกับบอลได้ดีและมักจะดีสำหรับการทำหนึ่งหรือสองประตู นั่นเป็นเหตุผล ตามกฎแล้วพวกเขาชนะเกมของพวกเขาในตอนนี้ ผมจะนับว่า เชลซี เป็นหนึ่งในทีมชั้นนำในขณะนี้และผมจะถือว่าพวกเขาอยู่นอกเหนือทีมเต็งแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นเพียงม้ามืด'

'ในสเปนมันเป็นทีมหัวแถวของตารางคะแนน ผมไม่เห็นทีมอื่นใดนอกจาก แอตเลติโก (มาดริด), บาร์เซโลน่า และ เรอัล (มาดริด) อยู่แนวหน้าในระดับสากล นั่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับจังหวะที่พวกเขาเล่นและทางกายภาพในเกมของพวกเขา ทั้งสามทีมไม่ได้สร้างความประทับใจในขณะนี้ แต่พวกเขายังสามารถแสดงผลงานระดับสูงสุดในสนามได้'

'ผมมองเห็นแง่มุมเดียวกันในอิตาลีตอนนี้ สำหรับเรา สองทีมเมืองมิลานเป็นผู้นำ อินเตอร์ อาจจะคว้าแชมป์และอาจมีคุณภาพส่วนตัวของนักเตะดีที่สุด ในฝรั่งเศส เปแอสเช กำลังมีปัญหามากมายในฤดูกาลนี้ ผมเห็นว่ามันเป็นไปได้ว่า ลีลล์ จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้'

คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เป็นโค้ชที่โดดเด่น?

'ยูเลียน เป็นเฮดโค้ชที่มีพรสวรรค์มากสุดคนหนึ่งที่เรามีในเยอรมัน ไม่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณไม่สามารถลืมได้ว่าแม้เขาจะอายุเพียง 33 ปี แต่เขาทำงานโค้ชมาตั้งแต่อายุ 21 ปี เราพบกันครั้งแรกใน บัคนัง ตอนที่ ฮอฟเฟนไฮม์ยู-16 ของเขาเล่นกับ บัคนังยู-17 ที่ลูกชายผมเล่น ผมมีวันหยุดและได้ดูการแข่งขันในเช้าวันนั้นและ ยูเลียน สังเกตเห็นว่าผมอยู่ที่นั่น'

'ในฐานะที่ผมเป็นเฮดโค้ช ฮอฟเฟนไฮม์ ตอนนั้น ยูเลียน ติดต่อได้ทันทีและต้องการทราบว่าผมจะทำอะไรกับทีมของเขาและการโค้ชของเขา นั่นเป็นสิ่งที่น่าประทับใจและสิ่งผิดปกติที่เห็นได้จากโค้ชอายุเพียง 22 ปีในเวลานั้น เรายังคงติดต่อกันตั้งแต่นั้นมาและแม้ว่าเขาจะอายุ 33 ปี แต่เขาเป็นโค้ชฟุตบอลมาแล้ว 11 ปี และเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่มา 6 ปีแล้ว'

'หากคุณดูสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น ฮอฟเฟนไฮม์ ซึ่งเขาช่วยพวกเขารอดพ้นการตกชั้น จากนั้นก็นำทีมไปเล่นยูโรปาลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก หรือ 2 ปีของเขาใน ไลป์ซิก เขาเป็นโค้ชที่มีพรสวรรค์พิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลายสิ่งหลายอย่างในสนาม เขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องแท็คติกและมีความสามารถในการคิดล่วงหน้า 1 หรือ 2 ก้าว

'ในแง่ของการเอาใจใส่และการจัดการผู้เล่นด้วยวัยของเขาช่วยได้เพราะเขาแบ่งปันความสนใจและงานอดิเรกกับพวกเขาอย่างแท้จริงและมีความเข้าใจในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นรสนิยมทางดนตรีของนักเตะหรืองานอดิเรกและความสนใจ มันช่วยเขาในแง่นั้น อำนาจที่เขามีเพราะความรู้ทางเทคนิคและเพราะเขาทำให้ผู้เล่นดีขึ้นเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญสุดของเขาในการกระตุ้นนักเตะ'

'ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอลหรืออย่างอื่น เมื่อนักเรียนหรือนักเตะรู้สึกว่าโค้ชหรือคุณครูทำให้พวกเขาดีขึ้น ตามหลักการแล้วพวกเขาจะติดตามคนๆนั้น ปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญสุดคือความรู้สึกว่าคุณกำลังพัฒนาภายใต้คนๆหนึ่งหรือในทีมแน่นอน' 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด