:::     :::

'แพ้'ที่ส่งผลกระทบ'ฮาแลนด์'

วันเสาร์ที่ 03 เมษายน 2564 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
2,881
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความพ่ายแพ้ของ ดอร์ทมุนด์ ต่อ แฟร้งค์เฟิร์ต ไม่เพียงแค่ทำให้ความหวังในการลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกห่างไกลออกไป แต่ยังส่งผลกระทบตามมาอีกหลายเรื่อง

สิ่งที่ได้เห็นชัดเจนในตอนนี้คือการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเทรนเนอร์ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ไม่ได้ส่งผลไปในทิศทางที่ดีขึ้น จริงอยู่ ถึงเวลาที่ ลูเซียง ฟาฟร์ ต้องอำลาทีม แต่การเลือก เอดิน แทร์ซิช มานั่งเก้าอี้ชั่วคราวจนจบซีซั่น เพื่อรอ มาร์โก โรเซอ อำลา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค มาคุมฤดูกาลหน้า กำลังจะส่งผลร้ายอย่างมหาศาล

ฟาฟร์ จากไปหลังจบเกมที่ ดอร์ทมุนด์ แพ้คาบ้านต่อ สตุ๊ตการ์ท 1-5 เป็นการแพ้ในรัง ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค 3 เกมติดต่อกัน เพราะก่อนหน้านั้นแพ้ บาเยิร์น มิวนิค 2-3 และแพ้ โคโลญจน์ 1-2 ขณะเดียวกันก็เก็บได้เพียงคะแนนเดียวจากสามเกมหลังสุด ทำให้อันดับในบุนเดสลีการ่วงลงไปอยู่ที่ 5
จึงมีน้ำหนักพอที่จะปลด ฟาฟร์ ออกจากตำแหน่ง หากแต่แผนการที่วางเอาไว้หลังจากนั้น ต้องมีความพร้อมให้มากกว่านี้
ผลงานของ แทร์ซิช นับเฉพาะบุนเดสลีกา 16 เกมที่คุมทัพไปแล้ว ชนะ 7 เสมอ 3 และแพ้ถึง 6 จึงเป็นคำตอบได้ชัดเจนว่าบอร์ดบริหารของ ดอร์ทมุนด์ ได้ตัดสินใจผิดพลาดไปแล้วอย่างมหันต์ แม้จะได้ โรเซอ มาคุมทีมซีซั่นหน้าตามความต้องการ แต่อาจจะได้ไปเล่นแค่ ยูโรปาลีก สูงมาก
ก่อนเกมที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ดอร์ทมุนด์ ที่อยู่อันดับ 5 ตั้งเป้าลดช่องว่างจากอันดับ 4 แฟร้งค์เฟิร์ต จากที่ห่าง 4 คะแนน ลงมาให้เหลือคะแนนเดียว เพื่อให้การลุ้นตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก เปิดกว้างอีกครั้ง
แต่บทสรุปกลับกลายเป็นการตามเพิ่มถึง 7 คะแนน แทบจะถอดใจก่อนเข้าสู่ 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาล
แม้ ดอร์ทมุนด์ ของ แทร์ซิช ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นโทรฟี่สองรายการ เดเอฟเบ โพคาล ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว รอเล่นกับ โฮลชไตน์ คีล ทีมจากลีกาสอง แต่หากไปถึงแชมป์ ก็ได้แค่ตั๋ว ยูโรปาลีก ซีซั่นหน้า
อีกรายการคือ แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กำลังจะเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นงานยากเกินกว่าที่จะคิดถึงรอบรองชนะเลิศ หรือรอบชิงชนะเลิศ แฟนๆ ดอร์ทมุนด์ ก็รู้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้น หากบทสรุปของฤดูกาลหน้า 2021-22 โรเซอ เข้ามาคุม ดอร์ทมุนด์ และได้ไปเล่นแค่ ยูโรปาลีก ก็จะส่งผลกระทบชิ่งอย่างที่ทุกคนก็ทราบกันดี
นั่นคือเรื่องอนาคตของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กับ เจดอน ซานโช่
ถึงตอนนี้ ข่าวคราวบนหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกประเทศ มีแต่เรื่องของ ฮาแลนด์ แบบรายวัน และเพิ่งมีข่าวว่า เอเยนต์ มีโน่ ไรโอล่า กับพ่อ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ เดินทางไปสเปน เพื่อพูดคุยเบื้องต้นกับสองยักษ์ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ซึ่งมีหลักฐานฟ้องด้วยภาพ
ขณะที่ประเด็นของ ซานโช่ เริ่มเงียบๆ ไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่กำลังเล่นงานอยู่ บวกกับผลงานที่ตกลงไปพักใหญ่ ก่อนฟื้นกลับมาเปรี้ยงปร้างได้พักนึง แล้วก็มาเจ็บอีก แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังถูกพาดพิงถึงอยู่ เพราะเป็นเป้าหมายในแนวรุกสำหรับซีซั่นใหม่
ค่าตัวของ ฮาแลนด์ ถูกคาดการณ์อยู่ที่ราวๆ 160 ล้านยูโร กับสัญญาที่มีอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ถึงปี 2024 ขณะที่ ซานโช่ ที่มีสัญญาถึงปี 2023 ก็จะต้องมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 100 ล้านยูโร ถึงจะทำให้ เบเฟาเบ ยอมตอบรับข้อเสนอ
ถ้าเลือกได้ ดอร์ทมุนด์ คงไม่ต้องการเสียทั้ง ฮาแลนด์ และ ซานโช่ ไปพร้อมๆ กันในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่หากได้เม็ดเงินรวมกันมหาศาลทะลุหลัก 200 ล้านยูโร ก็เพียงพอที่จะลงทุนให้ โรเซอ สร้างทีมใหม่
นั่นคือปัญหาที่บรรดาผู้บริหาร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องแก้ไข และเตรียมรับมือสำหรับช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง ที่สำคัญต้องประเมินจากสถานการณ์จริงว่ามีโอกาสสูงมากๆ ที่จะพลาดไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
นี่จึงอาจเป็นซีซั่นสุดท้ายของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กับ เจดอน ซานโช่ แบบไม่มีทางเลือก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด