:::     :::

รุ่งอรุณของ "จงอางผยอง"

วันพฤหัสบดีที่ 08 เมษายน 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,967
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลงานการออกไปถล่ม แพร่ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบในการเพลย์ออฟ นัดสอง ที่จะเปิดรังวันที่ 10 เม.ย.นี้ ทันที

เพราะถ้าพวกเขาสามารถผ่านเข้าไปชิงตั๋วใบที่ 3 ได้ นั่นหมายความว่าเหลืออีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น ที่จะทะยานไปสู่ลีกสูงสุดของเมืองไทย ตามความฝันของผู้บริหารและแฟนบอล ที่อยากจะเห็นวันนั้นมาโดยตลอด

แต่ตามกว่าจะมีวันนี้ของทัพ "จงอางผยอง" พวกเขาเองก็ผ่านอะไรมาเยอะมากๆ หรืออาจจะบอกได้ว่า เกือบจะ "ไม่มีชื่อทีมนี้" อยู่ในสารบบของวงการลูกหนังสยามประเทศไปแล้วก็ว่าได้ 


โร้ดแม็พเลื่อนชั้น

ย้อนกลับไปราวๆ 6 ปีก่อน เมื่อจบฤดูกาล 2015 ของลีกโซนอีสาน ด้วยการเป็นแชมป์ จากการลงแข่ง 34 นัด ชนะ 26 เสมอ 4 แพ้ 4 ในช่วงที่มีการวางระบบสรรหาทีมฟุตบอลจากลีกภูมิภาค ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก็เป็น 1 ใน 4 ของทีมฟุตบอล ระดับหัวกะทิ ที่ได้สิทธิให้ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ในปี 2559 จาก 12 ทีม ที่ทำผลงาน จนได้เข้ามาเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก 

นี่จึงเป็น 1 ปี ของทีมฟุตบอลที่ก่อร่างสร้างตัวได้อย่างรวดเร็ว จนถูกบันทึกในวงการฟุตบอล ให้เป็นต้นแบบกับการสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จได้แบบมหัศจรรย์ ซึ่งทุกอย่างคือเส้นทางที่ผู้บริหารของ "จงอางผยอง" วางเอาไว้ คือ "2016 เลือนชั้นสู่ลีกรอง 2017 ทะยานถึงไทยลีก และ 2018 เป็นต้นไป ต้องซิวตั๋วไปลุย เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก”


ทุกอย่างพังทลาย

หนังสือที่ลงนาม โดย พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฉบับที่ 022 / 2559 เรื่อง การเพิกถอนสิทธิสมาชิกภาพสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด

โดยเนื้อหาคือ การมีมติออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์ของสภากรรมการฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคม ฯ เป็นประธาน เห็นควร ให้สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

เนื่้องจากพบเบาะแสที่เชื่อได้ว่า การทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน ในการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ระหว่างขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ อ่างทอง เอฟซี ในเดือนกรกฏาคม โดยผลการแข่งขันที่ออกมาในขณะนั้นคือ เจ้าบ้าน ขอนแก่น ยูไนเต็ด พ่ายไป 0 ประตู ต่อ 1 ซึ่งผู้ที่เป็นเหยื่อจากเกมนี้ ก็คือ กรรมการที่ลงทำหน้าที่ตัดสินนามว่า “สรพงษ์ ไกรเนตร” ที่ถูกแฟนบอลดักทำร้ายระหว่างเดินทางกลับ แม้ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าทางสโมสรมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ โดยในบันทึกระบุว่า 

“การทำร้าย นายสรพงษ์ ไกรเนตร กรรมการผู้ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลรายการยามาฮ่า ลีก ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 ระหว่างสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ สโมสรฟุตบอลอ่างทอง เอฟซี เชื่อมโยงถึงสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยตรง การกระทำดังกล่าวมีลักษณะอุกอาจ รุนแรง ร้ายแรง เพราะเป็นการกระทำต่อผู้ตัดสินซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ตัดสินการแข่งขัน และเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างร้ายแรง"

"สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว เห็นว่า สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด กระทำความผิดฝ่าฝืนข้อบังคับตามข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์"

"ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง อาศัยอำนาจตามความในข้อ 15 สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระงับสมาชิกภาพของสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด และห้ามมิให้ผู้บริหารของสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ข้องเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่จัดโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อีกต่อไป"


คัมแบ็คหลังมติสภาปี 60

ในที่สุดเหมือนฟ้ามีตา เพราะทัพ "จงอางผยอง" ได้สิทธิ์กลับเข้ามาร่วมการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากที่เสียงโหวตในที่ประชุมสามัญใหญ่ ประจำปี ออกเสียงเห็นชอบไม่ถึง 3 ใน 4 ของคะแนนเสียงทั้งหมด

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 28 เม.ย.60 ณ ห้องประชุมบุญยจินดา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้มีการจัดประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2560 โดยในวาระที่ประชุมได้มีวาระการระงับสมาชิกสภาพของสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมจากยามาฮ่า ลีก ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือ T2) เมื่อฤดูกาล 2016

ผลปรากฎว่า ในที่ประชุมได้มีผู้เห็นชอบการระงับสมาชิกสภาพของสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด 19 เสียง จาก 48 เสียง ซึ่งไม่ถึง 3 ใน 4 ของคะแนนเสียงทั้งหมด ทำให้สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์กลับเข้ามาเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง 

จากนั้นพวกเขาได้ลุยในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือฤดูกาล 2018 ภายใต้คอนเซ็ปต์ NEXT GENERATION พร้อมกับเปิดตัวนักเตะ อาทิ สกลวัชร์ สกลหล้า , บิลล์ สีดา , เนลสัน เทเรส และ ดักลาส โคโบ ซึ่งสามารถทะยานสู่ไทยลีก 3 ได้ในซีซั่นต่อมาทันที


ก้าวสู่ลีกพระรองแบบยิ่งใหญ่

การทุ่มเทของ "บิ๊กต้อม" วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรไฟแรง ทำให้ทีมสามารถเอาชนะ นครปฐม ยูไนเต็ด ในรอบชิงไทยลีก 3 รวมผลสองนัด ขนะไป 4-2 คว้าแชมป์ฤดูกาล 2019 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

ด้วยขุมกำลังอย่าง ธนา ชะนะบุตร กองหน้าอดีตทีมชาติไทย, อาทิตย์ สุนทรพิธ เจ้าพ่อลูกนิ่งอดีตทีมชาติไทย, ดักลาส โคโบ้ กองหลังชาวบราซิล, เปาโล คอนราโด้ ปีกความเร็วสูงชาวบราซิล,  “โจ้แจ๋ว” สุวิทย์ ไปพรมราช วิงแบคซ้ายตัวจี๊ดของทีม

ทั้งหมดมีส่วนช่วยให้ทีมทะยานจากไทยลีก 3 มาสู่ลีกพระรองอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะดึง ซูกาโอะ คัมเบะ มาเป็นเฮดโค้ช เพราะด้วยประสบการณ์ที่เจนจัดในยุทธภพของลีกพระรอง 

เนื่องจากเคยพา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก และเคยคุมทีมอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี, อุบล ยูไนเต็ด และ หนองบัว พิชญ เอฟซี แต่แล้วก็ต้องมีอันแยกทางก่อนจะจบซีซั่น ทำให้ไปดึง "โค้ชบอส" ปฏิภัทร รอบรู้ กลับมาคุมทีมอีกครั้งหนึ่ง


เส้นทางต่อจากนี้

การเข้ามาของ "โค้ชบอส" ปฏิภัทร รอบรู้ แน่นอนว่าเป็นการคุ้นมือกันอยู่แล้ว เพราะเขานี่แหละที่พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 3 มาครอง ก่อนที่ทีมจะแยกทางกัน ซึ่งมากกว่า 80 เปอร์เซนต์ของนักเตะในทีม ก็พร้อมสู้ให้เขาแบบถวายหัวอยู่แล้ว

ยิ่งการได้ "โค้ชแมน" ธนา ชะนะบุตร มาช่วยติวในเกมรุก ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บนั้น เสมือนว่าผู้บริหารของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ต้องการหล่อหลอมใจให้กับนักเตะมากยิ่งขึ้น ด้วยการปกครองแบบ "พี่น้อง"

แม้ว่าผลงานในช่วงหลังของพวกเขายังไม่ดีมากในลีก แต่ก็สามารถประคองตัวให้ก้าวมาเล่นในรอบเพลย์ออฟ ได้สำเร็จ ถือว่าขอยอมเหนื่อยอีก 4 เกม เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าคู่ควรกับลีกพระรองหรือไม่

ในเกมบุกไปชนะ แพร่ ยูไนเต็ด 3-1 เห็นได้ชัดว่า การวางหมากของพวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการมี ลักษณะ คำรื่น ที่มีส่วนกับ 3 ประตูในการกระซวกถึง ห้วยม้า สเตเดี้ยม


ยิงนำ 1-0, เรียกจุดโทษหนี 2-0 และแอสซิสต์ให้ทิ้งห่าง 3-0 ทั้งหมดคือความยอดเยี่ยมของแข้งสารพัดประโยชน์วัย 34 ปีที่เล่นได้ทั้งริมเส้น, แบ็กขวา, ปีกขวา-ซ้าย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตามองอยู่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ พวกเขาจะสามารถรักษาสกอร์หนีห่าง 2 ประตูไว้ได้ขนาดไหน ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่วัดใจของพวกเขาอย่างมากทีเดียว 

ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุในโลกลูกหนัง มั่นใจได้เลยว่าขุนพล "จงอางผยอง" มีโอกาสไม่น้อยที่จะก้าวไปถึงรอบชิงอีก 2 เกมในรอบเพลย์ออฟ แต่จะไปได้หรือไม่... คำตอบทุกอย่างรออยู่ที่สนามเหย้าของพวกเขาในวันเสาร์นี้แล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด