:::     :::

ใครร่วง?ใครรอด?ลีกเมืองเบียร์

วันพฤหัสบดีที่ 08 เมษายน 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,592
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชาลเก้, แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, โคโลญจน์, ไมนซ์ และ บีเลเฟลด์ 5 ทีมที่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดบนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่นนี้ ซึ่งจะมีเพียง 2 ทีมที่จะรอดพ้นการตกชั้นโดยอัตโนมัติเท่านั้น

ศึกบุนเดสลีกาผ่านมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย 7 เกมสุดท้ายของซีซั่น ณ ทีนี้จะไม่กล่าวถึงการไล่ล่าถาดแชมป์ของ บาเยิร์น มิวนิค, ไลป์ซิก หรือ โวล์ฟสบวร์ก แต่จะพูดถึงการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของโซนท้ายตาราง

หลังการลงเล่นนัดที่ 27 ของซีซั่นมี 5 ทีมที่อยู่ในข่ายดิ้นรนหนีการตกชั้น ซึ่งจะมีเพียง 2 สโมสรเท่านั้นที่จะอยู่รอดโดยอัตโนมัติ อีกหนึ่งทีมที่ยังมีโอกาสฎีกาด้วยการเล่นเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือนกับทีมอันดับ 3 ของลีกาสอง ส่วนอีก 2 ทีมที่เหลือจะตกชั้นทันที 

ส่วน 5 ทีมดังกล่าวมีสโมสรใดบ้างที่ต้องดิ้นรนสู้ในช่วง 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้บ้างไปดูกันครับ

แฮร์ธ่า เบอร์ลิน

อันดับ : 14

คะแนน : 25

ผลต่างประตูได้-เสีย : -14

โปรแกรมที่เหลือ : กลัดบัค (เหย้า), ไมนซ์ (เยือน), ไฟร์บวร์ก (เหย้า), ชาลเก้ (เยือน), บีเลเฟลด์ (เหย้า), โคโลญจน์ (เหย้า), ฮอฟเฟนไฮม์ (เยือน)

คิวลงสนามช่วงที่เหลือของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แสดงให้เห็นว่าช่วงสัปดาห์ท้ายๆของฤดูกาลจะมีความสำคัญเพียงใดและการต่อสู้เพื่อคงสถานะสโมสรบุนเดสลีกายังคงดำเนินต่อไป พวกเขามีโปรแกรมเยือน ไมนซ์ และ ชาลเก้ สโมสรร่วมชะตากรรมเดียวกัน รวมถึงการเล่นในรังกับ บีเลเฟลด์ และ โคโลญจน์ ในช่วง 4 จาก 6 เกมสุดท้ายของซีซั่น สาเหตุที่ทำให้ทีมหญิงชราต้องลงมาคลุกฝุ่นในโซนท้ายตารางมาจากการทำผลงานในช่วงหลังแย่ชนะเพียง 2 ครั้งจากการลงเล่น 12 นัดหลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 8) ดังนั้น พาล ดาร์ได จึงรู้ถึงความสำคัญของการปรับปรุงผลการแข่งขันเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้เฉพาะการเผชิญหน้ากับผู้ร่วมชะตากรรม

คีย์แมน : คริสตอฟ พิออนเท็ค

แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เคยรูดมาอยู่อันดับ 16 ซึ่งเป็นพื้นที่เพลย์ออฟหนีตกชั้นหลังจบแมตช์เดย์ที่ 12 แต่สถานการณ์ดีขึ้นหลังพวกเขาทำผลงานดีขึ้นโดยพ่ายครั้งเดียวจากการลงเล่น 4 เกมหลังสุด (ชนะ 2 เสมอ 1) อย่างไรก็ตามทีมหญิงชรายังต้องแก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพการทำประตูของกองหน้าต่อไปและอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดที่ พิออนเท็ค สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ 

พิออนเท็ค ย้ายจาก เอซี มิลาน มาค้าแข้งกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในช่วงเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา เขาเพิ่งยิงเพียง 10 ประตูจากการลงเล่นลีกเมืองเบียร์ 40 เกม แต่กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ยังคงเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมและยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมหญิงชราแม้จะยิงเพียง 6 ประตูในซีซั่นนี้ก็ตาม ถ้าหากหัวหอกวัย 25 ปีกลับมาลั่นกระสุนในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน มีโอกาสสูงที่จะอยู่รอด 

ไมนซ์ 

อันดับ : 15

คะแนน : 25

ผลต่างประตูได้-เสีย : -19

โปรแกรมที่เหลือ : โคโลญจน์ (เยือน), แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เหย้า), เบรเมน (เยือน), บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า), แฟร้งค์เฟิร์ต (เยือน), ดอร์ทมุนด์ (เหย้า), โวล์ฟสบวร์ก (เยือน) 

การฟื้นคืนชีพของ ไมนซ์ นั้นน่าประทับใจมาก พวกเขาคว้าชัยชนะถึง 5 จากการลงเล่น 10 เกมหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 2) มันช่วยให้สโมสรมีโอกาสรักษาสถานะบนเวทีบุนเดสลีกาของพวกเขาอย่างแท้จริง แต่พวกเขายังต้องใช้ประโยชน์สูงสุดในการเผชิญหน้ากับทีมร่วมชะตากรรมอย่าง โคโลญจน์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน รวมถึงการพบกับทีมอันดับ 13 อย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน เพื่อพยายามเก็บคะแนนให้ได้มากสุดเท่าที่สามารถทำได้ ก่อนเข้าสู่ช่วงอันตรายใน 4 เกมสุดท้ายที่ต้องเล่นกับแชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค และอีก 3 ทีมของกลุ่มท็อป 6 อย่าง แฟร้งค์เฟิร์ต, ดอร์ทมุนด์ และ โวล์ฟสบวร์ก

คีย์แมน : แดนนี่ ดา คอสต้า

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ ไมนซ์ พลิกสถานการณ์กลับมาจนมีโอกาสอยู่รอดมากขึ้น นับตั้งแต่ แดนนี่ ดา คอสต้า ย้ายมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยสัญญายืมตัวก่อนตลาดช่วงหน้าหนาวปิดทำการ ซึ่งแนวรับวัย 27 ปีทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมฐานะวิงแบ็กขวา และมีส่วนช่วย ไมนซ์ เก็บถึง 18 แต้มจากทั้งหมด 30 คะแนนนับตั้งแต่เขามาถึง รวมทั้งการเก็บ 3 คลีนชีต หลังการทำได้เพียงครั้งเดียวจากการลงสนาม 17 เกมก่อนการเซ็นสัญญากับกับแข้งวัย 27 ปี

โคโลญจน์

อันดับ : 16 (เพลย์ออฟ) 

คะแนน : 23

ผลต่างประตูได้-เสีย : -22

โปรแกรมที่เหลือ : ไมนซ์ (เหย้า), เลเวอร์คูเซ่น (เยือน), แอร์เบ ไลป์ซิก (เหย้า), เอาก์สบวร์ก (เยือน), ไฟร์บวร์ก (เหย้า), แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เยือน), ชาลเก้ (เหย้า)

โคโลญจน์ พ่าย 4 จาก 6 เกมหลังสุด พลิกผันจากผลงานก่อนหน้านั้นที่ชนะ 3 จาก 4 เกม ซึ่งทำให้พวกเขาสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นสู่ลีกาสองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 ขณะเดียวกันโปรแกรมการแข่งขันช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ดูไม่เป็นใจกับพวกเขามากนัก เนื่องจากมีคิวดวลกับ 2 ทีมจากท็อป 6 ทั้ง เลเวอร์คูเซ่น และ แอร์เบ ไลป์ซิก อย่างไรก็ตามทีมแพะบ้ายังต้องเผชิญหน้ากับผู้ร่วมชะตากรรมอย่าง ไมนซ์, แฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ ชาลเก้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ฤดูกาลของพวกเขาแกว่งไปทางใดทางหนึ่ง

คีย์แมน : มักซ์ เมเยอร์ 

เมเยอร์ ซึ่งเคยลงเล่นกับทีมชาติเยอรมัน 4 เกม เริ่มเข้าสู่ทีมตัวจริงของ โคโลญจน์ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังการยกเลิกสัญญากับ คริสตัล พาเลซ มิดฟิลด์วัย 25 ปีออกสตาร์ทในแมตช์เดย์ที่ 24 ในเกมเสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน และลงเล่นต่อเนื่องในเกมพ่าย อูนิโอน เบอร์ลิน ในสัปดาห์ต่อมาพิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิตมากขึ้น อดีตแข้ง ชาลเก้ สามารถเป็นผู้เล่นสำคัญในการสร้างสรรเกมแดนกลางของ โคโลญจน์ ช่วยปลดล็อกให้ทีมที่เล่นเกมรุกด้อยประสิทธิภาพแย่สุดอันดับ 3 ของลีกในช่วงชี้เป็นชี้ตายท้ายฤดูกาล

บีเลเฟลด์

อันดับ : 17 (ตกชั้นอัตโนมัติ) 

คะแนน : 23

ผลต่างประตูได้-เสีย : -25

โปรแกรมที่เหลือ : ไฟร์บวร์ก (เหย้า), เอาก์สบวร์ก (เยือน), ชาลเก้ (เหย้า), กลัดบัค (เยือน), แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เยือน), ฮอฟเฟนไฮม์ (เหย้า), สตุ๊ตการ์ท (เยือน) 

บีเลเฟลด์ ยังมีโปรแกรมชน ชาลเก้ ในแมตช์เดย์ที่ 30 รวมถึงเกมดวล แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แมตช์เดย์ที่ 32 หลังพวกเขาเก็บชัยชนะเหนือ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้สโมสรในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดต่อไป การพลิกล็อกโค่นทีมห้างยาเป็นการยุติผลงานย่ำแย่ที่ไม่ชนะตลอด 7 เกมก่อนหน้านั้น (เสมอ 2 แพ้ 5) และมันทำให้พวกเขาหลุดจาก 3 อันดับสุดท้ายของตารางนับตั้งแต่แมตช์เดย์ที่ 19 จนกระทั่งกลับมาคลุกฝุ่นอีกครั้งหลังเสมอเสมอ ไมนซ์ 1-1 ในแมตช์เดย์ที่ 27 

คีย์แมน : ริตสึ โดอัน

แนวรุกชาวญี่ปุ่นวัย 22 ปีเป็นคนทำประตูให้ บีเลเฟลด์ ออกจากสังเวียน ไบอารีน่า พร้อม 3 คะแนนและเขาจะมีบทบาทสำคัญในช่วงสองเดือนครึ่งนับจากนี้ โดอัน ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนี้ เขาทำ 4 ประตูกับทีมน้องใหม่ของบุนเดสลีกาและเมื่อเขาทำประตูได้ บีเลเฟลด์ มีแนวโน้มที่จะคว้าชัยชนะ จาก 4 ประตูที่เขาทำได้มีเพียงเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้นที่ไม่จบลงด้วยชัยชนะของทีม ซึ่ง บีเลเฟลด์ คาดหวังว่าแข้งชาวเมืองปลาดิบจะทำผลงานดีไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ 

ชาลเก้

อันดับ : 18 (ตกชั้นอัตโนมัติ) 

คะแนน : 10

ผลต่างประตูได้-เสีย : -54

โปรแกรมที่เหลือ : เอาก์สบวร์ก (เหย้า), ไฟร์บวร์ก (เยือน), บีเลเฟลด์ (เยือน), แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เหย้า), ฮอฟเฟนไฮม์ (เยือน), แฟร้งค์เฟิร์ต (เหย้า, โคโลญจน์ (เยือน)

ชาลเก้ อยู่ในอาการโคม่ามีโอกาสอยู่รอดน้อยเต็มทีจากการตามหลัง โคโลญจน์ ซึ่งอยู่อันดับเล่นเพลย์ออฟถึง 13 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมลงเตะเพียง 7 เกม หลังทีมราชันสีน้ำเงินคว้าชัยชนะเพียงครั้งเดียวและเก็บได้เพียง 10 คะแนนหลังสิ้นสุดแมตช์เดย์ที่ 27 ซึ่งคงต้องบอกว่า ชาลเก้ ต้องพึ่งปาฏิหารย์เท่านั้นในการคงสถานะสโมสรบุนเดสลีกาต่อไป แม้จะมีโอกาสอยู่รอดทางคณิตศาสตร์ แต่เมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมาของทีมของ ดิมิตริออส กรัมโมซิส ดูเหมือนว่ามันเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้คงต้องนับถอยหลังถึงการตกชั้นอย่างเป็นทางการเท่านั้น

คีย์แมน : คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ 

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาและเซ็นสัญญาระยะสั้นไปจนจบฤดูกาล ฮุนเตลาร์ ยิงประตูแรกกับทีมราชันสีน้ำเงินในเกมพ่าย เลเวอร์คูเซ่น 1-2 แมตช์เดย์ที่ 27 ซึ่งเป็นเกมแรกที่หัวหอกชาวดัตช์ออกสตาร์ทตัวจริงนับตั้งแต่หวนคืนสโมสร มันอาจทำให้แฟนๆชาลเก้ที่มีความหวังริบหรี่ยังพอคาดหวังได้บ้างในช่วงที่เหลือของฤดูกาล กองหน้าชาวดัตช์เคยทำ 126 ประตูจากการลงเล่น 240 เกมในช่วงแรกที่เล่นกับทีมราชันสีน้ำเงินระหว่างปี 2010-2016 และถ้าจะมีใครสามารถช่วยทีมสร้างปาฏิหารย์สำเร็จก็คงจะมีแค่นักเตะชื่อ ฮุนเตลาร์ เท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด