อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าสัญญาของกองหน้าวัย 22 ปีกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เหลือไปจนถึงกลางปี 2022 เท่านั้น แม้ทางต้นสังกัดยืนยันว่ากำลังพยายามต่อรองและมัดใจนักเตะเพื่อฉุดรั้งให้แข้งรายนี้เล่นใน ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ต่อไป แต่ดูเหมือนว่าตัวนักเตะยังคงนิ่งเฉยกับเรื่องดังกล่าว
จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีข่าวออกมาทุกวันถึงสถานการณ์และความเป็นไปของ เอ็มบั๊ปเป้ เพราะอย่าลืมว่าด้วยวัยที่ผ่านมาหลักสองมาได้เพียง 2 ปีเศษ กองหน้ารายนี้กลับประสบความสำเร็จและถูกจับตามองทุกฝีก้าว ส่วนหนึ่งมาจากการเล่นที่เกินวัยรวมไปถึงความสนใจของบรรดายักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปที่อยากกระชากตัวไปครอง
ที่ผ่านมา เปแอสเช พยายามอย่างหนักในการเจรจาโดยหวังว่ากองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสยังคงเชื่อใจแผนงานของสโมสร นี่คือนักเตะที่ว่ากันว่าจะกลายมาเป็นสตาร์คนใหม่ของโลกลูกหนังในวันที่ ลีโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงวัยเกษียณ
แต่อย่างที่ทราบกันไป ยิ่งเวลาผ่านเลยเท่าไหร่ความกังวลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับทาง เปแอสเช พวกเขาร้อนรนใจเพราะลึกๆ แล้วไม่อยากเสีย เอ็มบั๊ปเป้ ให้ทีมอื่น พวกเขามีแผนการอันยิ่งใหญ่ที่จะเขย่าบัลลังก์เจ้ายุโรป แต่หากต้องมาเสียแข้งวัย 22 ปี การสร้างทีมคงถอยหลังและมองหาตัวแทนกันใหม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ง่ายที่จะหานักเตะในระดับทัดเทียมกันได้ในทันที
กระนั้นสิ่งที่เป็นเรื่องดีของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในช่วงที่ผ่านมาคือท่าทีอันสงบเสงี่ยมของ เอบั๊ปเป้ ที่ไม่ออกมาสร้างข่าวหรือทำตัวเป็นจุดสนใจ (ทั้งที่ฝีเท้าและผลงานของเขาสามารถทำให้แสงไฟหันมาตนเองได้ตลอดเวลา) สิ่งที่หอกชาวฝรั่งเศสมุ่งมั่นคือการเล่นฟุตบอล การทำผลงานในสนาม นั่นคือสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก
เรื่องนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์เปแอสเชทราบดี และดูจะพอใจอย่างมาก เพราะมันช่วยลดแรงเสียดทานจากภายนอกลงมาได้
"เมื่อเราพูดถึงสโมสรชั้นนำและนักเตะชั้นนำอย่าง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ คนที่อยู่ในระดับนานาชาติ จะมีข่าวลือออกมาอยู่เสมอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ คีลียัน สงบเสงี่ยม เขาเงียบ มีสมาธิกับทีมและกำลังช่วยพวกเขาให้สำเร็จตามเป้าหมาย คีลียัน เป็นผู้ใหญ่มากแม้ว่าอายุเท่านี้
"ทั้งสโมสรและนักเตะกำลังพยายามทำข้อตกลงเพื่อที่จะให้ คีลียัน อยู่กับพวกเราต่อไปอีกยาวนาน มันเป็นความปรารถนาของสโมสร และเรากำลังพยายามทุกๆ ทาง
"คุณไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก (สโมสร) ได้ สิ่งเหล่านั้นจะส่งผลกับผลงานนักเตะหรือบรรยากาศในทีมหรือไม่? ไม่ ผลออกมาเป็นศูนย์"
ถือเป็นการย้ำอย่างชัดเจนอีกครั้งว่า เปแอสเช กำลังทุกวิถีทางในการรั้งตัว เอ็มบั๊ปเป้ ซึ่งเวลากำลังงวดเข้ามาทุกขณะ การตัดสินใจมาจากหลายปัจจัยรวมกันทั้งในส่วนของนักเตะซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะหากตัว เอ็มบั๊ปเป้ กำหนดอนาคตของตนเองไว้แล้วคงไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันไปได้
ฝั่ง เปแอสเช พร้อมรอคำตอบที่ชัดเจน เพราะอย่างน้อยๆ 'หาก' เป็นข่าวร้าย พวกเขาจะได้เตรียมรับมือได้ทันท่วงที กระนั้นสิ่งที่ทีมดังของกรุงปารีสอยากฟังคงเป็นคำว่า 'ตกลง' มากกว่า
มองล่วงหน้าไปถึงอนาคต ทางแยกมีเพียง 'อยู่หรือไป' หาก เอ็มบั๊ปเป้ ตกลงอยู่ต่อทุกอย่างก็จะจบ ข่าวลือที่ออกมาทั้งหมดจะถูกลืมเลือนไปโดยทันที แต่ถ้าเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางที่ว่านักเตะไม่ต่อสัญญา อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้
ทางเลือกแรกของ เปแอสเช คือยอมใช้งานนักเตะจนหมดสัญญา ยอมเสียตัวแบบฟรีๆ หลังจากจบฤดูกาลหน้า นั่นคือทางเลือกหนึ่งที่ 'อาจจะ' เกิดขึ้น
หรือ ... ตามข่าวที่ออกมาจากสื่อสเปนอย่าง อาส ซึ่งระบุว่าบอร์ดบริหารของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ได้เตรียมแผนการเอาไว้ในกรณีที่ เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ต่อสัญญา นั่นคือการวางราคาค่าตัวนักเตะราวๆ 120-150 ล้านยูโร โดยมีทีมที่สนใจอย่าง เรอัล มาดริด พร้อมดึงไปใช้งาน
แฟนบอลส่วนใหญ่คงทราบดีอยู่แล้วว่า อาส เป็นสื่อที่เอียงฝั่ง ราชันชุดขาว และหลายครั้งกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อสร้างกระแสการย้ายทีมของนักเตะที่ถูกโยงกับ โลส บลังโกส ซึ่งคราวนี้ก็ไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะมองว่าเป็นแค่ข่าวลือ กระนั้นเมื่อมันถูกแพร่กระจายออกไป ผู้คนเริ่มพูดถึงกันมากขึ้น มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บรรดาทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ จะออกมาให้เห็น และชักจูงให้คนคล้อยตาม
ล่าสุดอย่างที่เห็นรายงานของ ตุ๊ตโต้สปอร์ต กรณี 'เก้าอี้ดนตรี' ของ 3 นักเตะ อย่าง เอ็มบั๊ปเป้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เมาโร อีการ์ดี้
ตามรายงานของสื่อจากอิตาลีที่ลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาระบุว่าหาก เอ็มบั๊ปเป้ เลือกย้ายทีมไป เรอัล มาดริด ทางฝั่ง เปแอสเช จะดึงตัว โรนัลโด้ ซึ่งมีข่าวย้ายทีมเช่นกันในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยูเวนตุส จะมองไปที่ เมาโร อีการ์ดี้ หอกอาร์เจนติน่าของปารีส
เรื่อราวลักษณะเช่นนี้คงออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่างที่เรียนไปว่าจนกว่า เอ้มบั๊ปเป้ จะตัดสินอนาคตของตนเองออกมาอย่างชัดเจน สื่อในยุโรปก็พร้อมจะประโคมข่าวออกมาอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับ เอ็มบั๊ปเป้ นี่คือรอยต่อที่สำคัญเกี่ยวกับอนาคต การตัดสินใจทุกอย่างจะกำหนดทิศทางหลังจากนี้ว่าจะดำเนินไปเช่นใด จะอยู่ที่กรุงปารีสต่อไป หรือถึงเวลาในการเผชิญโลกกว้างเพื่อออกไปพิสูจน์ผลงานและยกระดับตนเองในลีกที่สูงกว่า พร้อมรับการแข่งขันและความท้าทายครั้งใหม่
สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครทราบได้เลย เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัว คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ว่าจะเลือกอนาคตของตนเองอย่างไร
กระนั้นการตัดสินใจของเขาจะส่งผลกระทบต่อวงการฟุตบอลอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากนี้ทุกสายตาจะจับจ้องไปยังแข้งวัย 22 ปีมากขึ้น สิ่งที่หลุดออกจากของเขาจะได้รับความสนใจเพิ่มอีกเท่าตัว
อนาคตของเด็กหนุ่มจากกรุงปารีสกำลังมาถึงจุดหักเห จะอยู่ต่อหรือถึงเวลาย้ายทีม เราคงได้ทราบกันหลังจากนี้
