:::     :::

ซีเนดีน ซีดาน ยอดโค้ชหรือแค่ชายผู้โชคดี ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์กับ เรอัล มาดริด มากมาย หากแต่ก็ยังมีผู้คนตั้งข้อสงสัยในความสามารถของ ซีเนดีน ซีดาน ในบทบาทของเทรนเนอร์อยู่ บ้างว่าเขาก็แค่โชคดี ทั้งที่ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย...มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ ?

หลังพา เรอัล มาดริด ทำผลงานสุดยอด เอาชนะ บาร์เซโลน่า ใน เอล กลาซีโก้ พร้อมเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ประเด็นนึงที่ถูกยกมาพูดถึงไม่น้อยเลยก็คือความสามารถในตัวของเทรนเนอร์อย่าง ซีเนดีน ซีดาน 

อดีตนักฟุตบอลชื่อดังอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ สตีฟ แม็คมานามาน กล่าวยกย่อง ซีดาน ในรายการ BT SPORT หลังจบเกมที่ แอนฟิลด์ ว่าเป็น สุดยอดโค้ชผู้ถูกประเมินความสามารถต่ำเกินไป (underrated coach)


แม็คมานามาน พูดว่า “หากเป็นเทรนเนอร์คนอื่น พวกเราคงยกย่องและปรบมือให้แล้ว, เขาทำงานของตัวเองได้วิเศษมาก ผู้คนมักคิดว่าเขาไม่ใช่อัจฉริยะด้านแท็คติก แต่จริงๆแล้วเขาเป็น” 

“เขาทำการบ้าน รู้ว่าต้องเล่นยังไง รู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล  มันเป็นการทำงานที่สุดยอด เขาสมควรได้รับเครดิต แน่นอนเขาสมควรได้รับเครดิตมากกว่านี้จากสื่อสเปนด้วย บางครั้งสื่อสเปนก็วิจารณ์เขาอย่างรุนแรง” 

ส่วน ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวว่า “ซีดาน เป็นคนที่มีความสามารถน่าเหลือเชื่อมาก เขาทำมันได้ในเวลาเพียงไม่นาน เขาเข้ามาคุมทีมและเริ่มคว้าโทรฟี่ไปเรื่อยๆ” 

“แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย ในฐานะเทรนเนอร์ ? มันสุดยอดมาก เขาไม่มีอะไรต้องพูด สมัยเป็นนักเตะเขาก็ไม่เคยพูดอะไร แต่ปล่อยให้ฟุตบอลพูด” 

ไม่เพียงแค่ เฟอร์ดินานด์ กับ แม็คมานามาน สื่อใหญ่ในอิตาลีอย่าง โกล อิตาลี ก็แสดงมุมมองเดียวกันว่ากุนซือฝรั่งเศสถูกตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม และจนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังคงถูกประเมินต่ำเกินไป


ในเกมเดียวกันนี้ (เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0) ผมอ่านเจอแฟนบอลบางคนแสดงความเห็นว่า ซีดาน โชคดีที่รอดมาได้ เพราะทีมเล่นแย่ โชคดีที่ กูร์กตัวส์ เซฟ ไม่งั้นคงตกรอบไปแล้ว 

อืม...นี่เขามองอะไรในเกมไม่เห็นเลย นอกจากลูกบอลที่วิ่งไปวิ่งมา ใครยิง ใครส่ง และใครเซฟ แค่นั้นจริงๆหรือ ? 

จากเรื่องนี้ทำให้รู้ว่ายังมีแฟนบอลและสื่ออีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่า ซีดาน ไม่ใช่โค้ชที่เก่งกาจอะไร เป็นแค่คนจัดทีม และเป็นแค่ชายผู้โชคดี แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยซ้อน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของ เรอัล มาดริด และวงการลูกหนังโลก ก็ตาม 


“มันง่ายที่จะคว้าแชมป์โดยที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีม” 

ที่ผ่านมา เรามักได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆหากมีการพูดถึงความสามารถของ ซีดาน แต่หลังจาก โรนัลโด้ ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ไปแล้ว ซีดาน ก็นำ มาดริด กลับมาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้อีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

ทำไมจึงมีคนที่คิดว่า ซีดาน ไม่เก่งด้านแท็คติก ? 

อาจเป็นเพราะว่า ซีดาน ไม่มีปรัชญาตายตัว อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า,เจอร์เก้น คล็อปป์,โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ โชโล่ ซิเมโอเน่

ก็เหมือนอย่าง มีม (meme) ล้อเลียน ซีดาน ทุกวันนี้ ที่เราเห็นอยู่ในโลกโซเชี่ยล

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า : tiki-taka

เจอร์เก้น คล็อปป์ : heavy mental football 

โชเซ่ มูรินโญ่ : counterattack 

โชโล่ ซิเมโอเน่ : Defensive football 

ซีดาน : tomorrow is a final  

มีมนี้อาจดูเป็นเรื่องตลก แต่มันคือความจริง บางครั้ง หรือ หลายๆครั้ง เมื่อเราพูดถึง ซีดาน เราไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงฟุตบอลแบบไหน มีวิธีการเล่นอย่างไร เราแค่รู้ว่าเขาเล่นเกมรุก 

ด้วยเหตุนี้จึงมีการค่อนขอดว่า ซีดาน ไม่ได้โค้ชอะไรนักเตะของเขาเลย เขาก็แค่ใส่รายชื่อลงไป แล้วจากนั้นพวกแข้งระดับโลกก็จะร่ายมนต์คว้าชัยมาให้เอง 

จริงๆแล้วฟุตบอลในแบบฉบับของ ซีดาน เป็นแบบไหน ? 

ฮอร์เก้ วัลดาโน่ บอกว่า ฟุตบอลของ ซีดาน นั้นเรียบง่าย เขาเชื่อในพรสวรรค์ เขารู้ว่ามีนักเตะที่ดี และนักเตะที่แย่ แล้วจากนั้นก็เชื่อมต่อฟุตบอลเข้ากับแนวทางที่เป็นธรรมชาติ

ซีดาน รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล เพียงแต่ทำให้แก่นของฟุตบอลนั้นเรียบง่าย เขาไม่มีระบบตายตัว ทุกคนรู้ว่าเขาชอบ 4-3-3 แต่ในหลายสถานการณ์ก็ปรับไปใช้ หลัง 3 ตัว หรือ 4-4-2 


ตัวอย่างเช่นฤดูกาล 2016-17 ตอนที่ แกเร็ธ เบล บาดเจ็บ ซีดาน เลือก อิสโก้ มาเล่นพร้อมกับทำการปรับระบบ 

ซีดาน โดดเด่นเรื่องการปรับทีมให้เข้ากับสิ่งที่เขามี แน่นอนว่าโดยธรรรมชาตินั้นคือฟุตบอลเกมรุก ทว่าจะเล่นแบบครองบอล หรือ เคาท์เตอร์ แอตแทค นั้นก็ขึ้นอยู่กับทรัพยากรในมือและคู่ต่อสู้


เทรนเนอร์ส่วนใหญ่วางระบบของตัวเองไว้ แล้วตามหานักเตะในแบบฉบับที่ต้องการ แต่ ซีดาน ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังปรับตัวเองเข้าหาทีมด้วย ซึ่งมันชัดเจนมากในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อ เรอัล มาดริด ไม่ได้ซื้อใครเข้ามาเลย 

ผมเชื่อว่าในเชิงแท็คติกแล้ว เขารู้ทุกอย่างเหมือนเช่นที่ วัลดาโน่ เอ่ยไปข้างต้น หากแต่เขาเลือกที่จะ rely on ตัวนักเตะมากกว่าแท็คติก ซึ่งนั่นคือแก่นแท้ของฟุตบอลในแบบฉบับของ ซีดาน  


ในการทำงานร่วมกับ คาร์โล อันเชล็อตติ หากจะมีเรื่องไหนที่ ซีดาน ได้รับอิทธิพลมามากที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องนี้ เพราะกุนซืออิตาเลี่ยนมีความเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเทรนเนอร์ทุกคนก็คือ “ความสัมพันธ์ที่เขามีกับนักฟุตบอล” 

คุณสามารถพูดถึงแท็คติกและเทคนิคต่างๆ มากมายสารพัน แต่ถ้าคุณไม่มีนักเตะอยู่เคียงข้าง คุณก็ไม่มีวันได้สปิริตและแรงจูงใจที่จะเอาไปใส่ในระบบที่คุณเซตเอาไว้  


สำหรับฟุตบอลในปัจจุบัน เทรนเนอร์ที่เน้นในเรื่อง motivation มากกว่าแท็คติก มักจะถูกดูแคลนว่าไม่มีความสามารถ ขาดการคิดอ่านวางแผน ปราศจากความลุ่มลึก ซึ่งก็อาจจะด้วยสมัยนิยม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จระดับโลกตะลึงของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ให้เห็นอยู่บ่อยๆ 


เราจะรู้สึก wow ไปกับกลยุทธ์ของ เป๊บ เสมอ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันมีรายละเอียดที่น่าเหลือเชื่อ มีวิธีการที่คาดไม่ถึงเพื่อที่จะให้ได้ผลการแข่งขันหรือบรรลุตามแนวทางที่วางไว้ เช่นแรงจูงใจในการเล่นแบบ false 9

แต่ ซีดาน ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขารู้ แต่เขาเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น เขาไม่ต้องการให้ โรนัลโด้,รามอส หรือใครก็ตามออกมากล่าวปกป้อง หรือแก้ต่างแทนว่าฟุตบอลในแบบฉบับของเขานั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน 


ศิลปะการจัดการภายในห้องแต่งตัว ที่ฝ่าย anti-zidane มองข้าม มันไม่ใช่สิ่งที่เทรนเนอร์คนไหนจะสามารถทำได้ โดยเฉพาะกับทีมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ มากอีโก้อย่าง เรอัล มาดริด 


การวางแท็คติกนั้นไม่ง่าย แต่การให้นักเตะทำตามแท็คติกนั้นคือขั้นกว่า ไม่เช่นนั้น ราฟา เบนิเตซ คงไม่ต้องระเห็จออกมาด้วยผลงานอันย่ำแย่เมื่อมกราคม  2016 อันกลายเป็นโอกาสให้ ซีดาน ได้ก้าวขึ้นมาแทน

ถ้าหากจะบอกว่า ซีดาน โชคดี ก็เห็นจะเป็นตรงจุดนี้นี่แหละมั้ง นอกนั้นผมคิดว่าไม่ใช่ 

เจมส์ ลา ลีกา 

 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด