แม้สาเหตุที่ “มุ้ย” ถอนตัวจะมาจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงโอกาสลงสนามรับใช้ บีจี ปทุมฯ ที่มีไม่มากนัก แต่ผู้เขียนเชื่อว่า หากไม่เลือดตกยางออกจนวิ่งไม่ไหว ยังไง อากิระ นิชิโนะ ต้องหนีบ เอล แดงดา ขึ้นเครื่องไปยูเออีด้วยอย่างแน่นอน
ว่ากันแบบไม่อ้อมค้อม สิ่งที่ ธีรศิลป์ มีคือประสบการณ์ และความเก๋าคอยประคองเกม ซึ่งจำเป็นสำหรับฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่
แต่เมื่อ “มุ้ย” ตัดสินใจ “ถอนตัว” น่าสนใจว่าใครจะมารับบทาทกองหน้าตัวเป้าแทนที่ดาวยิงหมายเลข 10 รายนี้
เหลียวไปมอง 47 แข้งที่ นิชิโนะ เรียกมาเตรียมเก็บตัวเข้าแคป์ซ้อมช่วงปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า มีผู้เล่นในตำแหน่ง “กองหน้า” ติดมี 4 คน
อดิศักดิ์ ไกรษร, ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม
หากแต่ยังไงซะ 1 ใน 4 คนนี้ต้องมีใครคนหนึ่ง รับบทบาทดาวยิงแทน ธีรศิลป์ อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะเกมที่ทัพช้างศึกต้องพบ อินโดนีเซีย วันที่ 3 มิ.ย.
สาเหตุเพราะในนัดดังกล่าว ธีรศิลป์ จะติดโทษแบน จากการสะสมใบเหลืองครบ ซึ่งต่อให้มุ้ยไม่ถอนตัว ก็จะหมดสิทธิลงเล่นในเกมนี้อยู่ดี
ในบรรดา 4 ตัวเลือกที่มีอยู่ปัจจุบัน หากถามผู้เขียนอยากเห็น ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม รับบทบาทกองหน้าตัวเป้ามากสุด
ระดับทีมชาติประสบการณ์ “เบียว” อาจเป็นรอง ศุภชัย ใจเด็ด ทว่าหากวัดกันเพียว ๆ ในผลงานลีกฤดูกาลนี้ ดาวยิงจาก ทรู แบงค็อกฯ ที่กดไป 12 ประตู ทำได้ดีกว่า “อาร์ม”
ขณะที่ อดิศักดิ์ เอง กับการท่าเรือ เขาถูกโยกไปเล่นเป็นตัวริมเส้นส่วนใหญ่ ส่วน ศุภณัฏฐ์ เองชั่วโมงบินในสนามฤดูกาลนี้ ค่อนข้างน้อย
ทำให้โอกาสไปอยู่ที่ ณัฐวุฒิ กับ ศุภชัย มากกว่า
อย่างไรก็ตามทั้งสองคน เป็นกองหน้าที่สไตล์ต่างกันอยู่แล้ว ในรายของ “เบียว” คือสไตร์เกอร์นักล่าประตูในกรอบเขตโทษ มีความเร็วและขยัน ต่างจาก ศุภชัย ที่สามารถถอยลงมาเล่นเป็นกองหน้าตัวต่ำ หรือถ่างไปริมเส้นได้ และค่อนข้างหลากหลายในเกมรุก
อยู่ที่ว่า นิชิโนะ จะเลือกใช้งานใครตามแท็คติกที่เขาใส่
แต่การมี “ตัวเลือก” กองหน้าสไตล์ที่ต่างออกไป ช่วยเพิ่มมิติในแง่แท็คติกของทีมได้เช่นกัน จึงทำให้ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่า หากไม่เจอตลกร้ายจนแข้งขาขยับไม่ไหว ณัฐวุฒิ จะเป็น 1 ในขุนพลทีมชุดนี้
แม้ก่อนหน้า “เบียว” จะเคยถูก นิชิโนะ เรียกมาติดทีมแล้ว ทว่าครั้งนี้คือเวทีระดับใหญ่หนแรกของเจ้าตัว
เรื่องความสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก หรือหัวจิตหัวใจเรารู้กันอยู่แล้วว่า ณัฐวุฒิ มีเต็มเปี่ยม ตั้งแต่ตัดสินใจเดินจากวงการโต๊ะเล็กสู่สนามใหญ่ ค่อย ๆ เติบโตในระดับเยาวชนแข้งเทพ ถูกส่งไปฝึกวิชาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ญี่ปุ่น จนกลับมายึดตัวหลักกับ ทรู แบงค็อกฯ ชุดใหญ่
วันนี้ ณัฐวุฒิ ในวัย 23 เดินมาไกลเกือบถึงฝั่งฝันแล้ว
อยู่ที่เจ้าตัวจะตอบแทนความเชื่อใจที่ เซนเซย์นิชิโนะ มอบให้ได้หรือไม่
ในห้วงเวลาอีกราว 1 เดือนเศษจากนี้
