แน่นอนว่านัดสุดท้ายนี้ จะไม่มีแฟนบอลเข้าสนาม แม้ว่า ศบค. จะอนุมัติ แต่ทุกอย่างเป็นกฏของ บ.ไทยลีก จำกัด ที่ต้องพึงปฏิบัติ ซึ่งวันนี้เราจะมาเช็คความพร้อมของพวกเขากันหน่อย หลังจากที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ นครปฐม ยูไนเต็ด ในเกมแรกไปก่อนแล้ว 2-1 แต่สงครามยังไม่จบก็อย่าเพิ่งคิดนับศพทหารแล้วกัน

ชิงกันหนที่ 3

นี่คือเกมที่น่าจับตามองเหลือเกิน เพราะพวกเขาจะต่อกรในรอบชิงรอบที่ 3 ซึ่ง 2 รอบแรกนั้น เริ่มจากในไทยลีก 4 ฤดูกาล 2018 ซึ่งเวลานั้น นครปฐม ยูไนเต็ด บุกไปเสมอก่อน 2-2 และกลับมาเฝ้าบ้านชนะ 3-2 ทำให้คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 5-4

พวกเขากอดคอกันขึ้นไทยลีก 3 แม้ว่าจะอยู่กันทีมละโซน แต่สุดท้ายก็โคจรมาพบกันในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งเวลานั้นพวกเขาการันตีเลื่อนชั้นไปแล้ว ส่วน แพร่ ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่ 3 ที่ได้ขึ้นไปเล่นในไทยลีก

ปรากฏว่า เกมแรก ขอนแก่น ยูไนเต็ด บุกไปชนะ 2-1 และกลับมาเฝ้าบ้านชนะ 2-1 สกอร์รถล่มไป 4-2 คว้าแชมป์ระดับประเทศไทยไปครองอย่างยิ่งใหญ่ 

รีแมตช์กึ๋นกุนซือ

ในปี 2019 เทรนเนอร์ของทั้งสองทีม ต่างวัดฝีมือในรอบชิงชนะเลิศ ของไทยลีก 3 รอบชิงแชมป์ประเทศไทย มาแล้ว และเป็น "โค้ชบอส"ปฏิภัทร รอบรู้ ที่พาทีมเอาชนะ 2-1 ทั้งสองเกม ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์สกอร์รวม 4-2

จากนั้น "โค้ชบอส" ก็คว้ารางวัลหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมแห่งปี (ไทยลีก 3) งานประกาศเกียรติคุณ FA Thailand Awards 2019 ก่อนจะขอแยกทางกับทีม เพื่อไปดูแลแม่ที่ป่วยอย่างใกล้ชิด

และเป็น "โค้ชธง"ธงชัย สุขโกกี ที่คุมทีมมาตลอดในการลุยไทยลีก 2 ซึ่งเจ้าตัวก็จัดการต้อนรับการกลับมาคุมทีมของ "โค้ชบอส"อีกครั้ง ด้วยการพาทีมบุกไปชนะ 1-0 เมือวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

การกลับมาของ "ซูเปอร์แมน"

ถือว่าเกมรุกฝืดไปมากไม่น้อย หลังอาการบาดเจ็บเช้าเล่นงาน ธนา ชะนะบุตร จนไม่สามารถใช้งานเขาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นทำให้ต้องฝากความหวังการทำประตูไว้ที่ เปาโล คอนราโด้ 

รวมทั้งดาวเตะจอมขยันอย่าง ลักษณะ คำรื่น, อลงกรณ์ จรนาทอง และ อาทิตย์ สุนทรพิธ ด้วยทีเด็ดจากการยิงไกลรวมทั้งฟรีคิก ทว่าในการเจอกับ นครปฐม ยูไนเต็ด อีก 2 เกมที่เหลืออยู่เวลานี้

มีรายงานว่าอดีตกองหน้าทีมชาติไทยและการท่าเรือ เอฟซี ซึ่งกลับมารับรับใช้บ้านเกิดซีซั่น 2018 อาจจะวางการเป็นผู้ช่วย "โค้ชบอส"ปฏิภัทร รอบรู้ และมีโอกาสที่จะเป็น "ซูเปอร์ซัพ" ในช่วงครึ่งหลัง เพราะสามารถกลับมาร่วมซ้อมกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้แล้ว

วันวัดใจเหล่าของดาวรุ่ง

ทั้งสองทีมจัดว่ามีดาวเตะหลายคนน่าจับตามอง โดยเฉพาะทีมเยือนนั้นมี ณัฐพล วรสุทธิ์ กองกลางตัวหลักที่คอยปั้ยเกม และเป็นตัวเชื่อมเกมจากหลังไปแผงแนวรุกได้อย่างสุดยอด โดยเฉพาะการเปลี่ยนบอลที่ทำได้อย่างแม่นยำเอามากๆ

แข้งรายนี้เข้ามาอยู่กับทีมตั้งแต่ไทยลีก 4 และผ่านการฝึกซ้อมกับ "สุขโกกี อคาเดมี"ของ "โค้ชธง" มาตั้งแต่อายุ 8 ชวบ ก่อนที่จะได้เข้าเรียน เทพศิรินทร์ เข้าไปอยู่กับทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และมาอยู่กับ นครปฐม ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 20 ปี

อีกคน คือ นพพล ละครพล เลือดเนื้อเชื้อไขชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นนายด่านมือหนึ่งของทีม โดยมีจุดเด่นที่ปฏิกิริยาที่ว่องไว การตัดสินใจที่เฉียบขาด ดูแล้วคุ้มค่ามากๆในการยืมจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ นครปฐม ยูไนเต็ด 

ขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด มี สุวิทย์ ไปพรมราช แบ็คซ้ายตัวจี๊ดที่เล่นได้ดีในตั้งแต่มาอยู่กับทีม ก่อนทีจะสถาปนาเป็นดาวเตะตัวหลักไปแล้ว ซึ่งจุดเด่นของเขาคงจะหนีไม่พ้น การเติมเกมและการลงบู๊ในแนวรับที่ทำได้อย่างมีวินัย

อีกคนเป็นกราบซ้ายที่เล่นกับ "โจ้แจ๋ว" อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือ "คอนเนอร์"ชิษณุพงษ์ โชติ ซึ่งเข้ามาเป็นแกนหลักของทีม หลังจากถูกยืมตัวมาจาก ชลบุรี เอฟซี โดยมีจุดเด่นที่การผ่านบอลแม่นยำ แถมยังสามารถเติมขึ้นลงได้อย่างยอดเยี่ยมเสียด้วย และเขานี่แหละที่เป็นคนยิงประตูตีเสมอ 1-1 ให้ "จงอางผยอง" ก่อนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ 2-1ในเกมแรก

2 ดาวยิงวัดความคม

นี่จะเป็นอีก 1 เหตุการณ์สำคัญที่น่าติดตาม กับ "ดาวซัลโว" ปะทะ "รองดาวซัลโว" ของไทยลีก 2 เวอร์ชั่น 2020-2021 ที่ผ่านมา

เปาโล คอนราโด้ การันตีด้วยการทำไป 25 ประตู นั่นทำให้เขาเพียงพอต่อการเป็น "ดาวซัลโว" ซึ่งเนื้อหอมอย่างมากในเวลานี้ แถมเขานี่แหละยังเคยลั่นไกลใส่ นครปฐม ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ นัดสอง ของไทยลีก 3 ทำให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะไป 2-1 คว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 4-2

ขณะที่ แฟร์ไรร่า ดอส ซานโตส พีคจริงๆในปีนี้ อาจจะไม่ใช่ประเภทหอกตัวเป้าคอยเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน แต่เขานี่แหละก็กดไป 23 ประตู ด้วยฟอร์มการเล่นที่้คลื่อนไหวไปกับบอลได้ดี กระชากลากเลื้อยสุดเจ๋ง ดูแล้วเหมือนกับ เธียรี่ อองรี ตอนที่ยังลีลาเหลือร้ายให้กับ อาร์เซน่อล จริงๆ ซึ่งต้องลุ้นกันต่อไปว่า นัดที่ 2 เขาจะลงสนามได้หรือไม่ หลังจากเกมแรกพลาดไปเพราะมีอาการบาดเจ็บ เชื่อว่าถ้าพอเข็นลงได้ก็คงต้องใช้งานเขาแน่นอน 

ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็น "จงอางผยอง" หรือ "เสือป่าราชา" ที่จะคว้าตั๋วขึ้นไทยลีกใบสุดท้ายได้สำเร็จ คำตอบอยู่ที่ 90 นาทีเศษๆ ในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. นี้แล้ว ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่สนามกีฬาโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม ใครจะได้ฉลองเป็นทีมสุดท้าย เดี๋ยวรู้กัน