ข่าวใหญ่ที่เล่นเอาวงการลูกหนังระดับสโมสรสั่นสะเทือนเวลานี้ไม่มีเรื่องไหนอีกแล้วนอกจากการมาของ 'ซูเปอร์ลีก' 

'ซูเปอร์ลีก' หรือเรียกในแบบฉบับสแปนิชว่า ' ลา ซูเปร์ลีกา' ได้ประกาศต่อโลกวันนี้ว่าพวกเขาถือกำเนิดแล้วภายใต้สโลแกน 

"Los mejores clubes. Los mejores jugadores. Cada semana"  (เหล่าสโมสรที่ดีที่สุด เหล่านักเตะที่ดีที่สุด ในทุกสัปดาห์) 

เวลานี้มีสโมสรที่ลงนามใน ซูเปอร์ลีก แล้ว 12 ทีมด้วยกัน อันได้แก่ เรอัล มาดริด,บาร์เซโลน่า,แอต.มาดริด, แมนฯยูไนเต็ด,ลิเวอร์พูล,อาร์เซน่อล,เชลซี,สเปอร์ส,แมนฯซิตี้,อินเตอร์ มิลาน,ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน

ที่ไม่ร่วมลงนามก็เป็นทางฝรั่งเศสกับเยอรมัน ด้วยเหตุนี้เราจึงยังไม่เห็นรายชื่อของทีมอย่าง เปแอสเช,บาเยิร์น มิวนิค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

..................................

ซูเปอร์ลีกคืออะไร ?

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือทัวร์นาเมนต์ที่สโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหวังตั้งกันขึ้นมาเอง เพื่อโกยเงินเข้ากระเป๋ามากกว่าเดิม 

อาจไม่พูดถึงผลกระทบต่อ ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จัดแข่งขันโดย ยูเอฟ่า (สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป) โดยตรง หากแต่ถ้ามันเกิดขึ้นมา ก็แน่นอนว่าฟุตบอลสโมสรยุโรป 2 รายการหลักในปัจจุบันอย่าง  ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก  กับ ยูโรป้า ลีก จะเหมือนโดนคลื่นยักษ์สึนามึถล่ม

คุณค่าของ ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ถูกยกให้เป็นเวทีระดับสุดยอดทั้งในแง่ของคุณภาพฟุตบอล ความเร้าใจ ความนิยม และผลตอบแทนอันมหาศาล  จะหายวับไปกับตา 

ก็อย่างที่บอกว่ามันเหมือนคลื่นยักษ์สึนามึ 

..................................

ใครจะลงเล่นใน ซูเปอร์ลีกบ้าง ? 

เวลานี้ก็คือ 12 ทีมที่ร่วมลงนามก่อตั้งอย่างที่เขียนถึงไปข้างต้น ซึ่งอาจมีเพิ่มอีกหากการเจราจาสามารถบรรลุข้อตกลงกับสโมสรอื่นๆได้อีก 

..................................

รูปแบบการแข่งขัน ?

แนวคิดแรกเริ่ม ซูเปอร์ลีก จะมีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 20 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม เล่นแบบเหย้า-เยือน 

หลังจากนั้นจะคัดเอาทีมอันดับ 1-3 ของแต่ละกลุ่มผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนั่ล ส่วนทีมอันดับ 4 กับ 5 ของแต่ละกลุ่มจะต้องเล่นเพลย์ออฟเหย้า-เยือน เพื่อคัดอีก 1 ทีมของแต่ละกลุ่มรวมเป็น 8 ทีมเข้าสู่รอบคอวเตอร์ไฟนั่ล 

ในรอบควอเตอร์ไฟนั่ล จะเป็นการเล่นแบบน็อคเอาท์เกมเดียว ไม่มีเหย้า-เยือน จะแข่งกันในสนามเป็นกลาง เรื่อยไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ 

..................................

เริ่มแข่งช่วงไหน-แข่งวันอะไร ? 

ตามข้อมูล ซูเปอร์ลีก แต่ละซีซั่นจะเริ่มทัวร์นาเมนท์ในเดือนสิงหาคม และจะจบในเดือนพฤษภาคม ส่วนวันแข่งขันนั้นก็จะเล่นกันในช่วงกลางสัปดาห์ หรือให้จำกันง่ายๆก็คือมันจะเป็นเวลาแข่งเดียวกับ ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปัจจุบันนั่นเอง 

…………………………….

แข่งฤดูกาลแรกเมื่อไหร่ ?

เวลานี้ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน 

…………………………….

เป็นการแข่งขันแบบปิด หรือ มีตกชั้น-เลื่อนชั้น ? 

เหตุที่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่นิ่งในเรื่องของจำนวนทีมที่เข้าร่วม จากข่าวตอนแรกจะมี 20 ทีม มีทีมหลัก 15 ทีม และทีมรับเชิญอีก 5 ทีม (ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์พิจราณาจากผลงานในลีก) 

แต่จากการที่สโมสรจากฝั่งเยอรมัน กับ ฝรั่งเศส ยังนิ่งไม่เคลื่อนไหว ทำให้ ซูเปอร์ลีก ในเวอร์ชั่นแรกอาจจะมี 15 ทีม คือสโมสรร่วมก่อตั้ง 12 + กับ 3 ทีมรับเชิญ ซึ่งตรงนี้ทำให้รูปแบบยังไม่ชัดเจนตายตัว 

แต่โดยหลักการของ ซูเปอร์ลีก แล้ว 12 ทีมผู้ร่วมก่อตั้ง อันได้แก่ เรอัล มาดริด,บาร์เซโลน่า,แอต.มาดริด, แมนฯยูไนเต็ด,ลิเวอร์พูล,อาร์เซน่อล,เชลซี,สเปอร์ส,แมนฯซิตี้,อินเตอร์ มิลาน,ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน จะไม่ตกชั้น 

..................................

การรวมตัวของ 12 สโมสรก่อตั้งซูเปอร์ลีก นั้นแน่นอนเจตนาเพื่อขึ้นมาทดแทน ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยแม้แต่น้อย 

อดีตที่ผ่านมา มีความพยายามของสโมสรยักษ์ใหญ่ที่จะจัดตั้งลีกของตัวเองขึ้นมาโดยตลอด เพื่อที่ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องรอรับส่วนแบ่งจากทาง ยูฟ่า 

พูดง่ายๆก็เหมือนกลุ่มนักแสดงที่กำลังจะเฮโลออกจากช่องต้นสังกัดมาสร้างภาพยนต์ หรือละครของตัวเอง หาโฆษณาเอง แล้วแบ่งตังค์กัน โดยที่ไม่ต้องรอคอยส่วนแบ่งจากช่องอีกต่อไปแล้ว 

สาเหตุนั้นก็เพราะพวกเขามั่นใจว่าตัวเองมีฐานแฟนที่แน่นหนา สามารถทำการตลาดเองได้อย่างแน่นอน ยิ่งดาราแม่เหล็กมารวมตัวกันมากเท่าไหร่ ละครหรือหนังก็ยิ่งการันตีว่าจะได้รับการตอบรับจากคนดูแน่ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น โฆษณาก็จะวิ่งเข้าหาชนิดเปิดประตูรับกันไม่ทัน (นี่คือสิ่งที่กลุ่ม 12 ทีมคิด) 

รับเองเน้นๆ เรื่องอะไรจะต้องไปแบ่งให้กับคนที่ไม่ได้ร่วมแสดงด้วย !  ยิ่งเดี๋ยวนี้ ช่องทางการออกอากาศมีมากมาย ยิ่งไม่ต้องง้อเจ้าของช่อง 

..................................

อดีตที่ผ่านมา มันก็เป็นเช่นนี้มาตลอด แล้วถามว่า "ทำไม ซูเปอร์ลีก ถึงไม่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ?" 

ก็เพราะว่า ยูเอฟ่า และ ฟีฟ่า ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น 

การเกิดของ ซูเปอร์ลีก อาจพูดได้ว่าเท่ากับการตายของ ยูเอฟ่า ซึ่งที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีความพยายามที่จะผลักดัน ซูเปอร์ลีก ทาง ยูเอฟ่า ก็จะหาวิธีการมาจัดการ ซึ่งก็มีทั้งไม้แข็ง ไม้อ่อน 

ไม้แข็งคือขู่ จะลงโทษแบน ตัดออกจากการแข่งขันในระดับประเทศ ระดับทวีป และระดับนานาชาติ ทั้งสโมสรและตัวนักเตะที่เข้าร่วม ซึ่งรวมถึงการเล่นในระดับทีมชาติอีกด้วย 

ส่วนไม้อ่อนก็คือการจัดสรรปันส่วนรายได้ที่มากขึ้น และดูเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้สามารถพูดได้ว่าแนวคิดเรื่องก่อตั้งซูเปอร์ลีกในอดีตที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้ ยูเอฟ่า พยายามปรับเปลี่ยนระบบแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปของตัวเองมาโดยตลอด จาก ยูโรเปี้ยนคัพ มาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบัน เหตุผลส่วนนึงก็มาจากต้องการคุมกำเนิด ซูเปอร์ลีก นั่นเอง 

จากที่มีแค่ทีมแข่งของแต่ละชาติมาแข่ง ก็เพิ่มจาก 1  เป็น 4 จากที่ไม่มีรอบแบ่งกลุ่มก็มี เพื่อเพิ่มจำนวนแมตช์ให้มากขึ้น ทำให้สามารถสร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดได้เพิ่มขึ้น 

มีความพยายามอยู่เนืองๆในช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เนื่องจาก ยูเอฟ่า ก็ปรับเปลี่ยน เกลี่ยผลประโยชน์ ขู่ลงโทษ และโน้มน้าวจนสโมรยักษ์ใหญ่พึงพอใจ ยอมรับข้อเสนอ

มาครั้งนี้ก็เช่นกัน ยูเอฟ่า ก็รู้แกวจึงพยายามคลอด แชมเปี้ยนส์ลีก เวอร์ชั่นใหม่ออกมาที่รอบแบ่งกลุ่มจะมีทั้งสิ้น 36 ทีม แบ่งเป็น 6 กลุ่ม (ของปัจจุบันมี 32 ทีม) นับจากฤดูกาล 2024-25 ซึ่งจะประกาศให้ทราบกันในวันจันทร์นี้ 

..................................

ซูเปอร์ลีก จะดีกว่า ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือไม่ ?

ตรงนี้แล้วแต่มุมมองและความชอบส่วนตัวของแฟนบอล สิ่งที่ ซูเปอร์ลีก รับประกันให้กับแฟนๆได้ก็คือ แต่ละเกมของพวกเขาจะเป็นยักษ์ชนยักษ์ทั้งสิ้น ซึ่งต่างจาก แชมเปี้ยนส์ลีก ที่บางแมตช์ ก็จะเป็นการเล่นระหว่างยักษ์ใหญ่กับทีมห่างชั้น ที่แฟนไม่ให้ความสนใจ 

กระนั้นก็ตาม ความอันตรายของ ซูเปอร์ลีก ก็อาจอยู่ตรงนี้ ตรงจุดที่ 12 ทีมฟาวเดอร์คิดว่าเป็นจุดแข็ง นั่นคือ ความซ้ำซากจำเจ 

เราตื่นเต้นที่ได้ดู ลิเวอร์พูล เล่นกับ บาร์เซโลน่า หรือ แมนฯยูไนเต็ด ดวลกับ เรอัล มาดริด แต่มันจะรู้สึกตื่นเต้นได้ตลอดเวลาหรือเปล่า หากเราได้ดูทีมเหล่านี้เจอกันในทุกๆกลางสัปดาห์เป็นเวลา 10-20 ปีติดต่อกัน ? 

ถ้าความยากทำให้เกิดความพิเศษ อันนำมาซึ่งความตื่นเต้น แบบนี้ ซูเปอร์ลีก ก็อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะมันจะส่งผลกระทบไปถึงการลุ้นฟุตบอลลีกของแต่ละชาติด้วยเช่นกัน 

ความอารมณ์ความรู้สึกในการลุ้นให้ทีมรักทำอันดับติดท็อปโฟร์ก็จะหายไป เพราะหากทีมคุณเป็น 1 ใน 12 สโมสรผู้ร่วมก่อตั้ง ยังไงก็ได้เข้าร่วม และไม่มีวันตกชั้น 

ทีมคุณจะกลับมาเล่นถ้วยนี้ทุกปี และทีมคุณจะต้องเจอกับคู่แข่งชั้นยอดซ้ำไปซ้ำมา โดยที่ไม่ต้องลุ้นอะไรมาก แพ้ก็ไม่ตกชั้น ในลีกคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอันดับ ซึ่งมันอาจส่งผลร้ายที่คาดไม่ถึง เช่น การจัดทีมในลีกที่ให้ความสำคัญน้อยกว่าใน ซูเปอร์ลีก 

จริงอยู่ว่า เมื่อถึงเกมนัดสำคัญของ แชมเปี้ยนส์ลีก มันมีเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อคุณไม่ต้องห่วงว่าจะติดท็อปโฟร์หรือไม่ การจัดทีมแบบไม่เน้นก็อาจจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งนั่นคือผลเสียในระยะยาว 

..................................

ประโยชน์ของ ซูเปอร์ลีก ?

ก็อย่างที่บอกคนดูจะได้ดูเกมใหญ่ทุกสัปดาห์ ไม่มีทีมเล็ก ไม่มีม้ามืด ดู มาดริด ฟัดกับ อินเตอร์ มิลาน หรือ แมนฯซิตี้ อัดกับ แอต.มาดริด ให้ฉ่ำปอด 

ส่วนสโมสรผู้ร่วมก่อตั้งก็จะรวยอู้ฟู่ ได้รับส่วนแบ่งกัน 2 เท่า รายได้จากลิขสิทธิ์ทีวี+สปอนเซอร์ 32.5% จะเข้าสโมสรที่เป็นผู้ก่อตั้งอย่างเท่าเทียมกัน  และอีก 32.5% จะเป็นการแบ่งให้สโมสรที่เข้าร่วมใน ซูเปอร์ลีกในฤดูกาลนั้นๆ  

สรุปง่ายๆก็คือสโมสรที่เป็นผู้ก่อตั้งจะได้รับเงินถึง 2 เท่านั่นเอง 

.........................

สุดท้าย ซูเปอร์ลีก จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? 

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานซูเปอร์ลีกคนแรก กล่าวว่า "ความรับผิดชอบของเราในฐานะสโมสรใหญ่ก็คือการตอบสนองความต้องการของแฟนบอล"

ถ้าแฟนบอลส่วนใหญ่ตอบรับ ซูเปอร์ลีก ก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าแฟนๆไม่ตอบรับ มันก็จะพังทลายในพริบตา 

นอกจากนี้ยังมีทาง ยูเอฟ่า ที่ออกโรงขัดขวางอย่างเต็มตัว มันจึงไม่ง่ายแม้แต่น้อยที่จะเกิดขึ้น หากแต่โลกนี้ โดยเฉพาะในโลกแห่งลูกหนัง 

"อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น" รอดูกันต่อไปครับ

         เจมส์ ลา ลีกา