หากเอ่ยถึงเอฟเอ คัพ อังกฤษ นอกจากเป็นทัวร์นาเมนต์บอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกกว่า 150 ปีแล้ว นี่ยังเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ที่เข้มข้นมากที่สุดรายการหนึ่งของโลก ผ่านเรื่องราว, ประวัติศาสตร์ และบรรดาลูกยิงอย่างมากมาย 

หนึ่งในลูกยิงที่หลายคนยกให้สวยที่สุดในรายการนี้ นั่นคือลูกยิงของ “ไรอัน กิ๊กส์” อดีตปีกซ้ายของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฝากเอาไว้ในเกมกับอาร์เซน่อล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1998-99 โดยเป็นลูกที่เขาจัดการลากโซโล่เดี่ยวกว่าครึ่งสนาม พร้อมกับเข้าไปยิงแสกหน้าเดวิด ซีแมน 

คำถามที่หลายคนสงสัยว่า จังหวะนั้น เจ้าของฉายา “ปีกพ่อมด” กำลังคิดอะไรอยู่ ถึงตัดสินใจลากไปยิงเองแบบนั้น รวมถึงบรรดานักเตะอาร์เซน่อล คิดอะไรอยู่ และมีปฏิกริยาอย่างไรบ้าง ? เมื่อโดนลูกกระชากเข้าไปยิง ..... ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำเหตุการณ์นั้นกัน 

ย้อนกลับไป ศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ 1998-99 ที่สนามวิลล่า พาร์ค โดยถือว่าเป็นเกมนัดรีเพลย์ ระหว่างสองทืมใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับอาร์เซน่อล หลังจากในเกมแรกเสมอกันมาก่อน ด้วยสกอร์ 0-0 ทำให้เกมนี้มีความหมายมาก เพราะมีตั๋วสู่นัดชิงชนะเลิศเป็นเดิมพัน 

เกมดังกล่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน จากการยิงของ เดวิด เบ็คแฮม ในช่วงนาทีที่ 17 อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล มาตามตีเสมอ จากการยิงของเดนนิส เบิร์กแคมป์ กระนั้น ระหว่างเกมก็เกิดเหตุการณ์ดราม่าตามมาอย่างมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธลูกยิงที่ซัดเข้าไปแล้วของทางนิโกล่าส์ อเนลก้า ตามมาด้วยการยิงจุดโทษพลาดของเดนนิส เบิร์กแคมป์ รวมไปถึงการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามของรอย คีน อันนำมาซึ่งการยิงประตูชัยของไรอัน กิ๊กส์ ในนาทีที่ 109 นั่นเอง 

ไรอัน กิ๊กส์ ออกมาย้อนความทรงจำว่า เกมนั้นเขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเขาต้องเริ่มเกม ด้วยการเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น จากนั้น เขาได้รับโอกาสลงสนาม เมื่อถูกส่งลงมาเล่นแทนเยสเปอร์ บรอมควิสท์ ไม่เพียงก่อนเกมเท่านั้น เขายังหงุดหงิดกับฟอร์มการเล่นของตัวเองเพิ่มเติมด้วย เมื่อแต่ละจังหวะ ไม่เป็นไปตามที่ใจหวัง 

กิ๊กซ์ ขยายความว่า เขาลงสนามมา และทำเสียบอลตลอดเวลา ดังนั้น เขาจึงเกิดความคิดภายในใจแล้วว่า หากว่าได้บอลในจังหวะต่อไป เขาจะลองเลี้ยง และกระชากมันดู กระทั่งปาทริค วิเอร่า ทำการจ่ายบอลพลาดกลางสนาม เขาเลยรีบทำแบบที่คิดเอาไว้เลย 

กิ๊กซ์ กระชากบอลผ่านวิเอร่า ตามมาด้วยลี ดิ๊กสัน, มาร์ติน คีโอว์น และโทนี่ อดัมส์ ซึ่งถือว่าเป็นเหล่ากองหลังสุดหินของอาร์เซน่อล ก่อนจะเข้าไปยิงแสกหน้าเดวิด ซีแมน เสยเพดานตาข่ายอย่างที่เราทราบกัน กิ๊กส์ บอกว่า เขาตัดสินใจกระชากบอลไปเรื่อยๆ ผ่านคนแล้วคนเล่า กระทั่งส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายเป็นผลสำเร็จ 

อดีตปีกทีมชาติเวลส์ กล่าวต่อว่า หลังจากจบเกมใหม่ๆ เขาไม่เคยคาดคิดว่า ลูกยิงที่ตัวเองสามารถทำได้ จะมีความสวยงามอะไรขนาดนั้น กระทั่งมีบรรดานักข่าวมารุมถามว่า -นี่เป็นประตูที่สวยที่สุดในชีวิตหรือเปล่า ?- เขายังมองว่า ยังมีหลายประตูที่ยิงได้สวยกว่านี้เหมือนกัน 

จากนั้น กิ๊กส์ บอกว่ามานั่งชมเทปย้อนหลัง พร้อมกับนั่งดูลูกยิงลูกนั้นของตัวเองอย่างละเอียด ทำให้เห็นว่า ตัวเองกระชากบอลผ่านผู้เล่นไปหลายคนมาก ก่อนจะปิดท้ายว่า จังหวะที่กำลังกระชากไปนั้น แทบจะไม่ได้คิดอะไรเลย โดยเป้าหมายเพียงแค่อยากให้ทีมได้ประตูเท่านั้น 

หลังจากยิงประตูชัยดังกล่าว กิ๊กส์ ดีใจด้วยการถอดเสื้อแข่งออกมา พร้อมกับโชว์แผงขนหน้าอก และวิ่งไปดีใจกับเพื่อนร่วมทีมแบบสุดขีด ซึ่งเขายอมรับแบบติดตลกเอาไว้ว่า หากสามารถย้อนเวลากลับได้ เขาจะไม่มีวันทำแบบนั้นอีกอย่างแน่นอน 

ขณะที่เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อดีตกองกลางอาร์เซน่อล ที่ลงสนามในเกมนั้นด้วย บรรยายลูกยิงดังกล่าวว่า มันเป็นช่วงเวลาแห่งความอัจฉริยะเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เขาทำการย้อนดูเกมนั้นแบบเต็มเกมเพียงแค่ 2 ครั้ง แต่บอกไม่ได้หรอกว่า เขาย้อนดูลูกยิงสุดมหัศจรรย์ของ กิ๊กส์ กี่รอบ

เปอตีต์ ยกย่องคู่แข่งแบบมีสปิริตต่อไปว่า ทุกครั้งที่ย้อนดูจังหวะที่กิ๊กส์ เริ่มออกวิ่ง เขาก็คิดทันทีว่าทีมต้องพบกับหายนะอย่างแน่นอน ตอนที่กิ๊กส์ ทำประตูได้ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย เพราะตอนแรกนั้น เขานึกเอาว่า มาร์ติน คีโอว์น หรือ ลี ดิ๊กซั่น จะไล่เตะจนล้ม แต่มันก็ไม่เป็นผล 

เปอตีต์ ทิ้งทายว่า เขากับกิ๊กส์ เคยร่วมงานกันเป็นนักวิเคราะห์ของศึก ยูโร 2016 ด้วยกัน เขาลองถาม กิ๊กส์ ไปว่าเขายิงประตูแบบนั้นได้ยังไงกัน ? พร้อมกับกระชากหนี คีโอว์น กับ ดิ๊กซั่น ไปได้ยังไง ? ซึ่งกิ๊กส์ ตอบกลับว่า -เขาก็แค่วิ่งเร็วเกินไป มันก็เท่านั้นเอง-“