:::     :::

จิตวิญญาณเบนเซม่า

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน 2564 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,307
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คาริม เบนเซม่า หัวหอกชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังสำคัญและทำผลงานโดดเด่นกับทีมชุดขาวนับตั้งแต่การอำลาสโมสรของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

คาริม เบนเซม่า หัวหอกชาวฝรั่งเศสก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในแนวรุกของทัพ 'โลส บลังโกส' นับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อำลาถิ่น 'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' ย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018

เบนเซม่า กระทุ้ง 21 ประตูเท่ากันบนเวทีลีกา 2 ปีแรก เขายิง 30 กับ 27 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการในช่วงเวลาดังกล่าว 

แม้วัยจะล่วงเลยมาแตะหลัก 33 ปีแล้วก็ตาม แต่ 'เบนซ์' ยังทำผลงานร้อนแรงต่อเนื่อง หลังยิง 21 ประตูจากการลงเล่นลีกเมืองกระทิงซีซั่นนี้ 28 เกมและกดรวมกัน 27 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 38 เกม มีส่วนสำคัญต่อการลุ้นแย่งแชมป์ 2 รายการทั้ง ลา ลีกา กับ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 

ดังนั้น เรอัล มาดริด จึงไม่ลังเลที่จะขยายสัญญากับ เบนเซม่า ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 แทนฉบับเดิมที่เหลืออายุการใช้งานเพียงหนึ่งปีตอบแทนการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักเตะ 


ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ทีมชุดขาวกล่าวถึงลูกน้องคนสำคัญว่า 'ผมยินดีกับฟอร์มการเล่นของเขา'

'เรารู้ดีว่าเขามีความสำคัญกับเกมของเราแค่ไหนและไม่ใช่เพียงเพราะการทำประตูของเขาเท่านั้น'

'เขาทำให้คนรอบข้างเขาเล่น, พวกเราสนุกกับการดูเขาและผมหวังว่า เรอัล มาดริด จะสนุกกับเขาต่อไปอีกนาน'

เบนเซม่า ย้ายจาก ลียง มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 ช่วงเวลาเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โยกจาก แมนฯยูไนเต็ด มาอยู่กับทีมชุดขาว ทว่าอดีตเด็กปั้นทีมโอแอลมีบทบาทเพียงช่วยสนับสนุนซุปตาร์ชาวโปรตุกีสสร้างความโดดเด่นตลอดช่วง 9 ปีที่ทั้งสองคนเล่นร่วมกัน

จนกระทั่ง 'เบนซ์' ก้าวพ้นหลืบเงาของ โรนัลโด้ เมื่อกองหน้าทีมชาติโปรตุเกสอำลาสโมสรเพื่อย้ายไปค้าแข้งกับทีมเบียงโคเนรี่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018


นับจนถึงปัจจุบันมีอดีตนักเตะ เรอัล มาดริด เพียง 4 คน หลัง เบนเซม่า กดรวมกัน 276 ประตู ตามหลังเฉพาะ โรนัลโด้ (450), ราอูล กอนซาเลซ (323), อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (308) กับ การ์ลอส อลอนโซ่ กอนซาเลซ ซานตียาน่า (290) และถ้า 'เบนซ์' เล่นจนครบสัญญาในปี 2023 ก็มีโอกาสจะทำสถิติขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากซุปตาร์ชาวโปรตุกีสเท่านั้น

เบนเซม่า เริ่มต้นชีวิตวัยเด็กด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยความรักในฟุตบอลและการสร้างสายใยครอบครัวที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งค้ำจุนและเตือนใจกองหน้าวัย 33 ปีตลอดเวลาว่าเขามาจากไหน

'ครอบครัวของผมเป็นแรงบันดาลใจให้ผม' เบนเซม่า เผย 'ค่านิยมและศีลธรรมที่พ่อแม่มอบให้ผมช่วยให้ผมยังคงเป็นคนเดิม ความเชื่อของผม (เบนเซม่า เป็นมุสลิม) ยังช่วยให้ผมมีสมาธิในแต่ละวัน มันทำให้ผมได้รับประโยชน์และเป็นจุดแข็งของผม, ครอบครัวผมและสำหรับงานของผม สำหรับทุกสิ่งอย่างแท้จริง'

ช่วงวัยเด็ก แรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลของเขาคือ โรนัลโด้ นาซารีโอ ซึ่งเคยยิง 169 ประตูในการค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด 'มันเป็นเพราะเขาที่ทำให้ผมตกหลุมรักฟุตบอล เขามีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างที่นักเตะใฝ่ฝันที่จะมี เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมท้าทายตัวเอง'


เบนเซม่า ตกลงย้ายเข้าอะคาเดมี่ของ ลียง ตอนอายุ 14 ปี ด้วยความมั่นใจว่าเขาจะหลีกเลี่ยงสิ่งล่อใจต่างๆนานาที่อาจเป็นอุปสรรคต่ออาชีพค้าแข้งของเขา ก่อน ปอล เดอ กูแอ็น จะเรียกหนุ่มเบนซ์ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลังเห็นนักเตะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วจนทำให้เขามีโอกาสอยู่ในทีมเดียวกับ ไมเคิ่ล เอสเซียง, ซิลแว็ง วิลตอร์, ฟลอร็องต์ มาลูด้า และ เอริก อบิดาล 

เขาเปิดตัวบนเวที ลีก เอิง ตอนอายุ 18 ปี ก่อนยิง 66 ประตูจากการลงเล่น 166 เกม คว้าแชมป์ลีกเมืองน้ำหอม 4 สมัย จนกระทั่ง เรอัล มาดริด ควักเงิน 35 ล้านยูโรเซ็นสัญญากับเขาในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 จากการชักชวนด้วยตัวเอง ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานทีมชุดขาวปาดหน้า แมนฯยูไนเต็ด เนื่องจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการดาวยิงวัยรุ่นของทีมโอแอลไปร่วมทัพปีศาจแดงเช่นเดียวกัน

ฟลอเรนตีโน่ มองเห็นสิ่งที่อยู่ในตัว เบนเซม่า เหมือนที่เขาเห็นใน ซีดาน ดังนั้นประธานทีมชุดขาวจึงไม่ลังเลที่จะเดินทางไปเยี่ยมนักเตะและครอบครัวของเขาถึงที่บ้านของพวกเขา ซึ่งเขาสามารถโน้มน้าวจนนักเตะตัดสินใจย้ายมาสเปนสำเร็จจนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งตำนานของสโมสร

'ฟังนะ คาริม, นี่ไม่ใช่ฝรั่งเศส แต่มันคือ เรอัล มาดริด และถ้านายต้องการเล่นที่นี่ นายต้องทำงานให้หนักขึ้น' โรนัลโด้ กล่าวกับ เบนเซม่า ตอนย้ายมาอยู่กับมาดริดราว 2 เดือน

เบนเซม่า ทำตามคำแนะนำนั้น ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ ยังคงปลุกเร้าให้เขาต้องทำมากกว่านี้เสมอ 


แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เบนเซม่า มีอาการโฮมซิคและไม่มีความสุข เขาเกลียดอาหารที่ค่อนข้างเลี่ยนและยังต้องดิ้นรนแย่งตำแหน่งกับ กอนซาโล่ อีกวาอิน ในเวลาเดียวกันด้วย แต่เขายังสามารถฉกฉวยโอกาสได้ดีหลังกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์บาดเจ็บ แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ทีมชุดขาวในขณะนั้นให้สัมภาษณ์สื่อว่า 'ถ้าปราศจาก อีกวาอิน เราจะมีปัญหา'

'ถ้าคุณไม่มีหมาไปล่าสัตว์ด้วยกัน แต่คุณมีแมว คุณต้องพาแมวไปด้วยเพราะคุณไปด้วยตัวเองไม่ได้' มูรินโญ่ เปรียบเปรย ก่อน 'เอล กาโต้' หรือ แมว จะกลายเป็นอีกหนึ่งฉายาที่สื่อเมืองกระทิงพูดถึง เบนเซม่า

วิธีการตอบโต้ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้คือผลงานในสนาม ซึ่ง เบนเซม่า ทำได้ดีในซีซั่นนั้น (2010-2011) จากการยิง 25 ประตูในการลงเล่น 1,800 นาที มีค่าเฉลี่ยยิงหนึ่งประตูในทุก 72 นาที เขายิง 13 ประตูจากการลงเล่น 15 เกมหลังสุด, 6 ประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก และ 5 ประตูในรายการ โกปา เดล เรย์ ซึ่งปิดฉากด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในปีนั้น 

วันหนึ่ง เบนเซม่า เคยเผชิญหน้ากับ โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงห้องพักในโรงแรมเพื่อสอบถามกุนซือชาวโปรตุกีสว่าเป็นเพราะเหตุใดเขาจึงไม่ได้ลงเล่นมากเท่าที่ควร มันเป็นสิ่งดีสุดที่เขาสามารถทำได้ ก่อนได้รับคำชี้แจงจาก 'มู' ว่าเขารู้สึกว่า 'เบนซ์' ขาดแรงผลักดันและความกล้าในการต่อสู้ 


การตัดสินใจครั้งนั้นของ เบนเซม่า มีส่วนทำให้ มูรินโญ่ ตระหนักเป็นครั้งแรกว่านักเตะที่สงบเสงี่ยมเจียมตัวปราศจากปัญหาอย่าง เบนเซม่า กล้าพอที่จะขอคำอธิบายจากเทรนเนอร์ นับจากนั้นเป็นต้นมาดาวยิงชาวฝรั่งเศสจึงได้รับความเคารพจากกุนซือชาวโปรตุกีสและมีตำแหน่งตัวจริงในเกมสำคัญๆทั้งหมด

เบนเซม่า เรียนรู้ที่จะเคารพในสิ่งที่ มูรินโญ่ ทำเพื่อ เรอัล มาดริด แม้ว่ามันจะฝืนธรรมชาติของเขาและไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเป็นการส่วนตัวก็ตาม เมื่อเทียบกับเทรนเนอร์คนอื่นของทีมชุดขาวไม่ว่าจะเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ, ซีเนดีน ซีดาน หรือแม้แต่ช่วงสั้นๆกับ ราฟาเอล เบนีเตซ 

อันเชล็อตติ เป็นเทรนเนอร์คนแรกที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของดาวยิงชาวฝรั่งเศส 'ผมโชคดีแค่ไหนที่มี คาริม ถ้าไม่มีเขา งานมันคงไม่เวิร์ค'

นั่นคืออีกหนึ่งช่วงเวลาที่โดดเด่นสุดของ เบนเซม่า ภายใต้แนวรุก 'บีบีซี' ร่วมกับ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล ที่ร่วมกันคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และ โกปา เดล เรย์ ในซีซั่น 2013-2014 ก่อนต่อยอดด้วยการคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ โดยส่วนตัวแล้วเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนจะพูดเสมอว่า เบนเซม่า คือชิ้นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมชุดขาวทั้งความเข้าใจเกมและการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมของเขาให้ดีขึ้น


ซีดาน เจ้านายคนปัจจุบันของ เบนเซม่า ยังกล่าวชื่นชมและคอยสนับสนุนเขามาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เขาประสบปัญหานอกสนาม เนื่องจากทั้งคู่มาจากพื้นเพเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกันจึงเข้าใจหัวอกกันเป็นอย่างดี

'สำหรับผม เขาเป็นเหมือนพี่ชาย' เบนเซม่า กล่าวถึง ซีดาน 'นอกสนาม เขาคอยให้คำแนะนำผมเสมอ'

ขณะที่ ซีดาน กล่าวชื่นชมดาวยิงชาวฝรั่งเศสทำนองเดียวกันว่า 'เบนเซม่า อยู่ที่นั่นเสมอ เมื่อคุณต้องการเขามากที่สุด สำหรับผม เขาเป็นกองหน้าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลฝรั่งเศส'

ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องย้อนกลับไปหลายปีและเป็น ซีดาน ที่แนะนำ ฟลอเรนตีโน่ ทำงานอย่างหนักเพื่อเซ็นสัญญากับ เบนเซม่า ในปี 2009 ถ้าหาก ซีดาน เป็นแฟนตัวยงของ 'เบนซ์' ประธานทีมชุดขาวก็คงอยู่ไม่ห่างจากนั้นมากนัก

ทว่าการให้ความเคารพและสนับสนุนแบบไม่มีเงื่อนไขของ ซีดาน ที่มีต่อ เบนเซม่า ทำให้เกิดผลสะท้อนกลับสำหรับความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินอยู่กับผู้เล่นคนอื่นเช่นกัน อย่างที่เกิดขึ้นกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ถูกเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสดร็อปออกจากทีมตัวจริงหลายครั้ง หรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ แกเร็ธ เบล ที่ ซีดาน แสดงอาการเย็นชาต่อแนวรุกทีมชาติเวลส์อย่างเห็นได้ชัด 


เบนเซม่า ฉายความโดดเด่นกับ เรอัล มาดริด มากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่การจากไปของ โรนัลโด้ ซึ่งกองหน้าชาวฝรั่งเศสยอมรับว่า 'สิ่งเดียวที่ผมต้องการพูดคือการจากไปของ คริสเตียโน่ ทำให้ผมมีบทบาทที่แตกต่างไปในทีม'

'เบล เป็นลูกกระสุน, คริสเตียโน่ มีอะไรมากมาย เขาทำประตูจำนวนมาก และผมเป็นชิ้นส่วนที่ทำให้เราอยู่ด้วยกัน'

'เขา (โรนัลโด้) ยิง 50 หรือ 60 ประตู ต่อปี และผมต้องปรับตัวให้เข้ากับเกมของเขาเพราะแบบนั้น เขาเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลกและผมมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเขา'

'แต่เพราะผมสวมเสื้อหมายเลข 9 ผู้คนจึงคาดหวังว่าผมจะทำประตูได้ แม้ว่าสิ่งที่ผมเป็นคือผู้เล่นหมายเลข 9 ที่มีจิตวิญญาณของหมายเลข 10 ก็ตาม' เบนเซม่า กล่าว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด