:::     :::

คุยกับเดอบรอยน์แฟนหงส์ที่ไปได้ดีกับซิตี้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เควิน เดอ บรอยน์ ชื่อนี้หลายคนรู้จักดีว่าเป็นหัวใจของ แมนฯ ซิตี้ ในการล่าความสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายไม่มีโอกาสมาสวมเครื่องแบบ ลิเวอร์พูล เพราะเขาคือแฟนบอลพันธุ์แท้ของ ไมเคิ่ล โอเว่น -เมื่อวาสนายากบรรจบกันก็ต้องทำใจ วันนี้มาลองฟังเขานิยามตัวเองบนวัยใกล้หลัก 30 มองโลกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง

เดอ บรอยน์ เปิดใจกับ ทอล์กสปอร์ต ว่าชีวิตของนี้ขาขึ้นเพราะนอกจากตกลงเซ็นสัญญาใหม่กับ ซิตี้ ถึง มิ.. 2025 แล้วทีมเพิ่งได้แชมป์ คาราบาว คัพ ไปเมื่อเดือนก่อน, ตีตั๋วชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก หนแรกประวัติศาสตร์สโมสร และจ่อแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

เครดิตสำคัญแม่ทัพเบลเจี้ยนเชื่อว่าเพราะการเข้ามาซื้อกิจการสโมสรโดย ชีค มันซูร์ ตั้งแต่ปี 2008 แล้วก็ทั้งวางรากฐาน ทั้งอัดฉีดเงินจนทีมมีกระบวนการเติบโตตามลำดับ 

ชีวิตผมจากนี้คงมองเรื่องจะทำอย่างไรต่อเมื่อเซ็นสัญญาใหม่กับทีมจนถึงอายุ 34 ปี เดอ บรอยน์ เปิดปาก 


นี่คือเส้นทางที่ผมจะต้องนั่งคิดว่าเอาอย่างไรต่อกับสี่ปีข้างหน้า ในสายตาผมซีซั่นนี้เรามีโอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รอมร่อ, รายการอื่นๆด้วย คิดว่าทีมนี้สร้างขึ้นมาในแนวทางที่ดี แล้วสามารถลุ้นประสบความสำเร็จไปอีกตลอดสี่ปีจากนี้” 

แต่เอาจริงๆด้วยวิธีการที่สโมสรสร้างตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า หากยังสามารถดำเนินการทางที่ดีเช่นนี้ต่อไปก็ลุ้นประสบความสำเร็จได้ยาวไปอีก 50 ปีข้างหน้า” 

ผมเห็นวิธีการที่ทีมทำงาน, วิธีคัดสรรบุคลากร, วิธีที่แข้งเยาวชนสอดแทรกสู่ชุดใหญ่, ทีมสตรี ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี” 

ผมได้เห็นมันฐานะคนใน แผนงานที่ท่านชีคทำร่วมกับผู้บริหารท่านอื่นช่างน่าเหลือเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ประทับใจแก่ผมจริงๆ

แน่นอนว่ามันมีค่างวดสูง แต่เงินส่วนใหญ่ที่ลงไปก็เพื่อสร้างศูนย์ฝึกครบวงจร ซึ่งมันก็มีประโยชน์ในการช่วยทีมหลายด้าน” 

บนวัย 29 ปี เดอ บรอยน์ มีหนึ่งสิ่งที่ต่างจากนักฟุตบอลทั่วไปนั่นคือไม่ได้จ้างเอเยนต์เพื่อต่อ-รองผลประโยชน์ เป็นตัวเขาเองนั่งถกทุกอย่าง 

มันมีเรื่องตะขิดตะขวงใจบางอย่างตอนผมจ้างเอเยนต์เจ้าเก่า ก็เลยปรึกษาครอบครัว, คนที่นับถือกัน ก็ได้ข้อสรุปว่าให้ผมจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองไปเลยเคดีบีอธิบาย 


ผมอยู่ในวัยที่รู้จักเรื่องเชิงลูกหนังและเชิงธุรกิจในวงการฟุตบอลมากพอ กล้าที่จะบอกความต้องการโดยส่วนตัว รวมถึงฐานะนักเตะ” 

วัยขนาดนี้ไม่เอาแต่ให้ตัวเองได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวอีกต่อไป แต่ก็คำนึงถึงต้นสังกัดให้พวกเขาสะดวกใจต่อ-รองด้วย” 

บนโต๊ะเจรจาจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะมันมีเรื่องให้ต้องสังเกตไปหมดแต่ภาพรวมสัญญาผมที่ออกมาก็สมบูรณ์แบบ สโมสรดูมีความสุข และสำหรับเราก็อยากให้เป็นการสื่อสารที่ง่ายสุดเท่าที่ทำได้” 

บางทีมันค่อนข้างจะเป็นการคุยที่ทื่อๆเลย เนื่องจากพอผ่านเอเยนต์บางทีมันขั้นตอนเยอะ แต่การคุยกับนักเตะนั้นว่ากันซึ่งๆหน้า ว่าคุณต้องการอะไรแล้วมันก็ชัดเจนทั้งสองฝ่าย” 

ตั้งแต่เขามาร่วมงาน ซิตี้ เมื่อปี 2015 ก็เดินหน้าประสบความสำเร็จกับทีมต่อเนื่องโดย เดอ บรอยน์ นิยามตัวเองว่าวางตัวอย่างชัดเจนสองแบบเมื่ออยู่ในระหว่างทำงาน กับอยู่นอกสนาม 

เพราะเมื่อต้องแข่งขัน แม้แต่เล่นบอลกับลูกชายยังไม่อ่อนข้อให้เลย 


มันเกือบจะเหมือนว่ามีผมสองแบบในตัวคนเดียว - หนึ่ง เควิน เมื่ออยู่นอกสนามจะผ่อนคลายมาก, หมอนั่นชิลล์ และไม่เปลืองน้ำลายพูดมาก แต่จากนั้นเห็น เควิน อีกคนบนสนามเจ้านั่นดูเป็นจอมหัวเสีย เห็นอะไรขัดจิตก็บ่นไปหมด” 

คุณต้องทำในทุกๆอย่างเพื่อจะชนะเกม และผมไม่สามารถทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ ด้วยความสัตย์เพราะคิดว่ายังทำได้ดีกว่านั้นได้ - นิสัยหัวร้อนมันแย่กว่าตอนหนุ่มเสียอีก” 

แม้กระทั่งเล่นเกมกับลูกชาย ก็ไม่อ่อยให้เขาชนะ ไม่ทำแบบนั้นแน่ แล้วลูกก็แพ้ มีชนะบ้างแต่ไม่บ่อย

ในยุคผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอ บรอยน์ คือขุนขวานคู่ใจแล้วเจ้าตัวหวังว่าฤดูกาลนี้จะยังป้องกันตำแหน่งนักเตะเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ไว้ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดความสำเร็จทีมต้องมาก่อนส่วนบุคคล

ประการแรกผมหวังจะพาทีมเป็นแชมป์ในทุกรายการ แล้วลำดับต่อไปค่อยมองถึงความสำเร็จส่วนบุคคล มันทำให้รู้สึกดีเพราะหมายความว่าคุณถูกซูฮกจากคนส่วนใหญ่, จากผู้เล่นด้วยกัน, จากสื่อมวลชน, จากแฟนบอลที่ปลาบปลื้มในผลงานที่เราแสดงออกมา  แล้วมันยังรวมถึงเมื่ออยู่นอกสนามคุณวางตัวแบบไหนเดอ บรอยน์ ตอบคำถามท้ายๆ


แต่ด้วยความสัตย์ให้ผมคว้าโทรฟี่ทุกใบกับทีมก่อนแล้วสิ่งใดที่ตามมาภายหลังถือเป็นโบนัส” 

ยกให้รายการที่ต้องพิสูจน์จิตใจสุดคงเป็นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มันคืออีเวนต์สำคัญสำหรับต่อยอดสู่อีกทุกโทรฟี่ถัดไปเควิน พูดถึงการจ่อเป็นแชมป์ลีกหนสามในรอบ 4 ฤดูกาลหลัง 

เพราะมันคือฤดูกาลต่อเนื่องหลังผ่านช่วงงดทุกกิจกรรมเพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด, ร้างแฟนบอลเข้าสนามสำหรับสร้างแรงจูงใจ, ต้องแข่งทุกๆสามวันหนแล้วหนเล่า นับเป็นด่านทดสอบหัวจิตหัวใจที่แท้จริง แล้วทีมก็ผ่านมันมาได้อย่างเริ่ด

แม้ไม่เคยมีวาสนาได้มาเล่นใต้เครื่องแบบ ลิเวอร์พูล แต่กับสี่แมตช์เดยสุดท้ายยังไงฝากด้วยช่วยตัดแต้ม เชลซี กับ เอฟเวอร์ตัน พวกทีมแข่งทำอันดับของหงส์แดงเสียหน่อย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})