:::     :::

ชีวิตบนเสาประตูของ "เอดูอาร์ เมนดี้"

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,269
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก้าวมายึดตำแหน่งนายทวารมือ 1 ของเชลซี

สำหรับ เอดูอาร์ เมนดี้ พร้อมกับโชว์ฟอร์มอย่างเหนียวแน่นหนึบ จนพาพลพรรคสิงโตน้ำเงินครามลุ้นหัวตารางพรีเมียร์ลีก รวมถึงการผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ถือว่าเป็นขวบปีทองของเขาอย่างแท้จริง


นอกจากการเซฟประตูที่เหนียวหนึบ และการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมแล้ว สิ่งหนึ่งที่เมนดี้ พกติดตัวมาเสมอเลย นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อกว่าจะมาเป็นผู้รักษาประตูกับสโมสรระดับโลกแบบนี้ เขาต้องผ่านอุปสรรคมานับไม่ถ้วน 


เรื่องราวที่น่าสนใจคือ ย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขายังเป็นเพียงแค่คนตกงาน และไม่มีสโมสรฟุตบอลที่จะให้สังกัดด้วย พูดง่ายๆคือเขาเป็นคนที่เดินเตะฝุ่นอยู่ในโลกภายนอก


นอกจากนี้ ข้อจำกัดในชีวิตด้านต่างๆ ทำให้เมนดี้ เกือบเลือกหันหลังให้กับฟุตบอลไปแล้ว .... ช่วงนี้เราลองย้อนไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากัน

เอดูอาร์ เมนดี้ สืบเชื้อสายกินี บิสเซา ผสมกับเซเนกัล โดยเขาลืมตาดูโลก และเติบโตที่เมืองอย่างมองติลิวิเย่ร์ประเทศฝรั่งเศส พ่อ และแม่ของเขา ตัดสินใจที่จะอพยพมาดินแดนแห่งนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และนั่นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของครอบครัวไปตลอดกาล 


เมนดี้ ถือว่าเป็นเด็กที่ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่จำความได้ พร้อมกับมีตำแหน่งประจำคือผู้รักษาประตูก่อนจะหันมาเอาจริงเอาจังมากขึ้น ด้วยการเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับอะคาเดมี่ทีมท้องถิ่น โดยมีพรสวรรค์บางอย่างที่น่าสนใจ จนผู้เป็นโค้ชถึงกับประทับใจ 


เยโร่ ซาร์ โค้ชคนแรกของเขา ออกมาย้อนความทรงจำในวันวานว่าเมนดี้ ลงเล่นฟุตบอล ด้วยการเป็นนายทวารอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เขายังสามารถขยับออกมา และเล่นในตำแหน่งเอาท์ฟิลด์ได้ด้วย เพราะเขามีทักษะการเล่นด้วยเท้าที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง


กระทั่งปี 2011 ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเมนดี้ ได้เข้าร่วมทีม อาแอส แชร์บูร์ก ที่โลดแล่นอยู่ในลีกระดับดิวิชั่น 3 ของประเทศ อย่างไรก็ตาม เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป จากการถูกมองเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งเท่านั้น 


ตลอดระยะเวลา 3 ปี เมนดี้ ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาอย่างจำกัดจำเขี่ย นับรวมแล้วเพียง 25 เกมเท่านั้น ผลสุดท้าย เขาโดนปล่อยออกจากทีมในที่สุด พร้อมกับอุปสรรคที่เข้ามาท้าทายอย่างมากมาย ชนิดที่เขาก็แทบตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว แต่นั่นเป็ยสิ่งที่เขาจำเป็นต้องผ่านมันไปให้ได้


หากการโดนลอยแพออกจากทีมว่าเลวร้ายแล้ว การไม่มีสโมสรใหม่รองรับถือว่าเลวร้ายยิ่งกว่า จากผืนหญ้าสีเขียว ตัดภาพกลับมาอีกที เขากลับมายืนอยู่ด้านหน้าของศูนย์จัดหางานเป็นที่เรียบร้อย สถานที่ที่ตอกย้ำว่า เขาแปรเปลี่ยนจากนักฟุตบอล เป็นคนว่างงานอย่างเต็มตัว

เมื่อคุณตกงาน คุณจะเริ่มพบทางตันเมนดี้เริ่มเล่าที่ปรึกษาที่ศูนย์จัดหางาน หันมาถามผมว่า ผมอยากจะทำอะไรเพื่อหาเลี้ยงชีพ ผมตอบกลับไปว่า -ผมอยากเล่นฟุตบอล- จากนั้น เขาทำการกระชากให้ผมกลับสู่โลกความเป็นจริงว่า เราควรคิดทำอย่างอื่นกันได้แล้ว


เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมบอกกับตัวเองว่า ความฝันทั้งหมดมันคงจบแล้วล่ะ ผมควรจะเลิกเล่นฟุตบอล และไปหางานอย่างอื่นทำแทนเมนดี้ เล่าถึงความรู้สึกตอนนั้น การเป็นคนไม่มีงานทำ ทำให้เขาสุ่มเสี่ยงที่จะหลุดออกจากโลกของฟุตบอลแล้ว 


ถึงปากจะบอกแบบนั้น ทว่าในใจของเมนดี้ ยังไม่อาจตัดสิ่งที่รักอย่างฟุตบอลได้เลย ซึ่งเท็ด ลาวี่ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่อาแอส แชร์บูร์ก ย้อนความทรงจำว่าแม้เมนดี้ จะกลายเป็นคนว่างงานแล้ว ทว่ายังพยายามรักษาร่างกายให้ดีอยู่เสมอ


เมนดี้ นำตัวเองไปสู่การออกกำลังกาย พร้อมกับไปโรงยิมคนเดียว ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเป็นมืออาชีพ เขาเดินเข้าไปสโมสรท้องถิ่นบางแห่ง เพื่อขอไปฝึกซ้อมด้วย นั่นแสดงให้เห็นเลยว่า เขาไม่เคยคิดยอมแพ้” ลาวี่ ทิ้งท้าย 


ความพยายามเริ่มผลิดอกออกผล เขาได้มีโอกาสทดสอบฝีเท้ากับยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างโอลิมปิก มาร์กเซย แม้ว่าจะเป็นแค่ผู้รักษาประตูตัวเลือกที่ 4 และต้องเล่นให้ทีมสำรอง


ทว่าการมีโอกาสได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของโอแอ็มเขาก็รีบคว้าไว้อย่างไม่ลังเล นั่นเพราะเขาได้สัมผัสประสบการณ์ และลงซ้อมกับนักเตะชื่อดังหลายคน ทำให้ฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นตามลำดับ 

เพียงไม่นาน โอกาสแวะมาทักทายอีกครั้ง เมื่อแร็งส์ สโมสรในระดับลีก เดอซ์ คว้าตัวเขาไปร่วมทีม นอกจากเป็นเวทีพิสูจน์ตัวเองแล้ว ยังเป็นการเล่นฟุตบอลอาชีพแบบจริงจังครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย


หลังจากนั้น ขาไต่เต้าจากนายทวารตัวสำรอง สู่มือหนึ่งของทีม พร้อมกับเป็นฟันเฟืองสำคัญ ช่วยทีมผงาดคว้าแชมป์ลีก เดอซ์ ในปี 2018 และเลื่อนชั้นสู่ลีกเอิง เป็นผลสำเร็จ


จากนั้น เขาถูกอีกหนึ่งทีมดังอย่างแรนส์ ดึงตัวมาร่วมทีม โดยฤดูกาลที่แล้ว สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวแน่นหนึบ และเสียประตูน้อยมาก จนพาทีมจบอันดับ 3 ของลีกเอิง ที่ถูกตัดจบไปจากสถานการณ์โควิด-19


กาลเวลาผ่านไป ใครจะเชื่อบ้างว่า ย้อนกลับไป 7 ปีก่อน เรื่องราวชายนามว่าเมนดี้ ที่โดนสโมสรเล็กๆปล่อยตัวออกจากทีม ต้องเป็นคนว่างงาน ที่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์จัดหางาน และไม่มีสโมสรเล่น จนต้องขอทีมท้องถิ่นซ้อมแบบไม่ได้รับค่าเหนื่อย


วันนี้ เขาสามารถยกระดับตัวเอง จนกลายมาเป็นผู้รักษาประตูที่มีค่าตัว 22 ล้านปอนด์ และได้ลงเล่นกับยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ อย่างเชลซี 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด