Antonio Valencia อดีตตำนานและกัปตันทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อยหลังจากเวลาสองปีพอดีนับตั้งแต่เขาได้ลงสนามเป็นครั้งสุดท้ายในสีเสื้อแมนยูไนเต็ด ซึ่งปีกรถด่วนชาวเอกวาดอร์เซ็นสัญญามาจาก Wigan Athletic ในปี2009 และได้แชมป์พรีเมียร์ลึกถึงสองสมัย, เอฟเอคัพหนึ่งสมัย, ลีกคัพสองสมัย, คอมมูนิตี้ชิลด์สามถาด และอีกหนึ่งแชมป์ยูโรปาลีก
วาเลนเซียเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี Sir Matt Busby Player of the Year, รางวัลประตูแห่งปี และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของเพื่อนนักเตะในซีซั่น 2011/12 นอกจากนี้ยังได้อีกครั้งในปี 2016/17 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนับถือและชื่นชอบจากเพื่อนๆในทีมได้เป็นอย่างดี
อันโตนิโอภูมิใจอย่างยิ่งในการเป็นกัปตันทีมของยูไนเต็ดในรอบชิงที่เอาชนะอาแจ็กซ์ และได้แชมป์ยูโรปาลีกในปี2017 และหลังจากนั้นก็เป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการต่อจากเวย์น รูนีย์ ที่ออกจากทีมไปในซัมเมอร์ปีนั้น
สุดท้ายแล้ว "Tony V" ก็ย้ายออกจากแมนยูไนเต็ดเมื่อปี2019 พร้อมด้วยสถิติลงสนามมากถึง 339นัด กับสถิติการทำ 25ประตู และจากไปพร้อมกับการได้รับความรักและนับถืออย่างมากจากแฟนบอลยูไนเต็ดทั่วไป จากนั้นเขากลับไปยังเอกวาดอร์ และเล่นกับสโมสรในกีโต้อย่าง LDU Quito ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดและยุติเส้นทางนักฟุตบอลกับ Queretaro สโมสรในเม็กซิโกเป็นสโมสรที่8ในชีวิตของเขา
หลังจากที่มีการประกาศแขวนสตั๊ดจากเจ้าตัวอย่างเป็นทางการนั้น วาเลนเซียก็มีข้อความฝากให้แฟนบอลปีศาจแดงผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดียเอาไว้ดังนี้
"ถึง แฟนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"
"ตอนที่ผมยังเด็กและอายุเพิ่งจะ14ปี ผมได้จากครอบครัว จากหมู่บ้าน และจากทีมออกมาเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของประเทศบ้านเกิด มันเป็นการเดินทางที่มีแต่ความคิดถึงในที่ที่จากมา แต่มันก็มีความหวังอยู่เต็มเปี่ยมในนั้นเช่นกัน"
"เมื่อหลายปีก่อนผมมีโอกาสได้เดินทางเข้ามาในยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนว่ามันจะเป็นจริง และผมก็ได้เล่นฟุตบอลที่สเปน จากนั้นก็เดินทางต่อมายังบ้านหลังที่สองของผม ประเทศอังกฤษ ซึ่งประสบการณ์กับทีมวีแกนมันไม่เหมือนที่ไหนๆเลย"
"และหลังจากนั้นพระเจ้าก็มอบโอกาสให้ผมได้มาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"
"ผมจะไม่ลืมทุกๆความทรงจำที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ผมจะไม่ลืมทุกๆประตู ทุกถ้วยรางวัล และจะไม่ลืมแฟนบอลอันยอดเยี่ยมที่นั่น"
"ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าช่วงเวลานี้มันจะมาถึงเร็วขนาดนี้ แต่ร่างกายผมก็ร่ำร้องให้จำเป็นต้องตัดสินใจแล้ว ดังนั้นจึงขอประกาศรีไทร์จากการเล่นฟุตบอลแล้วเป็นที่เรียบร้อย ผมอยากจะขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเส้นทางอาชีพที่ผ่านมา แรกสุดขอขอบคุณพระเจ้าที่ประทานพรให้เสมอ ขอบคุณ Zoila และลูกสาวของผม Domenik ที่สนับสนุนและเป็นคนสำคัญในชีวิต ขอบคุณพ่อแม่ของผมที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้"
"และสุดท้าย แด่แฟนบอลในทุกๆประเทศที่ผมได้เคยลงแข่งขัน ผมพยายามทุ่มเทอย่างดีที่สุดอยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับความรักและแรงสนับสนุนจากใจจริง"
สำหรับวาเลนเซียนั้นติดทีมชาติเอกวาดอร์ไปทั้งหมด 99นัด ยิงทั้งหมด11ประตู ซึ่งก็ถือเป็นการรับใช้ชาติบ้านเกิดที่ยิ่งใหญ่มากๆเพราะลงสนามไปเกือบร้อยนัด แต่แน่นอนว่าในความทรงจำกับ "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" และแฟนปีศาจแดงอย่างเรา ก็คงจะจำกันได้ดีว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย คือ "ปีกรถด่วน" ที่มีภาพจำด้วยการลงเล่นปีกขวาของทีมในลักษณะของการเป็นExplosive Winger สายโบราณ กระชากขึ้นทางขวาและเอาชนะคู่แข่งด้วยความเร็วสูงและพละกำลังอันแข็งแกร่ง
สิ่งที่เป็นที่สุดของที่สุดในตัวอันโตนิโอ วาเลนเซียก็คือ "สปีด" ในการเล่นของเขา ทั้งการกระชากบอลขึ้นหน้า ทั้งสปีดต้น และความเร็วปลายที่เหนือชั้นและน่ากลัวสุดๆขนาดว่า ออกสตาร์ทวิ่งหลังคู่แข่งจากด้านหลัง พี่แกก็วิ่งแซงเอาดื้อๆมานักต่อนักแล้ว
ดูจุดที่เริ่มสปีดของวาเลนเซีย และนักเตะลิเวอร์พูลสองคนคนด้านที่อยู่ใกล้บอลมากกว่าเขา สุดท้ายโดนAVวิ่งแซงเละเทะ และชิงบอลขึ้นไปบุกได้
และสุดท้ายก็ ตู้ม โกโก้เล้า!
สมญานามปีกรถด่วนจึงไม่มีอะไรกังขาทั้งนั้นในด้านความเร็ว แต่กระนั้นเองการเล่นของวาเลนเซียส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเอาชนะด้วยความเร็วเลี้ยงหนีแบบตรงๆเช่นนี้ เป็นปีกสายกายาภาพแท้ๆที่ไม่ค่อยเน้นการใช้เทคนิคเอาชนะคู่แข่งมากนัก เพราะส่วนนึงอย่างที่แฟนผีรู้กันว่า พี่แกเป็นปีกขวา Right Only แบบมิติเดียวอยู่แล้วที่จะออกทางขวาเน้นๆลูกเดียว ไม่มีมาตัดเข้าในเหมือนปีกปัจจุบันนี้ ดังนั้นแฟนบอลและคู่แข่งก็จะ "รู้" เป็นอย่างดีในทุกๆครั้งที่เขาพาบอลบุกว่า วาเลนเซียจะเล่นยังไง ขึ้นมาทางไหน และวิธีไหนบ้าง
เขาเป็นปีกขวาที่กระชากขึ้นทางขวาได้อย่างเดียว คู่แข่งรู้ ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้
แต่ถึงจะรู้ ก็หยุดไม่อยู่สักที!
ด้วยพลังการเล่นที่อัดแน่น และร่างกายที่Perfectสุดๆสำหรับการเป็นปีก ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง และความเร็วอยู่ในคนเดียวกัน เพราะเขาไม่ใช่จะเป็นปีกที่มีแต่ความเร็ว แต่บอบบางและกระแทกร่วงได้ง่ายๆ แต่วาเลนเซีย ทั้งเร็วทั้งแข็ง เหมือนยางรถเฟอรารี่ยังไงยังงั้น
นั่นแหละครับ แม้จะมีการเล่นแค่มิติเดียว แต่ด้วยความทุ่มเท และความเร็วระดับนรกแตก ทำให้เขาก็ใช้วิธีเดียวที่ว่านี่แหละ เอาชนะคู่แข่งมานักแต่นักแล้ว และก็ไม่เห็นมีใครมันจะปิดวาเลนเซียอยู่แบบจริงๆจังๆสักคน แม้ทุคนจะรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวเขาก็ขึ้นมาทางขวาริมเส้น
แต่ทุกการรับรู้ก็ไร้ผลอยู่ดี เมื่ออยู่ต่อหน้าอันโตนิโอ วาเลนเซีย ในร่างเรเควี่ยมที่จะร่ายบทสวดส่งวิญญาณคู่แข่งลงนรกนั่นเอง
วาเลนเซียมาเป็นอันดับหนึ่งจากการคำนวณความเร็วจากทางฟีฟ่าตั้งแต่ช่วงเมื่อปี2013 35.1กิโลเมตรต่อชั่วโมงในจังหวะสปรินท์
นอกจากความเร็วในการกระชากนั้น อีกสองสิ่งที่มีอยู่ในตัวของอันโตนิโอ วาเลนเซียด้วยนั้นก็คือเรื่องของ ลูกครอส และ ลูกยิง ที่สามารถงัดขึ้นมาใช้เป็นไม้ตายก้นหีบได้เสมอ ในเรื่องของลูกครอสนั้นหากจำกันได้ ในยุคนั้นเกิด "คอมโบเปิดโหม่ง" ระหว่างวาเลนเซียที่เปิดบอลไป "ลงหัว" รูนีย์รัวๆนับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งเป็นร่างใส่ผ้าคาดหัวรูนีย์ยิ่งโหด
การเปิดบอลของAVจากตำแหน่งปีกขวา มาให้เวย์น รูนีย์ ที่บางครั้งต้องมาเล่นหน้าเป้าที่เขาไม่ชื่นชอบ แต่ก็ยังสามารถทำประตูได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยการ "โหม่ง" ทำประตูให้แมนยูได้บ่อยมากๆ จนกระทั่งปีนั้นเวย์น รูนีย์ ก็ออกมากล่าวชื่นชมปีกรถด่วนรายนี้ว่าเป็นกุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จในซีซั่นนั้น โดยพูดถึงคุณภาพการเล่นของวาเลนเซียที่ช่วยให้เขาระเบิดไป 26ประตู ในพรีเมียร์ บวกกับอีก5แอสซิสต์ในปีนั้น ซึ่งสุกรโลกันตร์ผู้ได้รับการโหวตนักเตะแห่งปีของแมนยูไนเต็ดก็กล่าวว่า วาเลนเซียคือเพื่อนร่วมทีมที่เขาสนุกที่สุดที่ได้ลงเล่นด้วย
"ผมคงยิงไม่ได้เยอะขนาดนี้ในซีซั่นนี้ถ้าไม่มีเขา เขาสุดยอดมากๆและคุณภาพของบอลที่เปิดเข้ากรอบมาให้ผมมันดีจนน่าเหลือเชื่อจริงๆ"
รูนีย์บอกกับทางMatch of the Day magazine ของ BBC นอกจากนี้ยังเสริมว่าส่วนใหญ่ประตูที่เขารู้สึกเพลิดเพลินในการยิงได้ปีนี้นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากลูกหัวของเขาด้วย
"มันเป็นสิ่งที่ผมทำงานอย่างหนักมากๆ ดังนั้นผมเลยมีความสุขจริงๆที่ทำได้ มันแสดงให้เห็นว่ายิ่งคุณฝึกฝนในสิ่งใดๆมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น"
ในบรรดาประตูทั้งหมดที่อันโตนิโอ วาเลนเซียทำได้นั้น ในภาพจำของแฟนแมนยูไนเต็ดค่อนข้างเชื่อว่าทุกคนน่าจะยังจำการยิงประตูมันส์ๆจาก "ตีนขวามหาประลัย" ด้วยการยิงลูกไฟอย่างอลังการจากด้านขวา และบอลพุ่งย้อนไปเสียบเสาไกลอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็มีหลายๆประตูที่ถูกจัดอันดับประตูสุดสวยที่วาเลนเซียยิงเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นลูกที่ยิงมุมแคบทางขวาใส่แบล็คเบิร์น ลูกนั้นก็สุดยอดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีประตูที่ "ปั่นด้วยซ้าย" เข้าไปอย่างไม่น่าเชื่ออีกลูกด้วยอย่างที่แฟนผีไม่เชื่อสายตา(ฮา)
แต่ลูกที่เป็นสุดยอดของสุดยอดนั้นก็คงจะหนีไม่พ้น ประตูที่เปิดโค้งมาจากเนมันย่า มาติช บอลลอยกระดอนพื้นหนึ่งจังหวะมาทางวาเลนเซียที่กำลังเหม่อๆอยู่ทางขวา แล้วพอบอลย้อยมาหาฝั่งตัวเองพี่แกก็คงจะคิดในใจประมาณว่า
"อ้าว เหรอๆ ส่งมาเหรอ"
แล้วอยู่ดีๆก็วอลเล่ย์กลางอากาศตู้มเดียวเข้าไปแบบที่สามารถพูดได้จริงๆว่า เนี่ย ลูกไฟที่พุ่งแหวกเสียดสีบรรยากาศแล้วเข้าไปเสียบตาข่ายเต็มแรงมันเป็นยังไง ลูกนี้คือประตูแบบนั้นจริงๆ
มันเป็นหนึ่งในประตูที่ยิงได้อร่อย มันส์ตีน และ "สะใจ" สุดๆอีกลูกนึง ซึ่งเราไม่เคยผิดหวังเลยจากวาเลนเซีย เพราะเอาจริงๆแล้ววาเลนเซียในตอนที่เล่นนั้น ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ส่วนใหญ่โอกาสที่จะง้างเองของแกไม่ค่อยเห็น เพราะปกติจะเปิดต่อให้เพื่อนซะมากกว่า แต่เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจยิงเอง ลูกยิงมันจะพุ่งแรงเต็มเท้าแบบนี้อยู่เสมอ ซึ่งมักจะเป็นประตูซะด้วย
นี่คืออีกหนึ่งภาพจำที่เราไม่เคยลืมเลือนจากวาเลนเซียจริงๆ
นอกจากนี้ประเด็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราจำกันได้ อันโตนิโอ วาเลนเซียนั้นถือเป็นต้นแบบอีกคนนึงที่สำคัญต่อฟุตบอลยุคสมัยใหม่เช่นกันที่แสดงให้เห็นถึงการ "เปลี่ยนตำแหน่งเล่น" อย่างชัดเจนมากๆ จากเดิมในตำแหน่งปีกขวาที่เซ็นสัญญามาจากวีแกน แอธเลติก ในวันที่30 มิถุนายน ปี2009 เพื่อทดแทนตำแหน่งของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยตรงด้วยสนนราคาราว16ล้านปอนด์
วาเลนเซียเข้ามาพร้อมกับกาเบรีบล โอแบตอง, ไมเคิล โอเว่น และ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ตามลำดับในซีซั่นนั้น ก่อนที่จะซัดไป 7ประตู และ13แอสซิสต์ (ซึ่งส่วนใหญ่เปิดให้รูนีย์) ส่งผลให้สุกรโลกันตร์ซัดไป34เม็ดหลังจากเงาของโรนัลโด้ที่ทาบทับออกจากที่โรงละครแห่งความฝันไป
ด้วยการเล่นที่คล้ายกับเบ็คแฮมในแง่ของการครอสบอลจากทางขวา แต่รูปแบบก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อวิถีบอลของวาเลนเซียจะพุ่งเป็นขีปนาวุธมากกว่าโค้งแบบเบ็คแฮม ซึ่งฟังก์ชั่นการเล่นของเขาคือการเป็น Winger ที่รวดเร็ว ทรงพลัง และเล่นแบบตรงไปตรงมา ที่แม้คู่แข่งจะเดารู้ว่า "กำลังจะเจอกับอะไร" จากวาเลนเซีย แต่ก็หยุดไม่ได้อยู่ดี
แต่ปัญหาข้อเท้าแตกในซีซั่นที่สองกับแมนยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ทำให้เขาพลาดการลงสนามไปถึงหกเดือนในปีนั้น แต่ก็ยังสามารถกลับมาพาทีมเป็นแชมป์ลีกสมัยที่19 และพาทีมเข้าถึงรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกในที่สุด
ซึ่งเรื่องของการเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นแบ็คขวานั้น เริ่มเมื่อฤดูกาล 2011/12 โดยสลับลงเล่นให้กับ Phil Jones กับ Rafael โดยที่เฟอร์กี้มีการใช้ปีกรายนี้ให้เล่นเกมรับในหลายๆครั้ง เหมือนที่เขาเคยเพิ่มตำแหน่งการเล่นมิดฟิลด์ตัวรับให้กับอลัน สมิธ มาแล้ว
นอกจากนี้วาเลนเซียยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับปรุงตัวเองในการเปลี่ยนตำแหน่งด้วย ซึ่งร่างกายของAVนั้นหนาและบึกกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ถ้าเทียบกับตอนที่ย้ายมาแมนยูใหม่ๆจะเห็นชัดเจนเลยว่าตัวบางกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่วาเลนเซียร่างแบ็คขวานี่คือบึกและถึกจนดูแกร่งทั่วแผ่นจริงๆ
"ผู้จัดการทีมขอให้ผมเล่นแบ็คขวาเพราะว่ามีเพื่อนร่วมทีมเจ็บไปสองสามคน ซึ่งผมมีความสุขมากนะที่จะได้ทำเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขาบอกว่า มันจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น ผมอยากบอกว่าผมรู้สึกสบายใจที่จะเล่นมากกว่าเล่นตำแหน่งของตัวเองซะอีก"
หลังจากที่ได้รางวัลนักเตะแห่งปีจากการโหวตของแฟนบอลและเพื่อนนักเตะ ในปีสุดท้ายของเฟอร์กูสันเขาก็ได้รับเสื้อเบอร์7มาครอบครอง ซึ่งเป็นเสื้อตำนานที่เคยผ่านแผ่นหลังของไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า เบ็คแฮม และ โรนัลโด้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือฟอร์มของAVดรอปลงอย่างชัดเจน โดยที่แอสซิสต์ได้เพียงครึ่งเดียวจากเดิม และประตูก็ลดลงเหลือแค่1ใน4จากของเดิมเท่านั้น แม้ว่าจะเล่นตำแหน่งเดิมก็ตาม
อาถรรพ์แค้นผีนรกที่ไม่มีใครล้างได้ ถ้าไม่ใช่คนที่จะเป็น "ตำนาน" จริงๆ
หลังจากนั้นวาเลนเซียจึงเปลี่ยนกลับมาเป็นเบอร์25อีกครั้งในยุคเดวิดมอยส์ที่เข้ามากุมบังเหียนต่อในปี2013 บอสใหม่ยังคงให้โอกาสเขาได้เล่นตำแหน่งเดิมต่อไป แต่ว่าหลังจากนั้น เมื่อหลุยส์ฟานกัลก้าวเข้ามาคุมทีม และมองเห็นถึงปริมาณของการครอสบอลจากแนวหลัง หลุยส์ฟานกัลก็รู้ทันทีว่าปีกเอกวาดอร์รายนี้เหมาะกับตำแหน่งที่เล่นจากแนวลึกมากกว่าเดิม
ดังนั้นปีแรกที่จารย์หลุยส์เข้ามา อาชีพของวาเลนเซียจึงได้เริ่มลงเล่นฟูลแบ็คมากกว่าเป็นปีกแล้วในช่วงนี้ โดยเฉพาะการเซ็นดิมาเรีย เดปาย และดึงตัวเจสซี่ ลินการ์ดกลับเข้ามาในทีม วาเลนเซียจึงยินดีอ้าแขนรับตำแหน่งใหม่นี้อย่างเต็มที่
"ตอนที่ผมเห็นนักเตะที่มีชื่อชั้นอย่างอังเคล ดิมาเรีย กับ เมมฟิส เดปายเข้ามาในทีม ผมก็เริ่มคิดว่าเวลาของผมมันใกล้หมดแล้วรึเปล่า" วาเลนเซียพูดเมื่อปี2017
ตัวรุกผู้กลายเป็นแนวรับของทีม และถูกจับลงเล่นตำแหน่งนี้เป็นครั้งคราวนั้น เราก็คาดหวังว่าเขาก็คงจะเป็นฟูลแบ็คหน้าใหม่ที่ต้องปรับการเล่นอีกเยอะ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ การเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้แทบไม่เกิดปัญหาอะไรเลยและราบรื่นมากๆ จากนักเตะที่"รับฟัง" คำแนะนำมากพอๆกับการทำงานหนักอย่างเขา
"ผมค่อนข้างสนุกกับมันนะ ผมมีความสุขที่เล่นตรงนั้น มันเวิร์คอยู่ และผมก็ได้เล่นเยอะมากในซีซั่นนี้ นี่เป็นตำแหน่งที่แตกต่างออกไปจากที่ผมเคยเล่น และไม่ต้องระมัดระวังอะไรมากเวลาที่เล่นเกมรุก ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นตำแหน่งที่เล่นยากและต้องเรียนรู้นะ แต่กุญแจสำคัญคือการที่คุณจะต้องมีสมาธิกับมันตลอด90นาที เพราะแทบจะต้องได้บอลอยู่ตลอดเวลาเลย"
นอกจากนี้หลังจากจากไปของราฟาเอล วาเลนเซียก็ยังต้องเจอกับผู้ท้าชิงที่เข้าท้าทายรายใหม่ในตำแหน่งแบ็คขวาอย่าง "มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน" แต่ความหลากหลายในด้านการเล่นของดาร์เมี่ยนที่ทำให้ฟานกัลนำไปใช้จุดอื่น รวมถึงฟอร์มที่ขึ้นๆลงๆของพี่เมี่ยน ทำให้วาเลนเซียยังคงยึดตำแหน่งนี้ได้ต่อเนื่อง
และท้ายที่สุด มันคือความเชื่อใจของมูรินโญ่ ผู้จัดการทีมจอมอหังการที่เข้ามา และไม่ค่อยประทับใจดาร์เมี่ยนเท่าไหร่ แต่ความแข็งแกร่งของวาเลนเซียทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้เขาสมบูรณ์แบบและถูกใจผู้จัดการทีมมากกว่า
วาเลนเซียมีอาการบาดเจ็บกระดูกที่แขนในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ในลีกคัพ แต่ก็ลงเล่นจนจบ90นาทีได้ แถมใช้เวลาแค่24วันในการฟื้นฟูจากการผ่าตัด ก่อนที่จะกลับมารับแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมเจออาร์เซนอลทันทีที่กลับมาลงสนาม
เวลาวาเลนเซียได้บอลเข้าเท้า คู่แข่งมักจะดับเบิ้ลทีมใส่เสมอ และแฟนบอลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก็มักจะเห็นภาพเดิมที่พยายามจะเอาชนะตัวต่อตัวกับคู่แข่ง ก่อนที่จะวนและไปไม่ไหวต้องส่งคืนหลัง
แต่การเล่นที่เปลี่ยนมาใช้การ "วิ่งจากแนวหลัง" และพยายามที่จะโอเวอร์แลปขึ้นมา จากนั้นเพื่อนก็แทงบอลขึ้นหน้ามาให้เขาวิ่งเอาชนะคู่แข่งขึ้นไปข้างหน้า และเปิดยัดเข้าไปในพื้นที่ว่างทันทีโดยที่ไม่ต้องพยายามเลี้ยงหลบเอาชนะคู่แข่งให้เสียเวลา เป็นวิธีการเล่นที่ดูจะใช้ได้ผลในการจับAVเล่นตัวรับเช่นนี้
เครดิตการเปลี่ยนตำแหน่งนั้นจริงๆแล้วมูรินโญ่ก็ไม่ใช่ผู้ที่มาเปลี่ยนตำแหน่งของเขาอย่างแท้จริง เพราะว่าprocessนี้มันเริ่มมานานมากๆแล้วก่อนน้ามูจะเข้ามา เพียงแต่ว่าไอเดียการใช้วาเลนเซียเล่นแบ็คขวานั้น มีอยู่ในหัวน้ามูนานแล้วก่อนจะเข้ามาทำงานที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเสียอีก
"ผมพยายามจะเซ็นอันโตนิโอตอนที่คุมเรอัลมาดริด และถึงตอนนั้นเขาจะไม่ได้เล่นแบ็คขวาอยู่ซะด้วยซ้ำ แต่ผมมองว่าเขาน่าจะเล่นได้อย่างสุดยอดแน่ๆในตำแหน่งนั้น"
และผลก็ออกมาแล้วว่า มูรินโญ่มองวาเลนเซียขาดกระจุยมานานแล้วจริงๆ
หลังจากที่อันโตนิโอ วาเลนเซีย ประกาศแขวนสตั๊ดเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น อดีตเพื่อนร่วมทีมก็ออกมายกย่องเป็นเกียรติให้แก่เขาอย่างมากมาย หลังจากที่จากสโมสรแห่งนี้ไปสองปี และได้รับการแสดงความยินดีอย่างอบอุ่นจากเหล่าอดีตเพื่อนร่วมงานที่โอลด์แทรฟฟอร์ดผู้ซึ่งรู้จักในตัวของ Tony V เป็นอย่างดี หลายๆคนชี้ให้เห็นถึงคุณภาพในแง่ของบุคคลจากตัวเขา ซึ่งจะสามารถบอกอะไรในตัวของอดีตกัปตันทีมรายนี้เมื่อยามอยู่ในสนามได้เป็นอย่างดี
เพื่อนๆของวาเลนเซียออกมาแสดงความยินดีกับเขาดังนี้
Wayne Rooney:
"ยินดีกับเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยมของนาย อันโตนิโอ สุดยอดทั้งในและนอกสนาม เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ขอให้โชคดีกับเรื่องราวบทต่อไปในชีวิต"
Rio Ferdinand:
"โคตรเส้นทางอาชีพ โคตรนักเตะ โคตรคน นี่คือหนึ่งในคนที่ถ่อมตัวมากที่สุดเท่าที่ผมรู้จัก เป็นคนที่โคตรขี้อายมากๆแต่สิ่งนั้นก็ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ แถมยังเป็นสุดยอดมืออาชีพอีกคนนึงด้วยที่มักจะซ้อมเพิ่มเติมในยิมประจำ (เขาเลยเหมือนผมนะ) ยินดีมากๆที่ได้เล่นด้วยกันกับนาย ขอให้แขวนสตั๊ดอย่างมีความสุข โตนิโอ"
Paul Scholes:
"ยินดีกับการมีเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยม ที่สุดของที่สุดแล้วที่ได้เล่นด้วยกัน ได้แชร์ห้องแต่งตัวร่วมกันกับนาย ขอให้โชคดีกับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างต่อจากนี้"
Robin van Persie:
"ขอให้แขวนสตั๊ดอย่างมีความสุขที่สุดนะเพื่อน สนุกมากที่ได้เล่นในสนามกับนาย นายเป็นทั้งบุคคลและนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ"
David De Gea:
"แสดงความยินดีกับการมีเส้นทางอาชีพที่น่ามหัศจรรย์ ขอให้รีไทร์อย่างมีความสุขนะพี่ชาย เราคิดถึงคุณ!"
Ander Herrera:
"หนึ่งในสุดยอดนักเตะที่ดีที่สุดซึ่งผมเคยเล่นด้วย ขอแสดงความยินดีกับอาชีพนักฟุตบอลอันสุดยอดของคุณ และขอให้สนุกกับเรื่องราวต่อจากนี้นะบัดดี้ กอดๆ"
Nani:
"เพื่อนร่วมทีมที่ยิ่งใหญ่ บุคคลที่ยอดเยี่ยม และเพื่อนที่เยี่ยมยอด ขอบคุณตำนานรายนี้สำหรับทุกๆความทรงจำที่เราได้เล่นด้วยกันที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ขอให้รีไทร์อย่างมีความสุข"
Fabio da Silva:
"คุณเป็นนักฟุตบอลที่น่าเหลือเชื่อ ผมสนุกทุกๆช่วงเวลาที่ได้เล่นด้วยกันกับคุณ ขอบคุณมากๆสหาย"
Rafael da Silva:
"เป็นการรีไทร์ที่ดีเยี่ยมมาก ยินดีจริงๆที่ได้เล่นด้วยกัน กับการที่ได้เห็นพลัง ความเร็ว สติปัญญา และมีเพื่อนร่วมรวมทีมที่ดีมากๆเช่นนี้"
Marcos Rojo:
"ขอแสดงความยินดีกับเส้นทางอาชีพที่คุณทำสำเร็จนะเฮีย ขอให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่ที่จะเกิดขึ้น เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมาหลายปี คุณเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ"
ในขณะที่สองอดีตบอสเก่าของเขาอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ได้ส่งข้อความไปหาวาเลนเซียหลังจากแขวนสตั๊ดเอาไว้ดังนี้ว่า
Jose Mourinho:
"มีความสุขมากๆที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ อันโตนิโอ ขอให้คุณพบเจอสิ่งที่ดีที่สุด คุณคือแชมเปี้ยนและผมมีแต่ความทรงจำที่ดีๆต่อกัปตันรายนี้ของผม สามถ้วยที่คุณได้ชูมันขึ้นนั้นจะถูกจดจำตลอดไป ขอมอบกอดใหญ่ๆจากผม JM"
Sir Alex Ferguson:
"ประการแรกเลยก็คือ ขอให้คุณพบเจอแต่สิ่งที่ดีที่สุด คุณมีอาชีพนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมมากๆ และผมคงจะต้องบอกว่าช่วงเวลาที่อยู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นคือสิ่งที่มันจะถูกจดจำไปตลอด การมีคุณมันเหมือนเป็นการมีสิ่งที่พิเศษสุดๆอยู่ในทีมเสมอ"
เราทุกๆคนที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็อยากจะให้เขามีการแขวนสตั๊ดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ในฐานะแฟนบอลคนนึงขอคารวะและแสดงความเคารพต่อสปิริต จิตวิญญาณ และความจงรักภักดีที่มอบให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยการทุ่มเทในสนามบอลแบบ100%ทุกเกมโดยไม่มีอะไรให้เราต้องมานั่งบ่นถึงความตั้งใจของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ความจงรักภักดีที่ยินดีอยู่กับเราโดยไร้เงื่อนไข และก้มหน้าก้มตาลงเล่นไม่ว่าจะตำแหน่งใดๆเพื่อทีม จะปีกขวา แบ็คขวา หรือแม้กระทั่งนั่งข้างสนามโดยไม่ปริปากบ่น และยังปฏิเสธโอกาสหลายๆอย่างเพียงเพื่อจะอยู่ช่วยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในที่แห่งนี้
นี่แหละคือตัวตนของนักฟุตบอลที่น่าชื่นชม และควรค่าอย่างถึงที่สุดต่อการได้รับการแสดงความเคารพจากแฟนบอลปีศาจแดงอย่างถึงที่สุดคนหนึ่งแล้ว
ถ้าหลายๆคนจะลืมไปแล้ว เขาคืออดีตกัปตันทีมของเราที่คู่ควรอย่างยิ่งกับปลอกแขนอันทรงเกียรติ และมีความเป็นมืออาชีพที่น่ายกย่องมากที่สุดจริงๆ
ความเร็วนรกแตก และความแข็งแกร่งอันไร้ก้นบึ้งที่พร้อมพุ่งชนทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้เละเป็นชิ้นๆของคุณ มันจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไปเช่นกัน
คุณคือหนึ่งในตำนานของพวกเรา อันโตนิโอ วาเลนเซีย ขอแสดงความยินดีกับอาชีพนักฟุตบอลที่สุดยอดมากๆของคุณครับ
-ศาลาผี-
References
https://www.theguardian.com/football/2010/may/05/wayne-rooney-antonio-valencia-manchester
https://www.transfermarkt.com/antonio-valencia/profil/spieler/33544
https://backpagefootball.com/antonio-valencia-is-the-fastest-player-in-the-world-apparently/64313/
