:::     :::

จักรวาลคู่ขนานที่กลายมาเป็นเรื่องจริงของหงส์แดง

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,808
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
14 วันก่อน ความหวังในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของลิเวอร์พูลแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ผลจากการเลื่อนเกมการแข่งขันกับแมนฯยูไนเต็ด ทำให้หงส์แดงกลับมามีหวังอีกครั้ง

เส้นทางของลิเวอร์พูล กับการจบฤดูกาลในอับดับ 1-4 ของพรีเมียร์ลีก แทบจะถูกปิดตายไปทันทีที่โจ วิลล็อค ยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ช่วยให้นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ตีเสมอลิเวอร์พูล 1-1 ที่แอนฟิลด์

ผ่านไป 33 เกม อยู่ที่ 6 ตามหลังอันดับ 4 อย่างเชลซี 4 คะแนน แถมยังมีทีมฟอร์มแรงอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ได้พลังเทพจากเจสซี่ ลินการ์ด พาทีมเก็บคะแนนเป็นกอบเป็นกำแซงขึ้นมารั้งอันดับ 5 นำหน้าหงส์แดงอยู่ 1 คะแนน 

เกมการแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล ในสัปดาห์ต่อมาจึงเป็นเหมือนเกมที่ต้องชี้ชะตาว่าลิเวอร์พูลจะอยู่ตรงไหนหลังจากจบฤดูกาลนี้ เช่นเดียวกับทางฝั่งทีมเจ้าบ้านที่กระหาย 3 คะแนน เป็นอย่างมากเพื่อทำคะแนนไล่บี้ทีมจ่าฝูง และคู่ปรับร่วมมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ชนะมาในเกมวันเสาร์ขึ้นแท่นรอแล้ว หากทีมปิศาจแดงไม่สามารถเก็บคะแนนในเกมนี้ได้ พวกเขาจะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ในทันที

เป็นเกมที่บอกเลยวา่า หนักมากๆสำหรับทีมหงส์แดง ถ้าชนะก็จะทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ไปเลย และนั่นก็จะทำให้แมนฯซิตี้ สามารถเลือกส่งตัวรองลงเจอเชลซี ในสัปดาห์หน้าได้ แน่นอนโอกาสที่เชลซี ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับลิเวอร์พูลอยู่ จะเก็บ 3 คะแนนนั้นก็มีมากขึ้น ส่วนถ้าเสมอหรือแพ้ การโดนทั้งเชลซี เลสเตอร์ รวมถึงเวสต์แฮม ทำคะแนนฉีกหนีห่างออกไป ในขณะที่เหลือเกมอีก 3 เกม ก็เป็นเรื่องยากที่ทีมจะทำคะแนนไล่ตามทัน

เรียกได้ว่า ไม่ว่าเกมนี้จะออกมาในรูปแบบไหน ทันทีที่ลิเวอร์พูล เดินลงสนาม ยังไงก็ช้ำ

ผมถึงบอกว่า มันเป็นโชคชะตาที่ลิขิตแล้วว่าให้ลิเวอร์พูลจะไม่ได้ไปถ้วยหูใหญ่ 

แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เกมพบแมนฯยูไนเต็ด กลับต้องยกเลิก และเลื่อนการแข่งขันจากการการประท้วงของแฟนบอลเจ้าถิ่น 




การที่เกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป มันทำให้สถานการณ์ทั้ง 2 ข้อที่ยกมาอ้างไม่เกิดขึ้นสักทางหนึ่ง คือ ลิเวอร์พูลยังคงอยู่บนเส้นทางความหวังในการจบ 1 ใน 4 อันดับแรก และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ จนกว่าจะเก็บเพิ่มได้อีก 3 คะแนน ใน 4 เกมสุดท้าย ซึ่งการชนะเชลซีในบ้าน แล้วได้ฉลองแชมป์ คงเป็นสิ่งที่เป๊ป และนักเตะต้องการ ซึ่งถึงตอนนี้เรารู้แล้วว่า ทำได้แค่เกือบ ฮ่าๆ

การเลื่อนการแข่งขันทำให้แมนฯยูไนเต็ด ต้องมีโปรแกรมที่ล้นทะลักในช่วงท้ายฤดูกาล สร้างความได้เปรียบให้กับลิเวอร์พูลที่มีโปรแกรมเตะน้อยกว่า ได้เตรียมทีม ได้พักมากกว่า นั่นทำให้ทันทีที่นัดต่อมาลิเวอร์พูลเอาชนะเซาท์แธมป์ตันในบ้านได้ 2-0 โมเมนตัมจึงเหวี่ยงกลับมาอยู่ฝั่งพวกเขาทันที แทนที่จะเข้าสู้แดงเดือดแบบฟอร์มไม่ดี ลิเวอร์พูลใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างความมั่นใจใหม่ขึ้นมา ในขณะที่ทีมปิศาจแดง เวลาจะซ้อมแทบไม่มี ต้องปรับนักเตะเป็น 10 คนต่อเกม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก แต่แล้วก็ไม่วายที่จะต้องเสียแฮรี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังตัวหลักไปจนได้

สถานการณ์เปลี่ยน โอกาสก็เปลี่ยน ลิเวอร์พูลบุกมาซัดแมนฯยูไนเต็ดพ่ายคาถิ่น 2-4 ทำในสิ่งที่หากเตะกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาอาจจะทำไม่ได้

เมื่อรวมกับการที่เชลซีดันพลาดท่าพ่ายอาร์เซน่อล เช่นเดียวกับเวสต์แฮม ที่ยางแตกแพ้เอฟเวอร์ตันคาบ้าน แถมยังทำได้แค่ 1 คะแนนในเกมไปเยือนไบร์ทตัน หลุดวงโคจรออกไป นั่นทำให้หากลิเวอร์พูลเอาชนะในอีก 3 เกมที่เหลือได้หมด ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาติดอันดับ 4 ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าได้

ไม่มีใครรู้ว่า หากโปรแกรมเตะระหว่างแมนฯยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล ถ้าลงเล่นตามเดิม ตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่การเปลี่ยนแปลงแบบไม่คาดคิด กลับเป็นจุดไครแม็กซ์ที่สำคัญของหงส์แดงในฤดูกาลนี้

โอกาสกลับมาเป็นของพวกเขาแล้ว ทีนี้เหลือแค่ตัวเองว่า จะคว้าโอกาสที่เด้งกลับมานี้ได้มากน้อยขนาดไหน

คืนนี้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน จะเป็นคนให้คำตอบนั้น ครับ



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด