ทว่าสุดท้ายเป็น การท่าเรือ เอฟซี ที่ปาดคว้าตัวแข้งมาดากัสการ์รายนี้ไปครอง โดยรายละเอียดเหลือเพียงขั้นตอนการเปิดตัวอย่างทางการเท่านั้น

ท่ามกลางคำถามที่ถูกโยนในโลกโซเชียล เหตุใด “สิงห์เจ้าท่า” จึงตัดสินใจเลือกดาวยิงเจ้าของส่วนสูง 158 ซม. ทั้งที่ “เจ้าบุญทุ่มแห่งคลองเตย” รวยมากพอที่จะเปย์แข้งที่มีดีกรีชื่อชั้นดีกว่านี้ได้

วันนี้เราจะมาฝอยประเด็นนี้กัน

 

ประสบการณ์ในไทยหายห่วง

ตั้งแต่วันที่อกหักจากการไม่ได้ร่วมทัพ การท่าเรือ จนเซ็นสัญญากับ สุโขทัย บาจโจ ตะบันชีวิตลูกหนังในไทยมากว่า 6 ปี ลงเล่นไปมากถึง 151 นัด กดไป 48 ประตู กับ 54 แอสซิสต์

สมัยอยู่กับ สุโขทัย ทีมมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมากมาย เช่นเดียวกับรูปแบบแท็คติกที่ถูกหมุนไปตามสไตล์โค้ชแต่ละคน แต่บาจโจ เองยังสามารถยืนหยัด ลงทำงานในสนามตามที่ได้รับมอบหมายด้วยมาตรฐานระดับสูงอย่างแทบไม่มีตกลงจากเดิม

ทำให้เชื่อว่าในเรื่องประสบการณ์ที่มีมากเป็นปึก รวมถึงการ “ปรับตัว” เข้ากับฟุตบอลลีกไทย และเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง การท่าเรือ นั้น บาจโจ ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด

 

เงื่อนไขเวลาจากโควิด-19

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ฟุตบอลไทยเวลานี้อยู่ท่ามกลางหมอกร้ายโควิด-19 การจะอิมพอร์ทแข้งจากต่างแดนเข้ามายังไทยตอนนี้ ต้องผ่านขั้นตอนจากทางรัฐบาลมากมาย ตั้งแต่ตรวจโรค กักตัว ซึ่งกินเวลานานพอควร

กอปรกับ การท่าเรือ มีโปรแกรมต้องลงเล่นรายการ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่มในเดือนหน้า ยิ่งทำให้พวกเขาไม่มีเวลามากพอไปนั่งเฟ้นหาแข้งจากนอกประเทศ ฉะนั้นการหาผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดีที่ค้าแข้งในไทย ในเงื่อนไขเวลาที่มีจำกัด น่าจะตอบโจทย์มากกว่า

และ บาจโจ คือผู้เล่นตัวรุกที่มีคุณสมบัติตามที่ การท่าเรือ ต้องการ

เติมเต็มอาวุธฝั่งขวา

ในฤดูกาลที่ผ่านมาตำแหน่งตัวรุกด้านขวา ตั้งแต่ไม่มี เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส การท่าเรือ ใช้บริการผู้เล่นอย่าง ยานนิก โบลี, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ เป็นหลัก ทว่าหลังจบฤดูกาลทีม “เจ้ากอล์ฟ” หมดสัญญายืมตัวกลับต้นสังกัด เมืองทอง โบลี ไม่อยู่ในแผนทำทีม ทำให้เหลือ ปกรณ์ เป็นตัวเลือกเดียวในตำแหน่งนี้

อย่างไรก็ตามสไตล์ของ “บาส” เป็นปีกที่เน้นครอสบอลเป็นหลัก ซึ่งต่างจากบาจโจ ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะความเร็ว การเลี้ยงกินตัว จังหวะจบสกอร์ หรือแอสซิสต์ให้เพื่อน ทำให้การมาของ บาจโจ จะเพิ่มมิติให้ทัพแสด-น้ำเงิน ได้อย่างชัดเจน

 

ไป ACL ต้องมีนักเตะอย่าง บาจโจ

ปกติหากเล่นในไทยลีก ศักยภาพ การท่าเรือ ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อเป็นเวทีระดับเอเชีย ย่อมไม่แปลกที่จะมีทีมที่กระดูกแข็งกว่าพวกเขารออยู่

1 ในยุทธวิธีที่ทีมบอลรองทั่วโลกใช้ยามเจอทีมแกร่ง คือบอลสไตล์สวนกลับ ทำให้การมี บาจโจ ซึ่งมีความเร็วในตัว สามารถไปกับบอลได้ดี น่าจะตอบโจทย์สำหรับ การท่าเรือ อย่างมากในการใช้ตอบโต้เกมบุกของคู่แข่ง เหมือนที่เจ้าตัวทำให้เห็นบ่อยครั้ง สมัยค้าแข้งกับ สุโขทัย

สภาพแวดล้อมที่ดีช่วยเพิ่มศักยภาพ

หนึ่งประโยคที่เราได้ยินมาตลอดสมัย บาจโจ ค้าแข้งกับ สุโขทัย คือ “เดอะแบก” ของทีม กล่าวคือเขากลายเป็นนักเตะที่ถูกคาดหวังว่าจะช่วยทีมได้ ในห้วงเวลาวิกฤต หรือต้องการประตูสำคัญ ๆ

อย่างไรก็ตามที่ การท่าเรือ เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับทีมชาติ และแข้งคุณภาพมากมาย ทำให้เขาเองอาจไม่ต้องรับบทบาทเป็น “เดอะแบก” เหมือนอยู่กับ สุโขทัย อีกต่อไป และน่าจะได้คู่หูในแนวรุกที่เซนส์ฟุตบอลทันกัน มองตาก็เข้าใจ และช่วยเพิ่มศักยภาพให้ตัวเขาและทีมได้