:::     :::

เส้นทางลูกหนังดินแดนผู้ดีกับ "เอริก คันโตน่า"

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,966
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถูกบรรจุเข้าไปในหอเกียรติยศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับเอริก คันโตน่าตำนานดาวเตะชาวฝรั่งเศส โดยการถูกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บรรจุชื่อลงใน "ฮอลล์ ออฟ เฟม" ถือว่ามาจากผลงาน และเส้นทางลูกหนังที่เจ้าตัวฝากเอาไว้ โดยเฉพาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเรียกว่าเป็นทีมที่เขากอบโกยความสำเร็จอย่างเป็นกอบเป็นกำ


คันโตน่า สร้างชื่อกับลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่างดิวิชั่น 1 (เดิม) ในช่วงฤดูกาล 1991-92 หลังจากนั้น เขาย้ายมาสร้างความยิ่งใหญ่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย และบวกกับเอฟเอ คัพ 2 ครั้ง ก่อนประกาศแขวนสตั๊ด อย่างช็อคโลกลูกหนัง ด้วยวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น 


สำหรับสถิติส่วนตัวที่คันโตน่า ฝากเอาไว้ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นคือการยิงไป 82 ประตู จากการลงสนามไป 185 เกม อาจกล่าวได้ว่าก็องโต้ถือเป็นนักเตะที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รักดั่งลูกชาย และประคบประหงมเป็นอย่างดีเลยทีเดียว 


อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนคือ ก่อนที่คันโตน่า จะก้าวมาประสบความสำเร็จกับฟุตบอลอังกฤษ เขาเกือบไม่ได้มาเล่นฟุตบอลที่ประเทศนี้แล้วด้วยซ้ำ แถมยังทดสอบฝีเท้าไม่ผ่านอีกต่างหาก ท่ามกลางอุปสรรคมากมายที่หักเหให้เขาเลือกเดินมาอีกทาง


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำกันหน่อยว่า กว่าที่คันโตน่า จะก้าวมาประสบความสำเร็จกับยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ จนนำเขาเข้าสู่ ฮอลล์ ออฟ เฟม เขาผ่านเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจมาบ้าง ? 

หากเราหมุนเข็มนาฬิกา เพื่อย้อนเวลากลับไป สมัยที่คันโตน่า เริ่มต้นเส้นทางลูกหนัง ในประเทศบ้านเกิดอย่างฝรั่งเศส เขาผ่านการค้าแข้งกับบรรดาสโมสรดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โอแซร์ และโอลิมปิก มาร์กเซย ซึ่งผลงานกับโอแอ็ม” ยอดเยี่ยมมาก เมื่อสามารถคว้าแชมป์ลีก เอิง 2 สมัย 


อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คันโตน่า จะย้ายมาเล่นกับลีดส์ ยูไนเต็ด เขาเคยเดินทางมาดินแดนผู้ดีรอบหนึ่งแล้ว โดยหนนั้น เป็นการทดสอบฝีเท้ากับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ก่อนที่จะถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี จากมุมมองของเทรเวอร์ ฟรานซิส กุนซือของนกเค้าแมวในเวลานั้น 


คันโตน่า ออกมาย้อนความทรงจำว่า เขาประสบความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า กับการเดินทางมาทดสอบฝีเท้ากับทางเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ แม้ว่าเขาจะสามารถทำผลงานในช่วงทดลองแข้งได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตามที แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ช่วยให้เขาเรียนรู้ ในการกลับมาใหม่อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม

คันโตน่า ออกมากล่าวว่าย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น ผม และทนายส่วนตัวเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ทนายพยายามอย่างหนัก พร้อมกับค้นหาหนทางต่างๆ เพื่อให้ผมได้เซ็นสัญญากับสโมสรอย่างเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เรื่องราวมันเป็นแบบนั้น 


เหตุการณ์หลังจากนั้น ผมมีโอกาสลงฝึกซ้อม และลงเล่นอุ่นเครื่องให้กับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ผลสุดท้าย เราเป็นฝ่ายบดเอาชนะคู่แข่งไปด้วยสกอร์ 4-3"


"ที่สำคัญคือ เกมดังกล่าว ผมสามารถที่จะกระหน่ำแฮททริคเป็นผลสำเร็จด้วย” คันโตน่า กล่าวต่อไป แต่ผลสุดท้าย การย้ายทีมกลับไม่เกิดขึ้น ด้วยเหตุผลในแง่ของความเชื่อมั่นในฝีเท้า 


บางทีแล้ว ..... เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ อาจมีความสงสัยในตัวผม แต่ตอนนั้น ผมเป็นถึงนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส สโมสรกลับต้องการเวลาตัดสินใจเกี่ยวกับผม ซึ่งผมมองว่า มันไม่ใช่เส้นทางที่ควรจะเป็นเลย"


ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจคือ นอกเหนือจากเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ยังมีอีกหนึ่งทีมจากเกาะอังกฤษ ที่เคยปฏิเสธรับตัวคันโตน่า เข้าร่วมทีมเช่นเดียวกัน ซึ่งทีมนั้นคือยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูล 

เรื่องนี้ รับการยืนยันจากปากของ แกรม ซูเนสส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ในช่วงเวลานั้น ที่ออกมาบอกว่า คนที่แนะนำให้ลิเวอร์พูล ซื้อตัวคันโตน่า มาร่วมทีม นั่นคือตำนานทีมชาติฝรั่งเศส อย่างมิเชล พลาตินี่ แต่ทุกอย่างต้องล้มเลิกไปด้วยบางเหตุผล 


ซูเนสส์ ย้อนความทรงจำปี 1991 ว่า พลาตินี่ เป็นคนแนะนำให้ดึงตัวคันโตน่า มาร่วมทีมลิเวอร์พูล โดยพูดบรรยายสรรพคุณว่า นี่คือกองหน้าที่มีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ซูเนสส์ กลับตอบปฏิเสธไป เพราะว่าทีมมีผู้เล่นกองหน้าเยอะมากแล้ว 


อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ซูเนสส์ ไม่อยากได้คันโตน่า มาร่วมทีม นั่นคือเรื่องของความเสี่ยงเพราะคันโตน่า ถือเป็นนักเตะที่ฝีเท้าดี แต่กลับมีความเป็นศิลปิน และชอบก่อเรื่องอื้อฉาวอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับการเล่นที่ประเทศฝรั่งเศส 


อย่างที่เราทราบกัน ในเวลาต่อมา คันโตน่า กลายมาเป็นตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหนึ่งในนั้นคือการยิงประตูชัย พาทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 1996 เหนือทีมที่เคยปฏิเสธเขาอย่างลิเวอร์พูล นั่นเอง 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด