ข่าวลือที่ทำท่าว่าจะใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที ก็คือ ซีดาน จะอำลา เรอัล มาดริด หลังจบฤดูกาลนี้
แม้ยังไม่มีการยืนยันใดๆ อีกทั้งตัว ซีดาน เองก็ไม่เคยออกมาพูด แต่จากภาษากาย การให้สัมภาษณ์ รวมถึงการนำเสนอจากสื่อในสเปน ต่างชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
ซีดาน ปฏิเสธข่าวที่ว่าเขาได้แจ้งต่อลูกทีมว่าจะลงจากตำแหน่ง แต่ถึงอย่างนั้นข่าวลือนี้ก็ยังไม่จางหาย
ที่อิตาลีกำลังเล่นข่าวกันสนุกว่า มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี คือเต็งจ๋า แถมลงข่าวว่าจะได้สัญญา 2+1 ปี พร้อมค่าเหนื่อย 10 ล้านยูโรจาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ
ขณะเดียวกัน ราอูล กอนซาเลซ ตำนานสโมสรซึ่งปัจจุบันคุม เรอัล มาดริด กาสตีย่า (ผลงานดีซะด้วย) ก็ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าตำนานหมายเลข 7 มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ ‘ชุดขาว’
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากแคนดิเดตเทรนเนอร์คนใหม่แล้ว อีกประเด็นนึงที่แฟนๆอยากรู้ไม่แพ้กันคือ “ทำไม ซีดาน จึงตัดสินใจอำลาทีมอีกครั้ง ?”
หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไม ซีดาน ต้องลาออก บางคนคิดว่าเขามีปัญหากับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ จนโดนกดดันให้ลงจากตำแหน่ง บ้างว่าเพราะ เปเรซ ไม่ยอมจัดการต่อสัญญากับ เซร์คิโอ รามอส ให้จบๆเสียที เลยทำให้ ซีดาน ไม่พอใจจนไม่ยอมอยู่ต่อ
กับประเด็นหลัง ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ และไม่เคยเป็นเรื่องที่ทำให้ ซีดาน กับ เปเรซ ผิดใจกัน
เปัญหาเกี่ยวกับนักเตะหนสุดท้ายที่คู่นี้เหมือนจะมึนตึงใส่กัน เห็นจะเป็นตอนที่ท่านประธานล้วงลูกไปติดต่อ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า จาก แอธ.บิลเบา มาแทน เกย์ลอร์ นาวาส
หนนั้นเป็นครั้งแรกๆที่ ซีดาน เซ็งท่านประธานอย่างหนัก แต่ท้ายที่สุด เปเรซ ก็ยอมถอย แม้ว่า เกป้า จะเดินทางจากบิลเบามาตรวจร่างกายที่คลีนิคประจำของสโมสรแล้วก็ตาม
สุดท้าย เกป้า ย้ายไป เชลซี ในฐานะผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลก 80 ล้านยูโรในปี 2018 (แต่ตอนนี้เหลือเท่าไหร่แล้ว ยากจะประเมิน)
เหตุการณ์หนนั้นว่ากันว่าเป็นหนึ่งในชนวนให้ ซีดาน ประกาศอำลาทีมไปอย่างสุดช็อค ทั้งๆที่เพิ่งพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ เคียฟ เพียงไม่กี่วัน
ซีดาน ให้เหตุผลการลาออกว่าทีมต้องการการเปลี่ยนแปลง,ต้องการแนวทางใหม่ๆรวมถึงแนวคิดการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม
นอกจากนี้กุนซือฝรั่งเศสยังบอกว่าถ้าเขามองไม่เห็นชัดเจนว่าทีมจะยังคงประสบความสำเร็จในแนวทางที่ต้องการได้อย่างไร มันคงดีกว่าถ้าจะเปลี่ยนแปลงมัน อย่า(ฝืน)ทำอะไรเหลวไหลต่อไปเลย
กล่าวคือ 3 ปีก่อน ซีดาน เห็นว่าทีมมาดริดเดินมาถึงทางตัน ถึงอยู่ต่อก็คงไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ และมีแต่จะแย่ลง
“แล้วมาครั้งนี้ล่ะ ?”
หากท้ายที่สุดข่าวลือที่ว่าเป็นจริง อะไรคือสาเหตุของการลาออก ?
ตอบตามตรง คงไม่มีใครรู้อะไร จนกว่า ซีดาน จะออกมาพูดนั่นแหละครับ หากแต่ถ้าให้วิเคราะห์ ก็จะเห็นได้ว่า ซีดาน เอง ไม่ได้มีความคิดที่จะคัมแบ็กกลับมาคุม เรอัล มาดริด ในรอบที่สองอยู่แล้ว หากแต่สถานการณ์บังคับ ทำให้ต้องกลับมา
การทุ่มเททำงานให้กับทีมอย่าง เรอัล มาดริด นั้น เต็มไปด้วยความกดดัน ไม่ใช่แค่ว่าจะต้องประสบความสำเร็จเท่านั้น หากแต่จะต้องชนะอย่างสวยงาม ด้วยการเล่นที่มีสไตล์ ซึ่งบอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ยากลำบาก ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าห่อเหี่ยวในช่วงวิกฤตโควิด ก็นับได้ว่ามีส่วน, โปรแกรมการแข่งขันที่ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น ทำให้การเตรียมความพร้อมในแต่ละเกมเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ปัญหาที่เจอระหว่างฤดูกาล นักเตะบาดเจ็บที่รุมล้อมไม่หยุดหย่อน ทรัพยากรที่มีให้เลือกใช้งานจำกัด ต่างๆเหล่ามีส่วนในการสร้างความกดดันในการทำงานให้กับ ซีดาน ก่อให้เกิดความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
นี่ยังไม่รวมเสียงวิจารณ์จากสื่อในสเปนที่เล่นงาน ซีดาน หนักมาหลายคราในทุกครั้งที่ทำผิดพลาด และสุดท้ายก็น่าจะอยู่ที่ทีม เรอัล มาดริด ในซีซั่นนี้ด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่าไม่ว่า เรอัล มาดริด จะพลิกแซง แอต.มาดริด คว้าแชมป์ได้หรือไม่ ซีดาน ก็ตระหนักดีว่า เรอัล มาดริด ชุดนี้ถึงคราต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว และมันก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ต่างจากตอนที่เขามองทีมชุดปี 2018 ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเขาก็คือ “การปล่อยมือจากทีม”
ระหว่าง ซีดาน กับ เรอัล มาดริด บางทีอาจถึงคราวที่ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันนานแล้ว หากแต่การคัมแบ็กเมื่อ 11 มีนาคม 2019 คือการฝืนธรรมาชาติ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ ซีดาน วางแผนไว้ให้กับชีวิตตั้งแต่ทีแรก
เจมส์ ลา ลีกา
